ทุกวันนี้รถยนต์ขนาดใหญ่ตั้งแต่ระดับ SUV (Sport Utility Vehicle) ไปจนถึง PPV (Pick-Up Passanger Vehicle) กลายเป็นยานพาหนะที่คนเมืองส่วนใหญ่เลือกใช้ แต่จะตอบโจทย์การใช้รถขนาดใหญ่ในชีวิตประจำวันบนท้องถนนเมืองกรุงหรือไม่? Tonkit360 มีข้อดี-ข้อเสีย ของการใช้รถประเภทนี้มาฝากกัน

ข้อดีของรถใหญ่

• ลุยน้ำท่วมได้ ในระดับไม่เกิน 50 เซนติเมตร ซึ่งรถเก๋งทั่วไป และรถกระบะปกติไม่สามารถทำได้
• มุมมองในการขับขี่และทัศนวิสัยในการมองเห็นดีกว่ารถเก๋งทั่วไป ประกอบกับเบาะที่สูง ทำให้รู้สึกสบายและไม่อึดอัด
• ห้องโดยสารกว้างขวางสะดวกสบาย สามารถรองรับการเดินทางของครอบครัว และกลุ่มเพื่อนได้แบบไร้ปัญหา
• ส่วนใหญ่เป็นรถเครื่องยนต์ดีเซล ซึ่งประหยัดน้ำมันกว่ารถยนต์เครื่องเบนซิน

ข้อเสียของรถใหญ่

• ด้วยมิติความยาวระดับ 4.8 เมตร เชื่อว่า หลายคนประสบปัญหาในการถอยเข้า-ออก ตามสถานที่สาธารณะโดยเฉพาะห้างสรรพสินค้า
• รถ PPV ส่วนใหญ่ดัดแปลงมาจากพื้นฐานช่วงล่างรถกระบะ ฉะนั้น เรื่องของความนุ่มนวลต้องยอมรับว่า เป็นรองรถเก๋งรวมถึงรถเอสยูวี
• คนสูงอายุและเด็ก ขึ้น-ลง ลำบาก เนื่องจากเป็นรถประเภทยกสูง จึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ
• รถ PPV บางรุ่น อาจละเลยเรื่องการออกแบบและองศาของไฟหน้า เนื่องจากเป็นรถยกสูง ทำให้ไฟหน้ากวนสายตารถคันหน้ายามขับขี่เวลากลางคืน

     ทั้งนี้ การใช้งานรถยนต์แต่ละประเภทขึ้นอยู่กับความพอใจส่วนตัวของผู้ใช้ รวมถึงประโยชน์ใช้สอยตามวัตถุประสงค์ของผู้ซื้อ อย่างไรก็ดี สิ่งที่ควรคำนึงถึงให้มากที่สุด ก็คือน้ำใจและวินัยจราจรบนท้องถนนนั่นเอง

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com

.

.

.

.

_____________________________________

เราคือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

เทอร์โบแท้

✅IHI TURBO 🇯🇵

✅GARRETT 🇺🇸

✅ซื้อกับเราได้สินค้าแท้100%

✅คุ้มค่ากว่า ใช้งานได้ในระยะยาว

✅สบายใจกว่า เทอร์โบแท้รับประกันสินค้ายาวนาน

✅บริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม

“โดยทีมงานมืออาชีพ ผู้มีประสบการณ์มากกว่า 24 ปี”

สั่งอะไหล่กับเรา "ออกใบกำกับภาษี" ได้

พร้อมบริการการดูแลหลังการขายตลอดอายุการใช้งาน

⚙️เข้าชมสินค้าทั้งหมดในเว็บไซต์

คลิก: www.sqdparts.com

⚙️สั่งซื้อทางเพจ

คลิก: m.me/sqdparts

⚙️สั่งซื้อผ่านไลน์

       Isuzu (อีซูซุ) นับเป็นอีกหนึ่งค่ายรถกระบะยอดนิยมที่ขายดีในประเทศไทย ด้วยยอดขาย รูปลักษณ์ และชื่อเสียงที่เป็นที่รู้จักจากการทำรถดีเซลที่ขึ้นชื่อ เรื่องความทนทานและการประหยัดน้ำมัน  ซึ่งล่าสุดอีซูซุได้ทำสถิติผลิตรถยนต์จากโรงงานในไทย ครบ 5 ล้านคัน นับตั้งแต่เริ่มก่อตั้งโรงงานเมื่อปี 1963
        
       วันนี้ สยามควาลิตี้ นำวิวัฒนาการของรถกระบะอีซูซุ ตั้งแต่รุ่น TFR ในปี 1997 มาจนถึงปัจจุบัน ว่าเปลี่ยนแปลงไปแค่ไหน มาดูเป็นความรู้ไปพร้อมๆ กันครับ 

1. ปี 1997 Isuzu TFR Dragon eye
Isuzu TFR Dragon eye เปิดตัวครั้งแรกในปี 1997 ตอนวิกฤติต้มยำกุ้ง ค่าเงินลอยตัว 
แม้กระนั้นก็ได้ฉลองยอดการผลิตรถอีซูซุ(ทั้งรถยนต์และรถบรรทุก)ได้ครบ 1 ล้านคันไปพร้อมๆกัน 
โดยรุ่นนี้เป็นไมเนอร์เชนจ์ใหญ่ มีไฟหน้าตาเพชร และเครื่องดีเซลใหญ่ขึ้นเป็น 3.0 เทอร์โบ 4JH1-T กำลัง 120 แรงม้า  รวมทั้งมีการเปิดโรงงาน Isuzu แห่งที่ 2 ตรงนิคมเกตเวย์ฯ จังหวัดฉะเชิงเทรา

2. ปี 2002 Isuzu D-Max
เปิดตัวครั้งแรก ปี 2002 ได้มีการฉลองครบรอบการผลิตรถกระบะอีซูซุ ได้ครบ 1 ล้านคัน เป็นรุ่นที่สร้างชื่อ "ดีแมกซ์" ให้โลกได้รู้จักเป็นครั้งแรก 
และเปิดตัวรุ่นขับเคลื่อนสองล้อ ยกสูงเป็นครั้งแรกก่อนใคร กับรุ่น Hi-Lander ส่วนตัวเครื่องยนต์ดีเซลเพิ่มระบบคอมมอนเรลมาให้เป็นครั้งแรก 
รหัส 4JJ1-TC ความจุ 3.0 ลิตร กำลัง 146 แรงม้า กับรหัส 4JK1-TC ความจุ 2.5 ลิตร กำลัง 116 แรงม้า นั่นเอง 

3. ปี 2004 Isuzu MU-7
อีซูซุ มิว-เซเว่น เปิดตัวครั้งแรกช่วงปลายปี 2004 โดยใช้พื้นฐานของ  D-Max และมีการคิดค้นเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล 3.0 ลิตรมาใช้เป็นครั้งแรก
โดยมีการติดระบบอัดอากาศเทอร์โบอินเตอร์คูลเลอร์ ( turbo intercooler) ให้กำลังถึง 146 แรงม้า โดยมีช่วงล่างหลังเป็นแหนบ 
ที่ช่วยในการปรับปรุงให้นิ่มกว่ากระบะ  รุ่นนี้เป็นรุ่นมีมียอดขายได้ดีในกลุ่มลูกค้าชอบโดยสารเต็ม 7 คน เพราะเบาะหลังนั่งสบาย

4. ปี 2011 Isuzu D-Max
ในปี 2011 อีซูซุ เผยโฉม Model Change ของรถกระบะรุ่นดัง ที่ใช้ไอเดียในการดีไซน์จากรถไฟหัวกระสุนจากญี่ปุ่น โดยใช้เครื่องดีเซล 2.5 VGS Turbo กำลัง 136 แรงม้า หรือเครื่องดีเซล 4 สูบ 3.0 VGS Turbo กำลัง 177 แรงม้า ซึ่งทำยอดขายดีมาก จนปีต่อมาต้องเปิดโรงงานที่นิคมเกตเวย์ จังหวัดฉะเชิงเทรา ฉลองการผลิตรถอีซูซุครบ 3,000,000 คันได้สำเร็จในปี 2012

5. ปี 2014 Isuzu MU-X
โดย Isuzu Mu-x ได้เปิดตัว โฉมโมเดลเชนจ์ในปี 2014 ซึ่งเป็นปีครบรอบ 50 ปี ของบริษัทในไทย 
โดยรุ่นที่ 2 ของรถพีพีวีค่ายนี้ ได้มีการปรับเปลี่ยนช่วงล่างหลังไปใช้คอยล์สปริงเป็นครั้งแรก 
และมีราคาเปิดตัวอยู่ที่ประมาณ 1,044,000-1,419,000 บาท และยังใช้เครื่องเดียวกับ 2012 D-Max 
ในปีต่อมา ปี2014 ก็ได้มีการเปลี่ยนมาใช้เครื่องยนต์ใหม่ 1.9 Ddi กำลัง 150 แรงม้า

6. ปี 2019 Isuzu D-Max
ที่สุดของรถกระบะ ที่พลิกโลก ได้เปิดตัวเมื่อปี 2019 ใช้ชื่อเดิมแต่เปลี่ยนโฉมใหม่ และมีการใช้เครื่องดีเซล รหัส RZ4E-TC 
หรือที่รู้จักกันในชื่อ Blue Power ความจุ 1.9 ลิตร กำลังสูงสุด 150 แรงม้า โดยยังมีเครื่องดีเซล 3.0 ลิตร 177 แรงม้าเช่นเดิม

7. ปี 2021 Isuzu MU-X
ในปี 2021 อีซูซุ มิว-เอกซ์ ได้มีการเปิดตัวเจเนอเรชั่นที่ 3 ของรถพีพีวีค่ายนี้จากเมื่อ 2020 
โดยมีจุดเด่นที่การใส่ระบบช่วยขับขี่มาเต็มรูปแบบ ด้วยกล้องหน้าคู่ แต่ยังคงใช้เครื่องยนต์ดีเซล 1.9 และ 3.0 เช่นเคย และเปิดราคาขายในไทยด้วยราคาตั้งแต่ 1,109,000-1,579,000 บาท เท่านั้น 

             อย่างไรก็ตาม ในปี 2020 เป็นปีที่อีซูซุ ได้รับผลกระทบจากโรคระบาดอย่างหนัก เช่นเดียวกันกับ          โรงงานอื่นๆ  ทำให้ทางอีซูซุต้องประกาศหยุดชั่วคราว สาเหตุเพราะขาดอะไหล่จากยุโรปที่จะต้องนำส่ง            แต่ใดๆ แล้ว ปีนี้ทางอีซูซุก็ยังสามารถฉลองการผลิตรถได้ครบ 5,000,000 คัน เช่นเดิม 

ขอบคุณที่มาดีๆ จาก www.autofun.co.th ครับ 

_______________________________________

เราคือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ เทอร์โบแท้

IHI TURBO

GARRETT

ซื้อกับเราได้สินค้าแท้100%

คุ้มค่ากว่า ใช้งานได้ในระยะยาว

สบายใจกว่า รับประกันสินค้ายาวนาน1ปีเต็ม

บริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม

“โดยทีมงานมืออาชีพ ผู้มีประสบการณ์มากกว่า 24 ปี”

สั่งอะไหล่กับเรา "ออกใบกำกับภาษี" ได้

พร้อมบริการการดูแลหลังการขายตลอดอายุการใช้งาน

แค็ตตาล็อกสินค้า