×
ผลการค้นหา : Isuzu
แสดง รายการ

     Toyota Hilux Travo 2026 (โตโยต้า ไฮลักซ์ ทราโว 2026) เปิดตัวและเป็นการปรับตัวครั้งใหญ่กับรถกระบะขนาด 1 ตัน ของ Toyota แม้จะพัฒนาแบบต่อยอดบนโครงสร้างตัวถังเดิม แต่จัดระเบียบไลน์อัพพร้อมชื่อเรียกในแต่ละเกรดใหม่ โดยแบ่งเป็น 4 กลุ่ม คือ กลุ่ม Standard Cab, กลุ่มยกสูง Prerunner & 4TREX และกลุ่มที่เน้นไลฟ์สไตล์กลางแจ้ง Overland ซึ่งมาแทน Revo Rocco เดิม ทุกกลุ่ม-ทุกเกรดมีเฉพาะเครื่องยนต์ดีเซล 2.8 ลิตร เทอร์โบ ส่วนระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ จากเดิมใช้ 4X4 เปลี่ยนเป็นชื่อ 4TREX นอกจากนี้ ยังเพิ่มทางเลือกรถกระบะไฟฟ้าล้วน BEV ด้วย Hilux Travo-e เจาะกลุ่มองค์กร แต่ยังขาดตระกูล GR ที่เรายังไม่ได้เห็นในการเปิดตัวครั้งนี้

 

Toyota Hilux Travo 2026 ดีไซน์ภายนอก

     Toyota Hilux Travo 2026 ได้รับการเปลี่ยนดีไซน์หน้า-หลังใหม่ เพิ่มสไตลิ่งแข็งแกร่งและโมเดิร์นมากขึ้นด้วยการเพิ่มเหลี่ยมสันเข้าไปในงานออกแบบ โดยชื่อใหม่ Travo มาจากการผสมคำระหว่าง Travel กับ Voyage หมายถึงการเดินทาง มีตัวถังให้เลือกทั้งหมด 3 รูปแบบ คือ

  • Standard Cab 2 ประตู ตอนเดียวยกสูงขับเคลื่อน 4 ล้อ (4TREX)
  • Smart Cab 2 ประตู ตอนครึ่งแค็บเปิดได้ มีทั้งยกสูงขับเคลื่อน 2 ล้อ Prerunner และยกสูงขับเคลื่อน 4 ล้อ 4TREX
  • Double Cab 4 ประตู สองตอน มีทั้งยกสูงขับเคลื่อน 2 ล้อ Prerunner และยกสูงขับเคลื่อน 4 ล้อ 4TREX เสริมด้วยรุ่น Overland เพิ่มการตกแต่งสำหรับไลฟ์สไตล์กลางแจ้ง Overland

     โดย Toyota Hilux Travo Overland นั้นมาแทนที่ Hilux Revo Rocco มีเฉพาะตัวถัง Double Cab 4 ประตู แต่แบ่งเป็น Prerunner ยกสูงขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4TREX ขับเคลื่อน 4 ล้อ เพิ่มการตกแต่งภายนอกมากกว่า Prerunner และ 4TREX มาตรฐาน เช่น สปอร์ตบาร์กระบะท้าย ล้ออัลลอยลายต่างกัน

Toyota Hilux Travo 2026 ดีไซน์ภายใน

     สำหรับภายใน Toyota Hilux Travo 2026 ได้รับการออกแบบใหม่ โดยเฉพาะแผงคอนโซลหน้าที่ปรับแนวคิดลบความโค้งมนมาเล่นกับรูปทรงเรขาคณิต ใช้งานง่าย จริงจัง ตรงไปตรงมา ทุกรุ่นใช้ห้องโดยสารโทนสีดำ เบาะหุ้มผ้า Caretex (ยกเว้น Smart Cab เกียร์ธรรมดาเป็น PVC) และตั้งแต่เกรด Premium ขึ้นไป ตกแต่งคอนโซลบุด้วยวัสดุผิวสัมผัสนุ่ม พวงมาลัยหุ้มหนัง มีเบรกมือไฟฟ้า ที่ชาร์จสมาร์ตโฟนไร้สาย ระบบเสียงหน้าจอสัมผัส 12.3 นิ้ว ส่วนเกรด Overland ได้เบาะหุ้มหนังสังเคราะห์ Softex แทนเบาะผ้า ฝั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง มาตรวัดและจออินโฟเทนเมนต์ 12.3 นิ้ว แอร์อัตโนมัติแยกปรับ 2 โซน ช่องเก็บความเย็น Coolbox ขณะที่ Toyota Hilux Travo-e ก็จะได้อุปกรณ์มากพอ ๆ กับ Overland

Toyota Hilux Travo 2026 เครื่องยนต์และสมรรถนะ

     รถกระบะ Toyota Hilux ที่พ่วงด้วยชื่อ Travo ทั้งหมดจะใช้เครื่องยนต์ดีเซล 2.8 ลิตร เทอร์โบแปรผัน อินเตอร์คูลเลอร์ รหัส 1GD-FTV เป็นพื้นฐานทั้งหมด แต่รุ่นเกียร์ธรรมดา (MT) และเกียร์อัตโนมัติ (AT) จะมีสมรรถนะต่างกัน

เกียร์ธรรมดา

     กำลังสูงสุด 204 แรงม้า ที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 420 นิวตันเมตร ที่ 1,400-3,400 รอบ/นาที เกียร์ธรรมดา 6 สปีด

เกียร์อัตโนมัติ

     กำลังสูงสุด 204 แรงม้า ที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ที่ 1,600-2,800 รอบ/นาที เกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด

          ในส่วนของ Toyota Hilux Travo-e ที่ใช้เทคโนโลยีไฟฟ้าล้วน (BEV) ติดตั้งมอเตอร์ 1 ตัวบนเพลาหน้า กำลัง 112 แรงม้า แรงบิด 205.5 นิวตันเมตร และ 1 ตัวบนเพลาหลังกำลัง 176 แรงม้า แรงบิด 268.6 นิวตันเมตร ขับเคลื่อน 4 ล้อ แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 59.2 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ติดตั้งตรงกลางระหว่างคานแชสซีส์ยึดด้วยซับเฟรม ระยะทางวิ่งสูงสุด 315 กิโลเมตร (NEDC) รองรับ Fast Charge กำลังสูงสุด 125 กิโลวัตต์

Toyota Hilux Travo 2026 เทคโนโลยีและระบบความปลอดภัย

     ทางด้านระบบความปลอดภัย Toyota Hilux Travo รุ่น Overland กับ Travo-e จะมาพร้อมระบบช่วยขับขี่ เช่น ระบบรักษาความเร็ว Dynamic Radar Cruise Control ทำงานได้ทุกย่านความเร็ว กล้องมองภาพรอบคัน เตือนการจราจรขณะถอย เตือนรถออกนอกเลน (พร้อมดึงกลับในรุ่น Overland Plus) แต่ Travo-e ไม่มีระบบนี้และจะได้ระบบควบคุมรถให้วิ่งกลางเลน

     ส่วนระบบความปลอดภัยพื้นฐานตัวถัง Standard Cab และ Smart Cab ติดตั้งถุงลมนิรภัย 3 จุด (รวมถึงตัวถัง Double Cab ในรุ่น Prerunner กับ 4TREX ขณะที่ Overland Plus กับ Travo-e ตัวถัง Double Cab จะมีทั้งหมด 7 จุด ทุกรุ่นมีระบบเตือนมุมอับสายตา กล้องมองหลัง ระบบควบคุมการทรงตัว ควบคุมการส่ายเมื่อพ่วงท้าย เป็นต้น

 

Toyota Hilux Travo 2026 มีกี่สี

     Toyota Hilux Travo แต่ละไลน์อัพจะมีสีตัวถังให้เลือกต่างกัน ดังนี้

Toyota Hilux Travo Standard Cab

  • สีเทา Ash
  • สีเงิน Silver Metallic
  • สีขาว Super White II

Toyota Hilux Travo Prerunner & 4TREX

  • สีน้ำตาล Sulfur Metallic
  • สีดำ Attitude Black Mica
  • สีเทา Ash
  • สีเงิน Silver Metallic
  • สีขาว Super White II

Toyota Hilux Travo Overland

  • สีน้ำตาล Sulfur Metallic
  • สีดำ Attitude Black Mica
  • สีเทา Ash
  • สีขาว Platinum White Pearl Mica

Toyota Hilux Travo 2026 ราคาจำหน่าย

Toyota Hilux Travo Standard Cab

  • รุ่น 2.8 4TREX ราคา 767,000 บาท
  • รุ่น 2.8 4TREX เกียร์ออโต้  ราคา 819,000 บาท

Toyota Hilux Travo Prerunner

     Toyota Hilux Travo Prerunner แบ่งเป็น 2 ตัวถัง คือ Smart Cab และ Double Cab

Smart Cab

  • รุ่น 2.8 Smart ราคา 789,000 บาท
  • รุ่น 2.8 Smart เกียร์ออโต้ ราคา 839,000 บาท
  • รุ่น 2.8 Premium ราคา 859,000 บาท
  • รุ่น 2.8 Premium เกียร์ออโต้ ราคา 909,000 บาท

Double Cab

  • รุ่น 2.8 Smart ราคา 895,000 บาท
  • รุ่น 2.8 Smart เกียร์ออโต้ ราคา 945,000 บาท
  • รุ่น 2.8 Premium ราคา 949,000 บาท
  • รุ่น 2.8 Premium เกียร์ออโต้ ราคา 999,000 บาท

Toyota Hilux Travo 4TREX

          Toyota Hilux Travo 4TREX แบ่งเป็น 2 ตัวถัง คือ Smart Cab และ Double Cab

Smart Cab

  • รุ่น 2.8 4TREX Premium ราคา 984,000 บาท
  • รุ่น 2.8 4TREX Premium เกียร์ออโต้ ราคา 1,029,000 บาท

Double Cab

  • รุ่น 2.8 4TREX Premium ราคา 1,090,000 บาท

Toyota Hilux Travo Overland

  • รุ่น 2.8 Overland ราคา 1,102,000 บาท
  • รุ่น 2.8 Overland เกียร์ออโต้ ราคา 1,102,000 บาท
  • รุ่น 2.8 Overland 4TREX เกียร์ออโต้ ราคา 1,292,000 บาท
  • รุ่น 2.8 Overland Plus 4TREX เกียร์ออโต้ ราคา 1,366,000 บาท

Toyota Hilux Travo-e

  • รุ่น Double Cab 4TREX ราคา 1,491,000 บาท

สรุปความน่าสนใจของ Toyota Hilux Travo 2026

          สำหรับใครที่เชื่อมั่นรถกระบะตระกูล Hilux ของ Toyota อยู่แล้ว ในยุคของ Travo มีการปล่อยออปชั่นหรือกั๊กน้อยลง (ไม่ว่าจะด้วยสถานการณ์และการแข่งขันก็ตามที) การจัดระเบียบรุ่นย่อยใหม่ให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายยิ่งขึ้น ในภาพรวมราคาปรับขึ้นเล็กน้อยแลกกับอุปกรณ์มาตรฐานที่มากกว่าเดิม

          ขณะเดียวกันทุกรุ่นได้เครื่องยนต์ดีเซล 2.8 ลิตร 204 แรงม้า เท่ากันหมด (หากไม่นับ Travo-e) แต่ประหยัดกว่าเครื่องยนต์ 2.4 ลิตร โดยเทียบระหว่าง Toyota Hilux Travo 2.8 Prerunner ตัวถัง Double Cab เกียร์ออโต้ อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 14.5 กิโลเมตร/ลิตร (EcoSticker) กับ Toyota Hilux Revo 2.4 Prerunner เกียร์ออโต้ ที่ทำอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยได้ 13.7 กิโลเมตร/ลิตร (EcoSticker)

          อย่างไรก็ตาม Toyota Hilux Travo ใหม่ จะยังไม่มีรุ่นความสูงมาตรฐานอย่าง Z Edition ในตอนนี้ รวมถึงตระกูล GR ซึ่งคาดว่าตามมาในอนาคต ส่วนตลาดรถกระบะเชิงพาณิชย์ Toyota ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่ยังมอบให้ Hilux Revo รับหน้าที่ควบคู่กับ Hilux Champ ส่วนเรื่องดีไซน์ถือว่าเป็นความชอบส่วนบุคคล รอดูผลจากยอดขายว่าจะทิ้งห่าง Isuzu D-Max ได้หรือไม่ มากน้อยแค่ไหน 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก kapook.com

.

.

.

.

_____________________________________

เราคือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

เทอร์โบแท้

IHI TURBO 🇯🇵

GARRETT 🇺🇸

MITSUBISHI TURBOCHARGER 🇯🇵

ซื้อกับเราได้สินค้าแท้100%

คุ้มค่ากว่า ใช้งานได้ในระยะยาว

สบายใจกว่า เทอร์โบแท้รับประกันสินค้ายาวนาน

บริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม

โดยทีมงานมืออาชีพ ผู้มีประสบการณ์มากกว่า 24 ปี”

สั่งอะไหล่กับเรา "ออกใบกำกับภาษี" ได้

พร้อมบริการการดูแลหลังการขายตลอดอายุการใช้งาน

⚙️เข้าชมสินค้าทั้งหมดในเว็บไซต์

คลิก: www.sqdparts.com

⚙️สั่งซื้อทางเพจ

คลิก: m.me/sqdparts

⚙️สั่งซื้อผ่านไลน์

คลิก: https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=sqdparts

คลิกYoutube : https://bit.ly/3IAJstu

คลิกTiktok : https://bit.ly/3bXmLmN

คลิกInstagram : https://bit.ly/3AFxMDx

 

เขียนโดย sqdparts เมื่อ Sat 15 Nov, 2025
อ่านต่อ

สัญญาณเตือนและอาการของเทอร์โบพังในรถ Isuzu D-Max

การที่เทอร์โบพังเป็นปัญหาที่ค่อนข้างร้ายแรงสำหรับรถดีเซลที่มีระบบอัดอากาศ หากไม่ได้รับการแก้ไขอย่างทันท่วงที อาจส่งผลเสียต่อเครื่องยนต์โดยรวมได้ หากสังเกตเห็นอาการผิดปกติเหล่านี้ ควรนำรถเข้าตรวจสอบโดยช่างผู้เชี่ยวชาญทันที

1. เสียงผิดปกติจากเทอร์โบ

  • เสียงหอนดังผิดปกติ (Whining Sound): เป็นสัญญาณที่พบบ่อยที่สุดและชัดเจนที่สุด อาการนี้เกิดจากแกนเทอร์โบหลวม ทำให้ใบพัดเสียดสีกับโข่งหรือปากเทอร์โบ
  • เสียงวี้ดแหลม (Siren Sound): เสียงคล้ายไซเรนที่ดังขึ้นตามรอบเครื่องยนต์ เป็นสัญญาณว่าแบริ่งในแกนเทอร์โบเริ่มสึกหรออย่างรุนแรง

2. ประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ลดลง

  • รถไม่มีกำลัง อัตราเร่งตก (Loss of Power): สังเกตได้ว่ารถอืดลงอย่างชัดเจน เร่งไม่ขึ้นเหมือนเดิม โดยเฉพาะในรอบเครื่องยนต์ที่เทอร์โบควรจะทำงาน (รอบสูง) อาการนี้เกิดจากการที่เทอร์โบไม่สามารถสร้างแรงดันอากาศได้เพียงพอ
  • ควันไอเสียเปลี่ยนไป:
    • ควันดำ (Black Smoke): เกิดจากส่วนผสมของอากาศและเชื้อเพลิงไม่สมดุล คือมีน้ำมันมากเกินไปแต่อากาศน้อย ซึ่งเป็นผลมาจากเทอร์โบไม่สามารถอัดอากาศได้เต็มที่
    • ควันขาว/ควันฟ้า (White/Blue Smoke): เป็นอาการที่รุนแรงและอันตราย บ่งบอกว่ามีน้ำมันเครื่องรั่วเข้าไปในห้องเผาไหม้ สาเหตุหลักคือซีลแกนเทอร์โบชำรุด ทำให้เครื่องยนต์กินน้ำมันเครื่องอย่างผิดปกติ

3. การรั่วซึมของน้ำมันเครื่อง

  • น้ำมันเครื่องหาย/ลดลงผิดปกติ: หากต้องเติมน้ำมันเครื่องบ่อยกว่าปกติ โดยที่ไม่มีรอยรั่วซึมที่ชัดเจนภายนอกเครื่องยนต์ มีความเป็นไปได้สูงที่น้ำมันเครื่องจะถูกเผาไหม้ไปกับไอเสียผ่านทางเทอร์โบ
  • คราบน้ำมันในท่ออินเตอร์คูลเลอร์: หากถอดท่อที่ต่อจากเทอร์โบไปยังอินเตอร์คูลเลอร์แล้วพบว่ามีคราบน้ำมันเครื่องเยิ้ม แสดงว่าซีลเทอร์โบชำรุดและน้ำมันเครื่องรั่วซึม

วิธีการตรวจเช็คเบื้องต้นด้วยตัวเอง

การตรวจเช็คด้วยตัวเองควรทำด้วยความระมัดระวังและเมื่อเครื่องยนต์เย็นลงแล้วเท่านั้น:

  1. ถอดท่ออากาศที่ต่อเข้ากับปากเทอร์โบฝั่งไอดี (ฝั่งอากาศเข้า):
    • ตรวจเช็คใบพัด: ใช้ไฟฉายส่องดูว่าใบพัดมีร่องรอยการบิ่น แหว่ง หรือคดงอหรือไม่ หากพบว่ามีแสดงว่าเทอร์โบชำรุด
    • โยกแกนเทอร์โบ: ใช้มือจับที่แกนใบพัดแล้วลองโยกดูทั้งแนวขึ้น-ลง และหน้า-หลัง หากมีการขยับมากผิดปกติ แสดงว่าแกนหลวม
    • หมุนแกนเทอร์โบ: ลองใช้นิ้วหมุนใบพัดดู ควรจะหมุนได้อย่างราบรื่น หากรู้สึกฝืดหรือมีเสียงครืดคราด แสดงว่าแกนเทอร์โบมีปัญหา
  2. ตรวจเช็คคราบน้ำมัน:
    • ตรวจสอบคราบน้ำมันในท่อและรอบๆ โข่งเทอร์โบ หากมีคราบน้ำมันเยิ้มเป็นจำนวนมาก แสดงว่าซีลเทอร์โบรั่ว

คำแนะนำ: หากพบอาการผิดปกติใดๆ ข้างต้น ควรหยุดใช้รถและนำรถเข้าอู่ซ่อมหรือศูนย์บริการที่เชี่ยวชาญทันที เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจลุกลามไปยังเครื่องยนต์ ซึ่งจะทำให้ค่าใช้จ่ายในการซ่อมสูงขึ้นมาก

 

_____________________________________

เราคือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

เทอร์โบแท้

IHI TURBO 🇯🇵

GARRETT 🇺🇸

MITSUBISHI TURBOCHARGER 🇯🇵

ซื้อกับเราได้สินค้าแท้100%

คุ้มค่ากว่า ใช้งานได้ในระยะยาว

สบายใจกว่า เทอร์โบแท้รับประกันสินค้ายาวนาน

บริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม

โดยทีมงานมืออาชีพ ผู้มีประสบการณ์มากกว่า 24 ปี”

สั่งอะไหล่กับเรา "ออกใบกำกับภาษี" ได้

พร้อมบริการการดูแลหลังการขายตลอดอายุการใช้งาน

⚙️เข้าชมสินค้าทั้งหมดในเว็บไซต์

คลิก: www.sqdparts.com

⚙️สั่งซื้อทางเพจ

คลิก: m.me/sqdparts

⚙️สั่งซื้อผ่านไลน์

คลิก: https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=sqdparts

คลิกYoutube : https://bit.ly/3IAJstu

คลิกTiktok : https://bit.ly/3bXmLmN

คลิกInstagram : https://bit.ly/3AFxMDx

เขียนโดย sqdparts เมื่อ Mon 15 Sep, 2025
อ่านต่อ

     แนะนำรถมือสองรุ่นใหญ่ 7 ที่นั่ง ในงบประมาณไม่เกิน 3 แสนบาท เหมาะสำหรับครอบครัวขยาย หรือดัดแปลงเพื่อนำไปใช้งานแบบแคมปิ้งก็ดี จะมีรุ่นไหนให้เลือกบ้างไปดูกันเลย

 

แนะนำรถมือสอง 7 ที่นั่ง ราคาไม่เกิน 300,000 บาท

Toyota Wish รุ่นปี 2004 - 2009

ราคามือสองโดยประมาณ 210,000 - 310,000 บาท

     อันที่จริงต้องบอกว่า Toyota Wish เป็นรถแบบ 6 ที่นั่งเสียมากกว่า เพราะทุกรุ่นย่อยจะมาพร้อมเบาะนั่งแถวที่ 2 แบบกัปตันซีทแยกออกจากกัน สามารถปรับได้อย่างอิสระ มีจุดเด่นอยู่ที่ช่วงล่างแน่นหนึบเน้นความสปอร์ต เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบขับรถเร็ว ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร กำลังสูงสุด 150 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ

 

Toyota Innova (โฉมแรก) รุ่นปี 2006 - 2011

ราคามือสองโดยประมาณ 190,000 - 280,000 บาท

     Toyota Innova โฉมแรกใช้พื้นฐานเดียวกับ Hilux Vigo และ Vigo Champ จึงมีจุดเด่นอยู่ที่ความทนทาน อะไหล่หาง่าย ค่าบำรุงรักษาไม่แพง โดยมากแล้วจะเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร ซึ่งหากใครกังวลเรื่องอัตราสิ้นเปลืองก็สามารถนำไปติดตั้งแก๊สได้ แต่หากได้เครื่องยนต์ดีเซล 2.5 ลิตร ก็จะโดดเด่นในเรื่องของสมรรถนะและมีอัตราสิ้นเปลืองต่ำ แลกมาด้วยค่าตัวที่สูงกว่ารุ่นเบนซินพอสมควร

 

Isuzu MU-7 (โฉมไมเนอร์เชนจ์) รุ่นปี 2017 - 2012

ราคามือสองโดยประมาณ 250,000 - 420,000 บาท

     Isuzu MU-7 โฉมสุดท้ายก่อนเปลี่ยนเป็น MU-X เป็นอีกหนึ่งรุ่นยอดนิยม โดยเฉพาะราคามือสองที่เข้าถึงได้ง่าย แม้ว่าหน้าตาอาจจะไม่โดนใจนัก แต่ก็แลกมาด้วยความทนทานสไตล์อีซูซุ ซ่อมบำรุงรักษาไม่ยาก พร้อมด้วยห้องโดยสารกว้างขวางเหมาะสำหรับการใช้งานในครอบครัว

 

Honda Odyssey (RA6) รุ่นปี 2001 - 2005

ราคามือสองโดยประมาณ 190,000 - 280,000 บาท

     Honda Odyssey เจเนอเรชันที่ 2 รหัสตัวถัง RA6 ยังคงมีรูปลักษณ์ที่สวยงามน่าใช้ ซ่อมบำรุงง่าย ระบบเครื่องยนต์ไม่ซับซ้อน เพราะเป็นเครื่องบล็อกเดียวกับ Accord แต่น่าเสียดายที่เบาะนั่งแถวที่ 2 ไม่ใช่แบบกัปตันซีทแยกเหมือนกับเจเนอเรชันแรก แต่ถึงกระนั้นก็ถือว่าเป็นรถเอ็มพีวีรุ่นหนึ่งที่น่าใช้งานแลกกับค่าตัวเริ่มต้นไม่ถึง 2 แสนบาท

 

Mitsubishi Space Wagon (รุ่นปี 2005 - 2011)

ราคามือสองโดยประมาณ 190,000 - 370,000 บาท

     อดีตรถเอ็มพีวีระดับแฟลกชิปของค่ายมิตซูบิชิ ปัจจุบันมีค่าตัวในระดับที่เข้าถึงได้ง่าย ส่วนใหญ่จะป้วนเปี้ยนในระดับ 2 - 3 แสนบาทขึ้นอยู่กับรุ่นปี ห้องโดยสารกว้างขวางรองรับครอบครัวขนาดใหญ่ แต่เครื่องยนต์ 2.4 ลิตร ที่ต้องแบกรับน้ำหนักบอดี้อันใหญ่โตก็ถือว่าตอบสนองได้แต่พอใช้ และขึ้นชื่อว่ากินน้ำมันโหด แต่หากหันไปคบแอลพีจีก็สบายใจได้ในระดับหนึ่ง

 

Ford Everest (โฉมไมเนอร์เชนจ์) รุ่นปี 2007 - 2011

ราคามือสองโดยประมาณ 270,000 - 350,000 บาท

     งบไม่เกินสามแสนก็สามารถเป็นเจ้าของ Ford Everest เจเนอเรชันแรกได้ แนะนำให้เล่นรุ่นปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ที่ได้เครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล Duratorq แล้ว เนื่องจากพละกำลังดีกว่า อัตราสิ้นเปลืองต่ำกว่า และรูปโฉมที่ดูทันสมัยมากกว่า

 

Kia Grand Carnival รุ่นปี 2006 - 2012

ราคามือสองโดยประมาณ 260,000 - 420,000 บาท

     Kia Grand Carnaval เป็นรถ 11 ที่นั่งแท้ๆ มีพื้นที่ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง เพดานโปร่ง พร้อมเครื่องยนต์ดีเซล 2.9 ลิตรที่มีเรี่ยวแรงใช้ได้ ขับทางไกลสบาย แต่ต้องใส่ใจในด้านบำรุงรักษากันสักนิด โดยเฉพาะการหาอู่เฉพาะทางเพื่อซ่อมแซมปัญหาต่างๆ ที่จะทยอยเกิดตามอายุการใช้งาน

 

     ทั้งนี้ การเลือกซื้อรถมือสองจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องดูสภาพรถให้รอบคอบ ต้องไม่ผ่านการชนหนัก หรือพลิกคว่ำ สามารถตรวจสอบประวัติการซ่อมบำรุงที่ผ่านมาได้ ทางที่ดีหากดูรถมือสองไม่เป็นแล้วล่ะก็ ควรพาช่างหรือผู้เชี่ยวชาญไปช่วยเลือกด้วย เพื่อให้ได้รถที่มีสภาพดีเหมาะกับการใช้งานมากที่สุดครับ

 

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com

.

.

.

.

_____________________________________

เราคือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

เทอร์โบแท้

IHI TURBO 🇯🇵

GARRETT 🇺🇸

MITSUBISHI TURBOCHARGER 🇯🇵

ซื้อกับเราได้สินค้าแท้100%

คุ้มค่ากว่า ใช้งานได้ในระยะยาว

สบายใจกว่า เทอร์โบแท้รับประกันสินค้ายาวนาน

บริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม

โดยทีมงานมืออาชีพ ผู้มีประสบการณ์มากกว่า 24 ปี”

สั่งอะไหล่กับเรา "ออกใบกำกับภาษี" ได้

พร้อมบริการการดูแลหลังการขายตลอดอายุการใช้งาน

⚙️เข้าชมสินค้าทั้งหมดในเว็บไซต์

คลิก: www.sqdparts.com

⚙️สั่งซื้อทางเพจ

คลิก: m.me/sqdparts

⚙️สั่งซื้อผ่านไลน์

คลิก: https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=sqdparts

คลิกYoutube : https://bit.ly/3IAJstu

คลิกTiktok : https://bit.ly/3bXmLmN

คลิกInstagram : https://bit.ly/3AFxMDx

เขียนโดย sqdparts เมื่อ Fri 06 Jun, 2025
อ่านต่อ

     Isuzu D-Max MHEV 2025 ใหม่ พร้อมขุมพลังดีเซล 1.9 Mild Hybrid เพิ่มมอเตอร์ไฟฟ้าเสริมการออกตัวและเร่งเครื่องยนต์ เคาะราคาจำหน่าย 1,145,000 บาท

 

Isuzu D-Max MHEV เปิดตัวด้วยรุ่น D-Max Hi-lander 1.9 Ddi MHEV เกรด M เกียร์อัตโนมัติ ตัวถังสีขาวมุกโดโลไมท์ เริ่มวางจำหน่ายวันที่ 20 พฤศจิกายน 2567 สานต่อนโยบายความเป็นกลางทางคาร์บอนในระดับโลกและระดับประเทศผ่าน “โซลูชั่นส์อันหลากหลายสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน” (Multi-pathways to Carbon Neutrality)

 

Isuzu D-Max Hi-lander 1.9 Ddi MHEV ติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซล 1.9 Ddi มาตรฐาน Euro 5 พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าเสริมการขับเคลื่อนในช่วงออกตัวและขณะเร่งเครื่อง และระบบแปลงพลังงานที่สูญเสียในขณะถอนคันเร่งหรือเบรกเป็นพลังงานไฟฟ้า (Regenerative Braking System)

 

ติดตั้งแบตเตอรี่ไฟฟ้าขนาด 48 โวลต์ 8.4 แอมป์ ความจุ 370 วัตต์-ชั่วโมง เพื่อช่วยลดการปล่อยไอเสียและสามารถปั่นไฟเพื่อชาร์จพลังงานเมื่อถอนคันเร่ง (Engine Brake) ตามมาตรฐาน EURO 5

 

ภายในห้องโดยสารติดตั้งหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ Integrated MID ขนาด 7 นิ้ว รองรับการแสดงสถานะการชาร์จแบตเตอรี่ และข้อมูลอื่นๆ ได้หลากหลาย ปรับเปลี่ยนหน้าจอได้ 2 สไตล์ และเชื่อมต่อข้อมูลกับ Infotainment Display ได้

 

การรับประกัน Isuzu D-Max Hi-lander 1.9 Ddi MHEV

  • เครื่องยนต์ 1.9 Ddi รับประกัน 3 ปี หรือ 100,000 กม.
  • แบตเตอรี่ Mild Hybrid รับประกัน 10 ปี หรือ 350,000 กม.
  • ระบบ Mild Hybrid รับประกัน 5 ปี หรือ 175,000 กม.

ทั้งนี้ Isuzu D-Max 1.9 Ddi MHEV จะวางจำหน่ายอีก 1 เกรด คือ D-Max Cab4 1.9 Ddi MHEV เกรด S เกียร์อัตโนมัติ สีเงินโบฮีเมียนเมทัลลิก โดยจะถูกประกาศราคาจำหน่ายอีกครั้ง

 

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com

.

.

.

.

_____________________________________

เราคือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

เทอร์โบแท้

IHI TURBO 🇯🇵

GARRETT 🇺🇸

MITSUBISHI TURBOCHARGER 🇯🇵

ซื้อกับเราได้สินค้าแท้100%

คุ้มค่ากว่า ใช้งานได้ในระยะยาว

สบายใจกว่า เทอร์โบแท้รับประกันสินค้ายาวนาน

บริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม

โดยทีมงานมืออาชีพ ผู้มีประสบการณ์มากกว่า 24 ปี”

สั่งอะไหล่กับเรา "ออกใบกำกับภาษี" ได้

พร้อมบริการการดูแลหลังการขายตลอดอายุการใช้งาน

⚙️เข้าชมสินค้าทั้งหมดในเว็บไซต์

คลิก: www.sqdparts.com

⚙️สั่งซื้อทางเพจ

คลิก: m.me/sqdparts

⚙️สั่งซื้อผ่านไลน์

คลิก: https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=sqdparts

คลิกYoutube : https://bit.ly/3IAJstu

คลิกTiktok : https://bit.ly/3bXmLmN

คลิกInstagram : https://bit.ly/3AFxMDx

เขียนโดย sqdparts เมื่อ Thu 24 Oct, 2024
อ่านต่อ

     กระบะไฟฟ้าขนาดกลางไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป เพราะก่อนหน้านี้ Isuzu ประกาศเตรียมเปิดตัว D-Max EV ภายในปี 2025 ขณะที่ Toyota ก็มีแผนเปิดตัว Hilux (หรือ Hilux Revo) เวอร์ชันไฟฟ้าล้วนในปี 2026 และล่าสุด Ford ก็ประกาศเตรียมเปิดตัว Ranger EV ในอีก 3 ปีข้างหน้านี้

 

อันที่จริง Ford ไม่ได้ประกาศเตรียมเปิดตัว Ranger EV ชัดๆ เสียทีเดียว หากแต่ระบุว่ามีแผนเปิดตัวรถกระบะขนาดกลางขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าที่พัฒนาขึ้นบนแพล็ตฟอร์มใหม่ภายในปี 2027 นี้ โดยเน้นจับกลุ่มลูกค้าที่มองหาความคุ้มค่า ระยะทางขับขี่ที่มากกว่า อเนกประสงค์กว่า และรองรับการใช้งานได้หลากหลาย

 

จึงมีความเป็นไปได้สูงว่ารถกระบะรุ่นดังกล่าวก็คือ Ranger ที่วางจำหน่ายในปัจจุบัน ขณะที่ "แพล็ตฟอร์มใหม่" ก็เป็นไปได้ว่าอาจจะเป็น Ranger ที่พัฒนาขึ้นบนแพล็ตฟอร์มใหม่ทั้งหมด หรือ Ranger EV อาจถูกพัฒนาขึ้นบนแพล็ตฟอร์มสำหรับระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าโดยเฉพาะก็เป็นได้

 

ก่อนหน้านี้ ฟอร์ตเผยโฉม Ranger PHEV ขุมพลัง Plug-in Hybrid เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว โดยมีกำหนดเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไป ซึ่งจะมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 2.3 EcoBoost ควบคู่กับมอเตอร์และแบตเตอรี่ที่ให้ระยะทางขับขี่ในโหมดไฟฟ้าสูงสุด 45 กม. ทั้งยังมีฟังก์ชัน Pro Power Onboard ที่สามารถจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าภายนอกได้

 

ส่วนความคืบหน้าของ Ford Ranger EV ต้องรอรายละเอียดกันอีกครั้ง

 

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com

.

.

.

.

_____________________________________

เราคือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

เทอร์โบแท้

IHI TURBO 🇯🇵

GARRETT 🇺🇸

MITSUBISHI TURBOCHARGER 🇯🇵

ซื้อกับเราได้สินค้าแท้100%

คุ้มค่ากว่า ใช้งานได้ในระยะยาว

สบายใจกว่า เทอร์โบแท้รับประกันสินค้ายาวนาน

บริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม

โดยทีมงานมืออาชีพ ผู้มีประสบการณ์มากกว่า 24 ปี”

สั่งอะไหล่กับเรา "ออกใบกำกับภาษี" ได้

พร้อมบริการการดูแลหลังการขายตลอดอายุการใช้งาน

⚙️เข้าชมสินค้าทั้งหมดในเว็บไซต์

คลิก: www.sqdparts.com

⚙️สั่งซื้อทางเพจ

คลิก: m.me/sqdparts

⚙️สั่งซื้อผ่านไลน์

คลิก: https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=sqdparts

คลิกYoutube : https://bit.ly/3IAJstu

คลิกTiktok : https://bit.ly/3bXmLmN

คลิกInstagram : https://bit.ly/3AFxMDx

เขียนโดย sqdparts เมื่อ Wed 11 Sep, 2024
อ่านต่อ

     ปัจจุบันปัญหาการโจรกรรมรถยนต์ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการส่งออกรถยนต์ไปยังประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงการนำไปแยกชิ้นส่วนเพื่อขายเป็นอะไหล่มือสอง ซึ่งปัญหาเหล่านี้ทำเอาเจ้าของรถน้ำตาตกมาแล้วนับไม่ถ้วน เราจึงรวบรวมเอา 4 อันดับรุ่นรถที่ขึ้นชื่อว่าถูกขโมยมากที่สุดมาฝากกัน หากใครมีไว้ครอบครองต้องระวังให้ดี

1. Toyota Fortuner

     โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ เป็นรถอเนกประสงค์ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งแก๊งหัวขโมยจะเน้นไปที่รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อเป็นหลัก เนื่องจากขายได้ราคาดีกว่า ดังนั้นใครที่ครอบครองรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ แต่นำสติ๊กเกอร์ของรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อมาติดไว้ ก็ถือเป็นการเพิ่มโอกาสเสี่ยงถูกขโมยได้เช่นกัน

2. Toyota Hilux Revo

     โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ ถือเป็นรถกระบะยอดนิยมทั่วโลกเลยก็ว่าได้ จึงไม่แปลกที่รถรุ่นนี้จะถูกขโมยและลักลอบส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านอยู่บ่อยครั้ง โดยจะถูกเน้นไปที่รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อเช่นเดียวกับรุ่นฟอร์จูนเนอร์ เนื่องจากมีความสมบุกสมบันมากกว่า เหมาะกับใช้งานในพื้นที่ทุรกันดารได้ดีกว่า จึงทำให้เป็นที่หมายปองของแก๊งโจรกรรมรถยนต์นั่นเอง

3. Isuzu D-Max

     กระบะยอดนิยมอย่าง Isuzu D-Max ก็เป็นหนึ่งในรุ่นท็อปฮิตเสี่ยงหายมากที่สุดเช่นกัน โดยไม่ว่าจะเป็นตัวถังแบบ 2 ประตู หรือ 4 ประตู จะเป็นรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ หรือ 4 ล้อ ก็มีความเสี่ยงที่จะถูกขโมยด้วยกันทั้งสิ้น เนื่องจากรถรุ่นนี้เป็นที่นิยมทั้งการนำไปใช้ทั้งคัน และการนำไปแยกอะไหล่ขาย ดังนั้นใครมีรถรุ่นนี้อยู่ต้องระวังให้ดี

4. Toyota Corolla Altis

     นอกจากรถกระบะและพีพีวีที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว Toyota Corolla Altis ก็เป็นรถเก๋งที่มีความเสี่ยงถูกโจรกรรมมากที่สุดเช่นกัน เนื่องจากรถรุ่นนี้มีความต้องการอะไหล่ที่สูงมาก จึงทำให้เป็นที่นิยมในการนำไปแยกชิ้นส่วนเพื่อขายอะไหล่นั่นเอง

 

     ดังนั้น คุณผู้อ่านที่ครอบครองรถยนต์เหล่านี้อยู่ ก็ควรดูแลรักษาให้อยู่ในที่ที่ปลอดภัยเสมอ ทางที่ดีควรมีรั้วรอบขอบชิด จอดไว้ในที่ที่มีแสงสว่างตลอดทั้งคืน รวมถึงการติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันการขโมยต่างๆ ก็จะช่วยป้องกันการสูญหายได้ในระดับหนึ่งครับ

 

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com

.

.

.

.

_____________________________________

เราคือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

เทอร์โบแท้

IHI TURBO 🇯🇵

GARRETT 🇺🇸

MITSUBISHI TURBOCHARGER 🇯🇵

ซื้อกับเราได้สินค้าแท้100%

คุ้มค่ากว่า ใช้งานได้ในระยะยาว

สบายใจกว่า เทอร์โบแท้รับประกันสินค้ายาวนาน

บริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม

โดยทีมงานมืออาชีพ ผู้มีประสบการณ์มากกว่า 24 ปี”

สั่งอะไหล่กับเรา "ออกใบกำกับภาษี" ได้

พร้อมบริการการดูแลหลังการขายตลอดอายุการใช้งาน

⚙️เข้าชมสินค้าทั้งหมดในเว็บไซต์

คลิก: www.sqdparts.com

⚙️สั่งซื้อทางเพจ

คลิก: m.me/sqdparts

⚙️สั่งซื้อผ่านไลน์

คลิก: https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=sqdparts

คลิกYoutube : https://bit.ly/3IAJstu

คลิกTiktok : https://bit.ly/3bXmLmN

คลิกInstagram : https://bit.ly/3AFxMDx

เขียนโดย sqdparts เมื่อ Thu 22 Feb, 2024
อ่านต่อ
แสดง รายการ
ร้านค้าออนไลน์ และ ขายของออนไลน์ โดย © 2006-2025 Vevo Systems Co., Ltd.