×
บล็อก
แสดง รายการ

     น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 และ 95 หรือน้ำมันเบนซิน E10 สามารถเติมผสมกับน้ำมัน E20 ได้หรือไม่ จำเป็นต้องรอให้น้ำมันเกลี้ยงถังก่อนหรือเปล่า จึงจะสามารถสลับไปเติมน้ำมันอีกประเภทได้ บทความนี้ เรามีคำตอบมาฝากกันครับ

 

น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 / 95 เติมผสมกับ E20 ได้หรือไม่?

น้ำมันเบนซิน E10 หรือน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 และ 95 สามารถเติมผสมกับน้ำมัน E20 ได้หรือไม่? คำตอบคือ "ได้" เนื่องจากน้ำมันทั้ง 3 ชนิดมีส่วนผสมหลักคือเบนซิน เพียงแต่มีอัตราส่วนของเอทานอลที่แตกต่างกันออกไป หากว่ารถของคุณระบุว่าสามารถเติม E20 ได้อยู่แล้ว ก็สามารถเติมผสมกับน้ำมัน E10 ได้อย่างไร้ปัญหา

 

อย่างไรก็ดี ก่อนเติมน้ำมันผสมระหว่าง E10 และ E20 ควรอ่านคู่มือรถยนต์ให้ละเอียด เพื่อดูว่ารถของคุณรองรับน้ำมันประเภทใดบ้าง และการเปลี่ยนประเภทของน้ำมันบ่อยครั้ง อาจทำให้ระบบเชื้อเพลิงของรถยนต์ปรับตัวไม่ทัน และส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องยนต์ได้เล็กน้อย

 

ทั้งนี้ การเติมน้ำมันให้เต็มถังเป็นประจำ จะช่วยลดการเกิดสนิมในถังน้ำมัน และการเลือกปั๊มน้ำมันที่มีคุณภาพ จะช่วยลดความเสี่ยงที่จะได้รับน้ำมันที่ปนเปื้อน การดูแลรักษารถยนต์ให้ดี จะช่วยให้รถยนต์ของคุณใช้งานได้ยาวนานและมีประสิทธิภาพ

 

     ดังนั้นการเติมน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 / 95 ผสมกับ E20 นั้นทำได้ แต่ต้องแน่ใจว่ารถของคุณรองรับน้ำมัน E20 ได้ เพราะการเลือกใช้น้ำมันที่เหมาะสม จะช่วยให้รถยนต์ของคุณใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และไร้ปัญหาในระยะยาวครับ

 

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com

.

.

.

.

_____________________________________

เราคือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

เทอร์โบแท้

IHI TURBO 🇯🇵

GARRETT 🇺🇸

MITSUBISHI TURBOCHARGER 🇯🇵

ซื้อกับเราได้สินค้าแท้100%

คุ้มค่ากว่า ใช้งานได้ในระยะยาว

สบายใจกว่า เทอร์โบแท้รับประกันสินค้ายาวนาน

บริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม

โดยทีมงานมืออาชีพ ผู้มีประสบการณ์มากกว่า 24 ปี”

สั่งอะไหล่กับเรา "ออกใบกำกับภาษี" ได้

พร้อมบริการการดูแลหลังการขายตลอดอายุการใช้งาน

⚙️เข้าชมสินค้าทั้งหมดในเว็บไซต์

คลิก: www.sqdparts.com

⚙️สั่งซื้อทางเพจ

คลิก: m.me/sqdparts

⚙️สั่งซื้อผ่านไลน์

คลิก: https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=sqdparts

คลิกYoutube : https://bit.ly/3IAJstu

คลิกTiktok : https://bit.ly/3bXmLmN

คลิกInstagram : https://bit.ly/3AFxMDx

เขียนโดย sqdparts เมื่อ Fri 06 Sep, 2024
อ่านต่อ

     การตรวจสอบรถที่เคยจมน้ำนั้นสำคัญมาก เพราะแม้ภายนอกจะดูสะอาดเรียบร้อยดี แต่ภายในอาจมีปัญหาซ่อนอยู่มากมาย ซึ่งหากซื้อไปใช้งานอาจเกิดปัญหาตามมาในภายหลังได้ ก่อนตัดสินใจซื้อรถมือสองจึงควรตรวจสอบด้วยว่ารถเคยจมน้ำมาหรือเปล่า

 

วิธีดูรถมือสองว่าเคยจมน้ำมาก่อนหรือไม่

ตรวจสอบภายในห้องโดยสาร

รถที่เคยจมน้ำมักจะมีกลิ่นอับชื้น หรือกลิ่นของสารเคมีที่ใช้ในการทำความสะอาด (เช่น กลิ่นคลอรีน) พร้อมทั้งตรวจสอบบริเวณจุดอับสายตาที่มองเห็นยาก เช่น ใต้เบาะนั่ง หรือในช่องเก็บของต่างๆ ว่ามีรอยสนิมหรือร่องรอยของการกัดกร่อนหรือไม่

 

ตรวจสอบภายนอก

ตรวจสอบตามซุ้มล้อ บริเวณใต้ท้องรถ และช่องว่างต่างๆ ว่ามีรอยน้ำท่วมหรือรอยดินเลนติดอยู่หรือไม่ จากนั้นตรวจสอบตามซอกหลืบต่างๆ เพื่อหารอยสนิมหรือร่องรอยของการกัดกร่อน อีกทั้งรถที่ผ่านการทำสีเนื่องจากน้ำท่วม สีรถอาจดูไม่สม่ำเสมอ หรือมีรอยด่างที่เกิดจากการซ่อมแซมหลังจากน้ำท่วม

 

ตรวจสอบห้องเครื่องยนต์

ตรวจสอบบริเวณสายไฟต่างๆ ว่ามีรอยน้ำกัดกร่อนหรือไม่ พร้อมทั้งตรวจหารอยสนิมตามซอกมุมต่างๆ ภายในห้องเครื่องยนต์ หากพบว่ามีสนิมในจุดที่ผิดวิสัย ให้สันนิษฐานก่อนว่ารถอาจเคยจมน่ำมา

 

ตรวจสอบเอกสารและประวัติซ่อมบำรุง

หากเป็นไปได้ควรขอเอกสารประวัติการซ่อมรถจากเจ้าของเดิม เพื่อตรวจสอบว่ามีการซ่อมแซมส่วนใดไปแล้วบ้าง โดยรถที่เคยจมน้ำมามีความเป็นไปได้สูงว่าจะถูกเปลี่ยนเครื่องยนต์ หากรถที่อายุไม่เก่ามาก แต่เคยผ่านการเปลี่ยนเครื่องยนต์มาแล้ว อาจสันนิษฐานได้ว่าเคยจมน้ำมาก่อน (สามารถตรวจสอบได้จากหน้า 18 ในสมุดคู่มือจดทะเบียน)

 

ข้อเสียของการใช้รถที่เคยจมน้ำ

รถที่เคยผ่านการจมน้ำอาจพบว่ามีปัญหาที่แก้ไม่จบ เช่น สายไฟหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าชำรุด ทำให้ระบบไฟฟ้าทำงานผิดปกติ มีอาการรวน มีไฟโชว์แบบไม่ทราบสาเหตุ และหากมีการผุกร่อนของโครงสร้างตัวถัง จะทำให้ประสิทธิภาพในการซับแรงลดลง หากประสบอุบัติเหตุอาจทำให้เกิดอันตรายต่อชีวิตได้

 

     ดังนั้น หากคิดจะซื้อรถยนต์มือสองช่วงนี้ นอกจากจะต้องดูสภาพว่าไม่เคยพลิกคว่ำ ชนหนัก หรือตัดต่อตัวถังมาก่อนแล้ว ควรตรวจเช็กว่าเคยผ่านการจมน้ำมาก่อนด้วยหรือไม่ จะได้ไม่เกิดปัญหาปวดหัวตามมาในภายหลังครับ

 

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com

.

.

.

.

_____________________________________

เราคือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

เทอร์โบแท้

IHI TURBO 🇯🇵

GARRETT 🇺🇸

MITSUBISHI TURBOCHARGER 🇯🇵

ซื้อกับเราได้สินค้าแท้100%

คุ้มค่ากว่า ใช้งานได้ในระยะยาว

สบายใจกว่า เทอร์โบแท้รับประกันสินค้ายาวนาน

บริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม

โดยทีมงานมืออาชีพ ผู้มีประสบการณ์มากกว่า 24 ปี”

สั่งอะไหล่กับเรา "ออกใบกำกับภาษี" ได้

พร้อมบริการการดูแลหลังการขายตลอดอายุการใช้งาน

⚙️เข้าชมสินค้าทั้งหมดในเว็บไซต์

คลิก: www.sqdparts.com

⚙️สั่งซื้อทางเพจ

คลิก: m.me/sqdparts

⚙️สั่งซื้อผ่านไลน์

คลิก: https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=sqdparts

คลิกYoutube : https://bit.ly/3IAJstu

คลิกTiktok : https://bit.ly/3bXmLmN

คลิกInstagram : https://bit.ly/3AFxMDx

เขียนโดย sqdparts เมื่อ Fri 06 Sep, 2024
อ่านต่อ

     หากว่าวันหนึ่งคุณเกิดโชคร้ายกุญแจรถแบตหมดขณะออกไปทำธุระข้างนอก จะหาร้านสะดวกซื้อแถวนั้นก็ไม่มี ถึงมีก็เปลี่ยนเองไม่เป็น เมื่อตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ต้องทำอย่างไร บทความนี้ เรามีคำตอบมาฝากกัน

 

กุญแจรถแบตหมดทำอย่างไรดี?

ก่อนอื่นต้องแยกประเภทของกุญแจรีโมตรถยนต์ออกเป็น 2 ประเภท คือ กุญแจรีโมตแบบปกติ และกุญแจแบบสมาร์ทคีย์ (Smart Key) ซึ่งต่างก็มีวิธีแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้ากรณีแบตเตอรี่หมดแตกต่างกันออกไป

 

กุญแจรีโมตแบบปกติ - กรณีเป็นกุญแจรีโมตปกติจะไม่ค่อยมีปัญหา เพราะมีดอกกุญแจให้สามารถเสียบไขประตู และสตาร์ทเครื่องยนต์ได้ตามปกติ เพียงแต่การปลดล็อกประตูด้วยวิธีการเสียบกุญแจแล้วไข อาจทำให้สัญญาณกันขโมยดังขึ้น ซึ่งจะเกิดขึ้นหากว่ามีการล็อกประตูด้วยรีโมตก่อนหน้านี้ ที่ต้องทำก็เพียงแค่สตาร์ทเครื่องยนต์ สัญญาณกันขโมยก็จะดับลงโดยอัตโนมัติ

 

กุญแจแบบสมาร์ทคีย์ - รถยนต์รุ่นใหม่ที่ติดตั้งระบบกุญแบบ Smart Key จะมีวิธีการที่ซับซ้อนขึ้นเล็กน้อย โดยจะต้องถอดดอกกุญแจที่ซ่อนอยู่ในรีโมตมาไขเพื่อปลดล็อกประตู (เมื่อเปิดประตูออกอาจทำให้สัญญาณกันขโมยดังขึ้นได้เช่นกัน) จากนั้นให้นำรีโมตไปแตะบริเวณปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ เหยียบเบรก แล้วจึงกดปุ่มสตาร์ท เครื่องยนต์ก็จะติดขึ้นตามปกติ และสามารถขับต่อไปได้จนถึงจุดหมาย

 

     อย่างไรก็ดี เหล่านี้เป็นเพียงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้น ทางที่ดีควรรีบเปลี่ยนแบตเตอรี่กุญแจเพื่อให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติครับ

 

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com

.

.

.

.

_____________________________________

เราคือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

เทอร์โบแท้

IHI TURBO 🇯🇵

GARRETT 🇺🇸

MITSUBISHI TURBOCHARGER 🇯🇵

ซื้อกับเราได้สินค้าแท้100%

คุ้มค่ากว่า ใช้งานได้ในระยะยาว

สบายใจกว่า เทอร์โบแท้รับประกันสินค้ายาวนาน

บริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม

โดยทีมงานมืออาชีพ ผู้มีประสบการณ์มากกว่า 24 ปี”

สั่งอะไหล่กับเรา "ออกใบกำกับภาษี" ได้

พร้อมบริการการดูแลหลังการขายตลอดอายุการใช้งาน

⚙️เข้าชมสินค้าทั้งหมดในเว็บไซต์

คลิก: www.sqdparts.com

⚙️สั่งซื้อทางเพจ

คลิก: m.me/sqdparts

⚙️สั่งซื้อผ่านไลน์

คลิก: https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=sqdparts

คลิกYoutube : https://bit.ly/3IAJstu

คลิกTiktok : https://bit.ly/3bXmLmN

คลิกInstagram : https://bit.ly/3AFxMDx

เขียนโดย sqdparts เมื่อ Fri 06 Sep, 2024
อ่านต่อ

     หากว่ายางรถยนต์ถูกตะปูตำจนรั่วซึม ควรปะยางเพื่อใช้งานต่อ หรือเปลี่ยนเส้นใหม่ไปเลยดีกว่ากัน บทความนี้ เราจะพาไปหาคำตอบกันครับ

 

ยางถูกตะปูตำยังใช้งานต่อได้หรือไม่?

การตัดสินใจว่าจะปะยางแล้วนำมาใช้งานต่อ หรือเปลี่ยนยางเส้นใหม่ ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ได้แก่

 

ตำแหน่งที่โดนตำ - ถ้าตะปูตำตรงกลางหน้ายาง อาจมีโอกาสปะได้ แต่ถ้าตำบริเวณข้างๆ หรือใกล้ขอบยาง โอกาสปะได้น้อยมาก และควรเปลี่ยนยางใหม่

ขนาดของรู - ถ้ารูเล็กและไม่ฉีกขาดออกไปมาก อาจปะได้ แต่ถ้ารูใหญ่หรือฉีกขาด ควรเปลี่ยนยางใหม่

ชนิดของยาง - ยางบางประเภทอาจไม่สามารถปะได้ เช่น ยาง Run-flat Tire

สภาพของยาง - ถ้ายางมีสภาพเก่ามาก หรือมีร่องรอยการสึกหรอมากอยู่แล้ว ควรเปลี่ยนยางใหม่ทั้งหมด

 

อย่างไรก็ดี การปะยางไม่เพียงแต่จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาเท่านั้น แต่ยังช่วยรอเวลาเพื่อเปลี่ยนยางพร้อมกันทั้ง 4 เส้นเมื่อถึงเวลาจำเป็น จะช่วยรักษาความสมดุลของยางได้ดีกว่า อีกทั้งร้านยางหลายแห่งมักมีโปรโมชันพิเศษเมื่อเปลี่ยนยางครบทั้ง 4 เส้น

 

     ดังนั้น หากพิจารณาแล้วว่าความเสียหายที่เกิดจากการถูกตะปูตำนั้น สามารถแก้ไขด้วยการปะยางได้อย่างปลอดภัย ก็ควรเลือกวิธีปะยางจะดีกว่า แต่หากความเสียหายไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยวิธีการปะแล้วล่ะก็ ควรเลือกเปลี่ยนยางเส้นใหม่ไปเลยจะดีที่สุดครับ

 

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com

.

.

.

.

_____________________________________

เราคือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

เทอร์โบแท้

IHI TURBO 🇯🇵

GARRETT 🇺🇸

MITSUBISHI TURBOCHARGER 🇯🇵

ซื้อกับเราได้สินค้าแท้100%

คุ้มค่ากว่า ใช้งานได้ในระยะยาว

สบายใจกว่า เทอร์โบแท้รับประกันสินค้ายาวนาน

บริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม

โดยทีมงานมืออาชีพ ผู้มีประสบการณ์มากกว่า 24 ปี”

สั่งอะไหล่กับเรา "ออกใบกำกับภาษี" ได้

พร้อมบริการการดูแลหลังการขายตลอดอายุการใช้งาน

⚙️เข้าชมสินค้าทั้งหมดในเว็บไซต์

คลิก: www.sqdparts.com

⚙️สั่งซื้อทางเพจ

คลิก: m.me/sqdparts

⚙️สั่งซื้อผ่านไลน์

คลิก: https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=sqdparts

คลิกYoutube : https://bit.ly/3IAJstu

คลิกTiktok : https://bit.ly/3bXmLmN

คลิกInstagram : https://bit.ly/3AFxMDx

เขียนโดย sqdparts เมื่อ Fri 06 Sep, 2024
อ่านต่อ

     ช่วงฤดูฝนเช่นนี้ เจ้าของรถหลายคนอาจสังเกตว่าหน้าจานเบรกรถของตัวเอง มีคราบสนิมปรากฏอยู่ทั่วทั้งจานเบรก แบบนี้จะเป็นอันตรายหรือไม่ บทความนี้ เราจะพาไปหาคำตอบกัน

 

จานเบรกขึ้นสนิมอันตรายหรือไม่?

คำตอบคือ "ไม่เป็นอันตราย" เนื่องจากสนิมที่เกาะอยู่บนหน้าจานเบรกเกิดขึ้นความชื้นและละอองน้ำ ซึ่งพบได้บ่อยในช่วงฤดูฝน เนื่องจากน้ำฝนจะกระเซ็นจากพื้นไปเกาะอยู่บนจานเบรก ก่อให้เกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันจนกลายเป็นคราบสนิมตามมา

 

แม้ว่าหน้าจานเบรกจะมีคราบสนิมเกาะอยู่ทั่วทั้งจานเบรก แต่เจ้าของรถไม่จำเป็นต้องกังวลไป เนื่องจากคราบสนิมเหล่านี้จะหายไปเมื่อมีการเหยียบเบรกขณะลดความเร็ว จะทำให้หน้าจานเบรกกลับมาใสกิ๊งเหมือนเดิม อย่างไรก็ดี หากใช้ความเร็วในการขับขี่ไม่มากนัก คราบสนิมบนจานเบรกที่ล้อคู่หลังอาจยังคงหลงเหลืออยู่ เนื่องจากรถปกติจะมีแรงเบรกที่ล้อคู่หน้ามากกว่าล้อคู่หลังนั่นเอง

 

     ดังนั้น หากพบว่าจานเบรกรถของคุณมีคราบสนิมเกาะอยู่ก็ไม่ต้องเป็นกังวลไป เพียงนำรถไปใช้งานตามปกติ คราบสนิมก็จะหายไปเองครับ

 

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com

.

.

.

.

_____________________________________

เราคือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

เทอร์โบแท้

IHI TURBO 🇯🇵

GARRETT 🇺🇸

MITSUBISHI TURBOCHARGER 🇯🇵

ซื้อกับเราได้สินค้าแท้100%

คุ้มค่ากว่า ใช้งานได้ในระยะยาว

สบายใจกว่า เทอร์โบแท้รับประกันสินค้ายาวนาน

บริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม

โดยทีมงานมืออาชีพ ผู้มีประสบการณ์มากกว่า 24 ปี”

สั่งอะไหล่กับเรา "ออกใบกำกับภาษี" ได้

พร้อมบริการการดูแลหลังการขายตลอดอายุการใช้งาน

⚙️เข้าชมสินค้าทั้งหมดในเว็บไซต์

คลิก: www.sqdparts.com

⚙️สั่งซื้อทางเพจ

คลิก: m.me/sqdparts

⚙️สั่งซื้อผ่านไลน์

คลิก: https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=sqdparts

คลิกYoutube : https://bit.ly/3IAJstu

คลิกTiktok : https://bit.ly/3bXmLmN

คลิกInstagram : https://bit.ly/3AFxMDx

เขียนโดย sqdparts เมื่อ Fri 06 Sep, 2024
อ่านต่อ

     การบีบแตรรถยนต์เป็นการสื่อสารที่สำคัญในการขับขี่ แต่การใช้สัญญาณแตรในสถานที่ที่ไม่เหมาะสม อาจก่อให้เกิดความรำคาญและเป็นอันตรายต่อผู้อื่นได้ กฎหมายจราจรไทยจึงกำหนดให้มีสถานที่ห้ามใช้สัญญาณแตร เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัย

 

5 สถานที่ที่ห้ามบีบแตร มีดังนี้

  1. เขตชุมชน - หมายถึง พื้นที่ที่มีบ้านเรือนอาศัย ตั้งแต่เวลา 22.00 น. - 06.00 น.
  2. โรงพยาบาล - รวมถึงบริเวณโดยรอบโรงพยาบาล
  3. สถานศึกษา - เช่น โรงเรียน มหาวิทยาลัย โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่มีการเรียนการสอน
  4. เขตพระราชฐาน - เพื่อรักษาความสงบและความเป็นส่วนตัว
  5. บริเวณที่ติดป้ายห้ามบีบแตร - เช่น ใกล้สถานที่ท่องเที่ยว วัด หรือในซอยที่เป็นที่อยู่อาศัย

 

     ตามข้อมูลพระราชบัญญัติการจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 14 ระบุไว้ว่า การใช้เสียงสัญญาณ ผู้ขับขี่จะใช้ได้เฉพาะเมื่อจำเป็นหรือป้องกันอุบัติเหตุเท่านั้น แต่จะใช้เสียงยาวหรือซ้ำเกินควรไม่ได้ ซึ่งหากทำผิดมาตรา 14 วรรค 2 จะมีบทลงโทษตามมาตรา 150 (1) โดยมีโทษปรับ 500 บาท

 

     สาเหตุที่ห้ามบีบแตรในสถานที่เหล่านี้ เนื่องจากเสียงแตรรถยนต์ที่ดังรบกวน อาจส่งผลกระทบต่อการพักผ่อนและการดำเนินชีวิตประจำวันของผู้อื่น รวมถึงอาจสร้างความตกใจให้กับผู้ป่วยภายในเขตพื้นที่โรงพยาบาล

 

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com

.

.

.

.

_____________________________________

เราคือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

เทอร์โบแท้

IHI TURBO 🇯🇵

GARRETT 🇺🇸

MITSUBISHI TURBOCHARGER 🇯🇵

ซื้อกับเราได้สินค้าแท้100%

คุ้มค่ากว่า ใช้งานได้ในระยะยาว

สบายใจกว่า เทอร์โบแท้รับประกันสินค้ายาวนาน

บริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม

โดยทีมงานมืออาชีพ ผู้มีประสบการณ์มากกว่า 24 ปี”

สั่งอะไหล่กับเรา "ออกใบกำกับภาษี" ได้

พร้อมบริการการดูแลหลังการขายตลอดอายุการใช้งาน

⚙️เข้าชมสินค้าทั้งหมดในเว็บไซต์

คลิก: www.sqdparts.com

⚙️สั่งซื้อทางเพจ

คลิก: m.me/sqdparts

⚙️สั่งซื้อผ่านไลน์

คลิก: https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=sqdparts

คลิกYoutube : https://bit.ly/3IAJstu

คลิกTiktok : https://bit.ly/3bXmLmN

คลิกInstagram : https://bit.ly/3AFxMDx

เขียนโดย sqdparts เมื่อ Sat 31 Aug, 2024
อ่านต่อ
แสดง รายการ
ร้านค้าออนไลน์ และ ขายของออนไลน์ โดย © 2006-2024 Vevo Systems Co., Ltd.