×
บล็อก
แสดง รายการ

     การขับรถในเมืองที่เต็มไปด้วยการจราจรที่หนาแน่น ย่อมสิ้นเปลืองน้ำมันมากกว่าการขับรถออกต่างจังหวัด บทความนี้ เรามีเคล็ดไม่ลับช่วยลดอัตราสิ้นเปลืองให้น้อยที่สุดสำหรับการขับขี่ในเมือง จะมีอะไรบ้างไปดูกัน

 

1. หลีกเลี่ยงช่วงเวลารถติด

การวางแผนการเดินทางและหลีกเลี่ยงช่วงเวลาเร่งด่วนเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการประหยัดน้ำมัน การจราจรที่ติดขัดทำให้รถต้องหยุดและออกตัวบ่อยครั้ง ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการกินน้ำมันมากที่สุด หากเป็นไปได้ ควรเลือกเดินทางในช่วงเวลาที่รถไม่ติด หรือใช้แอปพลิเคชันนำทางเพื่อตรวจสอบสภาพการจราจรแบบเรียลไทม์และเลือกเส้นทางที่เหมาะสมก่อนออกเดินทาง

 

2. ขับรถด้วยความเร็วคงที่

การขับรถด้วยความเร็วคงที่และนุ่มนวลจะช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมัน หลีกเลี่ยงการเร่งความเร็วและเบรกอย่างรุนแรง เพราะการกระทำเหล่านี้จะทำให้เครื่องยนต์ทำงานหนักและสิ้นเปลืองน้ำมันมากกว่าปกติ พยายามรักษาความเร็วให้สม่ำเสมอและใช้เบรกอย่างนุ่มนวลเมื่อจำเป็น

 

3. ติดไฟแดงเข้าเกียร์ N

เมื่อต้องจอดรถติดไฟแดงนานๆ ควรเข้าเกียร์ N (เกียร์ว่าง) และดึงเบรกมือขึ้น การทำเช่นนี้จะช่วยลดภาระของเครื่องยนต์และประหยัดน้ำมันได้มากกว่าการเหยียบเบรกไว้ในเกียร์ D (เกียร์เดินหน้า)

 

อย่างไรก็ตาม หากเป็นการจอดรถติดไฟแดงเพียงชั่วครู่ ก็ไม่จำเป็นต้องเข้าเกียร์ N เพราะการเข้าเกียร์ N บ่อยๆ อาจทำให้เกียร์เสื่อมสภาพเร็วกว่าที่ควร

 

4. ปรับอุณหภูมิแอร์อย่างเหมาะสม

การปรับอุณหภูมิแอร์ให้เหมาะสมจะช่วยประหยัดน้ำมันได้มากขึ้น อุณหภูมิที่แนะนำคือ 24 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่เย็นสบายและไม่ทำให้เครื่องยนต์ทำงานหนักจนเกินไป เนื่องจากคอมเพรสเซอร์แอร์มีส่วนเพิ่มโหลดเครื่องยนต์ ทำให้รถกินน้ำมันเพิ่มมากขึ้น

 

5. นำรถเข้าเช็กระยะสม่ำเสมอ

การนำรถเข้าเช็กระยะตามกำหนดเป็นสิ่งสำคัญในการดูแลรักษารถยนต์ให้มีประสิทธิภาพและประหยัดน้ำมัน การตรวจสอบและเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ไส้กรองอากาศ และชิ้นส่วนอื่นๆ ตามระยะเวลาที่กำหนดจะช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและลดการสิ้นเปลืองน้ำมัน

 

นอกจากนี้ การตรวจเช็กลมยางให้ได้ตามมาตรฐานก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการประหยัดน้ำมันเช่นเดียวกัน

 

     เทคนิคเหล่านี้สามารถช่วยเพิ่มความประหยัดได้จริง แถมยังไม่ต้องเสียแม้แต่บาทเดียว (เว้นแต่การเช็กระยะที่ต้องทำเป็นประจำอยู่แล้ว) ทางที่ดีควรลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการขับขี่เหล่านี้ดู รับรองว่าแต่ละเดือนจะช่วยลดรายจ่ายได้ไม่น้อยทีเดียว

 

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com

.

.

.

.

_____________________________________

เราคือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

เทอร์โบแท้

IHI TURBO 🇯🇵

GARRETT 🇺🇸

MITSUBISHI TURBOCHARGER 🇯🇵

ซื้อกับเราได้สินค้าแท้100%

คุ้มค่ากว่า ใช้งานได้ในระยะยาว

สบายใจกว่า เทอร์โบแท้รับประกันสินค้ายาวนาน

บริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม

โดยทีมงานมืออาชีพ ผู้มีประสบการณ์มากกว่า 24 ปี”

สั่งอะไหล่กับเรา "ออกใบกำกับภาษี" ได้

พร้อมบริการการดูแลหลังการขายตลอดอายุการใช้งาน

⚙️เข้าชมสินค้าทั้งหมดในเว็บไซต์

คลิก: www.sqdparts.com

⚙️สั่งซื้อทางเพจ

คลิก: m.me/sqdparts

⚙️สั่งซื้อผ่านไลน์

คลิก: https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=sqdparts

คลิกYoutube : https://bit.ly/3IAJstu

คลิกTiktok : https://bit.ly/3bXmLmN

คลิกInstagram : https://bit.ly/3AFxMDx

เขียนโดย sqdparts เมื่อ Thu 27 Feb, 2025
อ่านต่อ

     การนอนเปิดแอร์ในรถยนต์ที่จอดอยู่กับที่เป็นเวลานาน อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ เนื่องจากระบบระบายอากาศของรถยนต์ไม่ได้ออกแบบมาให้ทำงานในสภาวะที่รถจอดนิ่ง ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการสะสมของก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ ซึ่งเป็นอันตรายต่อร่างกายจนถึงขั้นเสียชีวิตได้

ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ ภัยร้ายใกล้ตัว

     ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ (CO) เป็นก๊าซที่ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น และไม่มีรส เกิดจากการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ของเชื้อเพลิงในเครื่องยนต์ เมื่อรถจอดนิ่งและเปิดแอร์ เครื่องยนต์จะยังคงทำงานและปล่อยก๊าซ CO ออกมา

     หากรถจอดอยู่นิ่งกับที่ต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน และอากาศถ่ายเทไม่ดีพอ มีโอกาสที่ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์จะเล็ดลอดผ่านระบบปรับอากาศหรือช่องระบายอากาศเข้าไปยังห้องโดยสาร ทำให้ผู้ที่อยู่ภายในรถสูดดมก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์เข้าไปเป็นจำนวนมากระหว่างนอนหลับ

ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ เสี่ยงทำเสียชีวิตได้

     เมื่อก๊าซ CO เข้าสู่ร่างกาย มันจะเข้าไปแย่งจับตัวกับฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดง ซึ่งเป็นตัวนำออกซิเจนไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกาย เมื่อฮีโมโกลบินจับตัวกับ CO มากขึ้น จะทำให้ร่างกายขาดออกซิเจน ส่งผลให้เกิดอาการต่างๆ เช่น ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน อ่อนเพลีย และหมดสติ หากได้รับก๊าซ CO ในปริมาณมากอย่างต่อเนื่อง อาจถึงขั้นทำให้เสียชีวิตได้

3 ปัจจัยเพิ่มความเสี่ยงต่อการเสียชีวิต

ความเสี่ยงในการได้รับอันตรายจากก๊าซ CO จะเพิ่มขึ้นในกรณีต่อไปนี้

  • รถยนต์เก่า - รถยนต์เก่ามีโอกาสที่ระบบระบายไอเสียจะเสื่อมสภาพ ทำให้ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์รั่วไหลเข้าสู่ห้องโดยสารได้ง่าย
  • จอดรถในพื้นที่อับอากาศ - การจอดรถในโรงจอดรถที่ปิดทึบ หรือในพื้นที่ที่มีอากาศถ่ายเทไม่สะดวก จะทำให้เกิดการสะสมของก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ได้ง่ายขึ้น
  • ผู้ที่มีโรคประจำตัว - ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ หรือโรคระบบทางเดินหายใจ จะมีความเสี่ยงสูงต่อการได้รับอันตรายจากก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์

ดังนั้น เพื่อความปลอดภัย ควรหลีกเลี่ยงการนอนเปิดแอร์ในรถยนต์ที่จอดอยู่กับที่เป็นเวลานาน หากจำเป็นต้องนอนในรถ ควรจอดรถในที่โล่งที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก และเปิดกระจกเล็กน้อยเพื่อให้อากาศถ่ายเทได้

 

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com

.

.

.

.

_____________________________________

เราคือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

เทอร์โบแท้

IHI TURBO 🇯🇵

GARRETT 🇺🇸

MITSUBISHI TURBOCHARGER 🇯🇵

ซื้อกับเราได้สินค้าแท้100%

คุ้มค่ากว่า ใช้งานได้ในระยะยาว

สบายใจกว่า เทอร์โบแท้รับประกันสินค้ายาวนาน

บริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม

โดยทีมงานมืออาชีพ ผู้มีประสบการณ์มากกว่า 24 ปี”

สั่งอะไหล่กับเรา "ออกใบกำกับภาษี" ได้

พร้อมบริการการดูแลหลังการขายตลอดอายุการใช้งาน

⚙️เข้าชมสินค้าทั้งหมดในเว็บไซต์

คลิก: www.sqdparts.com

⚙️สั่งซื้อทางเพจ

คลิก: m.me/sqdparts

⚙️สั่งซื้อผ่านไลน์

คลิก: https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=sqdparts

คลิกYoutube : https://bit.ly/3IAJstu

คลิกTiktok : https://bit.ly/3bXmLmN

คลิกInstagram : https://bit.ly/3AFxMDx

เขียนโดย sqdparts เมื่อ Thu 27 Feb, 2025
อ่านต่อ

     การเติมลมยางเป็นสิ่งที่ผู้ขับขี่ต้องให้ความสำคัญ เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการขับขี่ ซึ่งในปัจจุบันมีทางเลือกอยู่ 2 แบบหลักๆ คือ การเติมลมยางปกติ (อากาศทั่วไป) และการเติมลมยางไนโตรเจน คำถามคือ แล้วแบบไหนดีกว่ากัน?

 

ลมยางปกติ

     ลมยางปกติที่เราเติมกันตามปั๊มน้ำมันทั่วไปนั้น มีส่วนประกอบของก๊าซไนโตรเจนอยู่ประมาณ 78% ส่วนที่เหลือเป็นออกซิเจน ไอน้ำ และก๊าซอื่นๆ ข้อดีคือ หาเติมได้ง่าย สะดวก และฟรี แต่ข้อเสียคือ แรงดันลมยางอาจเปลี่ยนแปลงได้ง่ายตามอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลง และอาจมีไอน้ำที่ทำให้เกิดการกัดกร่อนกระทะล้อได้

 

ลมยางไนโตรเจน

     ส่วนลมยางไนโตรเจนนั้น มีส่วนประกอบของก๊าซไนโตรเจนบริสุทธิ์สูงถึง 93-95% หรือมากกว่า ทำให้มีข้อดีคือ แรงดันลมยางคงที่กว่า แม้อุณหภูมิจะเปลี่ยนแปลงก็ไม่ส่งผลมากนัก ช่วยลดปัญหาลมยางอ่อน หรือลมยางแข็งเกินไป นอกจากนี้ ไนโตรเจนยังเป็นก๊าซเฉื่อย ไม่ทำปฏิกิริยากับวัสดุอื่นๆ จึงช่วยลดการกัดกร่อนกระทะล้อและเนื้อยางได้ดีกว่า อย่างไรก็ตาม ข้อเสียคือ หาเติมได้ยากกว่า และมีค่าใช้จ่าย

 

ลมยางปกติ กับไนโตรเจน แบบไหนดีกว่ากัน?

     หากมองในแง่ของประสิทธิภาพและความปลอดภัย ลมยางไนโตรเจนดูเหมือนจะมีข้อดีมากกว่า แต่หากมองในแง่ของความสะดวกสบายและค่าใช้จ่าย ลมยางปกติก็ยังเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม ดังนั้น การเลือกเติมลมยางแบบไหน ขึ้นอยู่กับความต้องการและลักษณะการใช้งานของแต่ละบุคคล หากคุณเป็นคนขับรถทางไกลบ่อยๆ หรือต้องการความมั่นใจในเรื่องแรงดันลมยาง ลมยางไนโตรเจนอาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า แต่หากคุณขับรถในชีวิตประจำวันทั่วไป ลมยางปกติก็เพียงพอแล้วครับ

 

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com

.

.

.

.

_____________________________________

เราคือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

เทอร์โบแท้

IHI TURBO 🇯🇵

GARRETT 🇺🇸

MITSUBISHI TURBOCHARGER 🇯🇵

ซื้อกับเราได้สินค้าแท้100%

คุ้มค่ากว่า ใช้งานได้ในระยะยาว

สบายใจกว่า เทอร์โบแท้รับประกันสินค้ายาวนาน

บริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม

โดยทีมงานมืออาชีพ ผู้มีประสบการณ์มากกว่า 24 ปี”

สั่งอะไหล่กับเรา "ออกใบกำกับภาษี" ได้

พร้อมบริการการดูแลหลังการขายตลอดอายุการใช้งาน

⚙️เข้าชมสินค้าทั้งหมดในเว็บไซต์

คลิก: www.sqdparts.com

⚙️สั่งซื้อทางเพจ

คลิก: m.me/sqdparts

⚙️สั่งซื้อผ่านไลน์

คลิก: https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=sqdparts

คลิกYoutube : https://bit.ly/3IAJstu

คลิกTiktok : https://bit.ly/3bXmLmN

คลิกInstagram : https://bit.ly/3AFxMDx

เขียนโดย sqdparts เมื่อ Thu 27 Feb, 2025
อ่านต่อ

     การขับรถทางไกลต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน จะทำให้ความร้อนของเครื่องยนต์และเกียร์ขึ้นสูง หลายคนจึงเลือกเปิดฝากระโปรงหน้าเพื่อระบายความร้อน แต่ความเป็นจริงการเปิดฝากระโปรงหน้าหลังขับทางไกลจำเป็นหรือไม่? บทความนี้ เรามีคำตอบมาฝากกันครับ

 

ข้อดีของการเปิดฝากระโปรงหน้า

การเปิดฝากระโปรงหน้าหลังขับทางไกลมีข้อดีหลัก ๆ คือช่วยระบายความร้อนออกจากห้องเครื่องได้เร็วขึ้น โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนจัด ซึ่งอาจช่วยยืดอายุการใช้งานของชิ้นส่วนบางอย่างที่ทำจากพลาสติกหรือยางได้

 

นอกจากนี้ ยังช่วยลดความร้อนสะสมในห้องเครื่อง ซึ่งอาจช่วยป้องกันปัญหาความร้อนสูง โดยเฉพาะรถติดตั้งระบบก๊าซ LPG / CNG ที่มีความร้อนสูงกว่าน้ำมันล้วน

 

ข้อเสียของการเปิดกระโปรงหน้า

อย่างไรก็ตาม การเปิดฝากระโปรงหน้าทิ้งไว้ก็มีข้อเสียที่ต้องพิจารณาเช่นกัน ประการแรกคือความเสี่ยงต่อสิ่งแปลกปลอม เช่น ฝุ่นละออง หรือสัตว์ขนาดเล็ก ที่อาจเข้าไปในห้องเครื่องได้ ประการต่อมาคือความเสี่ยงต่อการโจรกรรมชิ้นส่วนภายในห้องเครื่อง โดยเฉพาะในบางพื้นที่ที่ไม่ปลอดภัย

     แม้ว่าชิ้นส่วนบางอย่างอาจมีมูลค่าไม่มาก แต่หากถูกถอดออกไปโดยไม่รู้ตัว อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อเครื่องยนต์ได้ เช่น ก้านวัดระดับน้ำมันเครื่อง ฯลฯ

 

สรุปแล้วหลังขับทางไกลต้องเปิดฝากระโปรงหน้าหรือไม่

โดยทั่วไปแล้ว รถยนต์สมัยใหม่มีระบบระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพดีพอที่จะระบายความร้อนได้เอง การเปิดฝากระโปรงหน้าจึงอาจไม่จำเป็นเสมอไป อย่างไรก็ตาม หากรถของคุณติดตั้งระบบแก๊ส LPG การเปิดฝากระโปรงหน้าอาจช่วยระบายความร้อนได้ดีขึ้น และลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาเกี่ยวกับระบบแก๊สได้

 

     แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความปลอดภัย หากคุณตัดสินใจเปิดฝากระโปรงหน้า ควรจอดรถในที่ปลอดภัย และระมัดระวังการโจรกรรมด้วย

 

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com

.

.

.

.

_____________________________________

เราคือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

เทอร์โบแท้

IHI TURBO 🇯🇵

GARRETT 🇺🇸

MITSUBISHI TURBOCHARGER 🇯🇵

ซื้อกับเราได้สินค้าแท้100%

คุ้มค่ากว่า ใช้งานได้ในระยะยาว

สบายใจกว่า เทอร์โบแท้รับประกันสินค้ายาวนาน

บริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม

โดยทีมงานมืออาชีพ ผู้มีประสบการณ์มากกว่า 24 ปี”

สั่งอะไหล่กับเรา "ออกใบกำกับภาษี" ได้

พร้อมบริการการดูแลหลังการขายตลอดอายุการใช้งาน

⚙️เข้าชมสินค้าทั้งหมดในเว็บไซต์

คลิก: www.sqdparts.com

⚙️สั่งซื้อทางเพจ

คลิก: m.me/sqdparts

⚙️สั่งซื้อผ่านไลน์

คลิก: https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=sqdparts

คลิกYoutube : https://bit.ly/3IAJstu

คลิกTiktok : https://bit.ly/3bXmLmN

คลิกInstagram : https://bit.ly/3AFxMDx

เขียนโดย sqdparts เมื่อ Thu 27 Feb, 2025
อ่านต่อ

     เคยสงสัยหรือไม่ว่าหากเติมน้ำมันที่มีค่าออกเทน 91 ผสมกับน้ำมันที่มีค่าออกเทน 95 สุดท้ายแล้วน้ำมันในถังจะกลายเป็นน้ำมันที่มีค่าออกเทนเท่าไหร่กันแน่?

 

เติม 91 ผสม 95 จะกลายเป็นน้ำมันอะไร?

     การเติมน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 ผสมกับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 จะได้น้ำมันที่มีค่าออกเทนอยู่ระหว่าง 91 ถึง 95 ขึ้นอยู่กับอัตราส่วนของการผสม โดยหลักการแล้ว ค่าออกเทนจะเฉลี่ยตามสัดส่วนของการผสม ยกตัวอย่างเช่น

     หากคุณเติมน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 และ 95 ในปริมาณที่เท่ากัน ค่าออกเทนของน้ำมันผสมจะอยู่กึ่งกลางระหว่าง 91 และ 95 นั่นคือ 93 นั่นเอง

 

เติมน้ำมันที่มีค่าออกเทนต่างกันจะมีผลอะไรบ้าง?

     หากเป็นรถยนต์ที่รองรับน้ำมันที่มีค่าออกเทน 91 การผสมน้ำมันระหว่าง 91 และ 95 เข้าไว้ด้วยกัน จะไม่ส่งผลกระทบต่อเครื่องยนต์ แต่หากเป็นรถที่ต้องการน้ำมันออกเทน 95 การผสมน้ำมันอาจลดประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ลงเล็กน้อย แต่โดยทั่วไปแล้วจะไม่ก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงแต่อย่างใด

     นั่นเป็นเพราะกล่อง ECU ของรถจะคำนวณและปรับปริมาณการจ่ายน้ำมันตามค่าออกเทนโดยอัตโนมัติ จึงสามารถเติมผสมกันได้อย่างไม่มีปัญหา แม้ว่าน้ำมันในถังจะมีค่าออกเทนอยู่ระหว่าง 91 ถึง 95 ก็ตาม เว้นแต่รถที่รองรับเฉพาะน้ำมัน 95 อาจทำให้สมรรถนะลดลงบ้างเล็กน้อยเท่านั้น

 

     ดังนั้น คุณจึงควรตรวจสอบให้แน่ชัดว่ารถของคุณเติมน้ำมันชนิดใด และเติมชนิดน้ำมันตามที่ผู้ผลิตกำหนด เพื่อป้องกันผลเสียที่อาจเกิดขึ้นครับ

 

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com

.

.

.

.

_____________________________________

เราคือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

เทอร์โบแท้

IHI TURBO 🇯🇵

GARRETT 🇺🇸

MITSUBISHI TURBOCHARGER 🇯🇵

ซื้อกับเราได้สินค้าแท้100%

คุ้มค่ากว่า ใช้งานได้ในระยะยาว

สบายใจกว่า เทอร์โบแท้รับประกันสินค้ายาวนาน

บริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม

โดยทีมงานมืออาชีพ ผู้มีประสบการณ์มากกว่า 24 ปี”

สั่งอะไหล่กับเรา "ออกใบกำกับภาษี" ได้

พร้อมบริการการดูแลหลังการขายตลอดอายุการใช้งาน

⚙️เข้าชมสินค้าทั้งหมดในเว็บไซต์

คลิก: www.sqdparts.com

⚙️สั่งซื้อทางเพจ

คลิก: m.me/sqdparts

⚙️สั่งซื้อผ่านไลน์

คลิก: https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=sqdparts

คลิกYoutube : https://bit.ly/3IAJstu

คลิกTiktok : https://bit.ly/3bXmLmN

คลิกInstagram : https://bit.ly/3AFxMDx

เขียนโดย sqdparts เมื่อ Thu 27 Feb, 2025
อ่านต่อ

     รถควันขาวถือเป็นอีกหนึ่งสัญญาณเตือนถึงอาการผิดปกติของเครื่องยนต์ ที่เจ้าของรถจำเป็นต้องรีบตรวจสอบและหาสาเหตุของปัญหาที่กำลังเกิดขึ้น เพราะถ้าหากเราปล่อยทิ้งไว้นานไม่รีบแก้ไข ชิ้นส่วนหรือเครื่องยนต์ภายในอาจเกิดความเสียหาย จนส่งผลให้รถยนต์ไม่สามารถใช้งานได้อย่างที่ควรจะเป็น วันนี้ เราจึงได้รวบรวมสาเหตุของการเกิดควันขาวในรถยนต์ มาให้เพื่อน ๆ ได้ลองอ่านและศึกษากันดูครับ

 

รถควันขาวเกิดจากอะไร

     โดยทั่วไปแล้วปัญหารถควันขาวเกิดจากการที่ชิ้นส่วนภายในเกิดการสึกหรอจนทำให้น้ำมันเครื่องเล็ดลอดเข้าไปในขั้นตอนการจุดระเบิด เกิดเป็นการเผาไหม้ที่ไม่หมดจดในส่วนของห้องเผาไหม้ในเครื่องยนต์เบนซิน ส่งผลให้มีควันสีขาวออกมาจากท่อไอเสียอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งปัญหานี้อาจเกิดขึ้นจากหลายสาเหตุด้วยกัน เช่น ปัญหาจากฝาสูบโก่ง ปัญหาจากวาล์วยัน หรือปัญหาจากเครื่องหลวม เป็นต้น

     แต่ถ้าหากรถของคุณมีควันสีขาวเฉพาะช่วงเวลาสตาร์ท ก็มีความเป็นไปได้ว่าเกิดจากการคายความชื้นภายในเครื่องจนกลายเป็นแค่ไอน้ำเท่านั้น เครื่องยนต์หรือชิ้นส่วนภายในอาจไม่ได้เกิดการสึกหรอแต่อย่างใด ฉะนั้นคุณจึงต้องพิจารณาและตรวจเช็กให้ดี จะได้ไม่ต้องนำรถเข้าอู่ให้เสียเวลาครับ

 

วิธีแก้ไขปัญหารถควันขาว

     อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าปัญหารถควันขาวเกิดจากชิ้นส่วนภายในของรถยนต์เกิดการสึกหรอ ดังนั้นวิธีการแก้ไขปัญหาที่ดีที่สุดก็คือการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนอะไหล่เป็นชิ้นใหม่ ซึ่งค่าใช้จ่ายก็จะแตกต่างกันไปตามชิ้นส่วนที่เกิดปัญหา โดยแต่ละชิ้นส่วนจะมีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่และมีขั้นตอนในการแก้ไขอย่างไร มาดูกันครับ

  • ปัญหาจากฝาสูบโก่ง เกิดจากการที่เครื่องยนต์ร้อนเกินไปเพราะระบบหล่อเย็นทำงานได้ไม่เต็มที่ ส่งผลให้ฝาสูบโก่งจนต้องซ่อมและเปลี่ยนใหม่ ซึ่งราคาของฝาสูบก็อยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูงตั้งแต่หลักพันปลาย ๆ ถึงหลักหมื่นต้น ๆ เลยทีเดียว
  • ปัญหาจากวาล์วยัน วาล์วเป็นตัวกำหนดจังหวะของการจุดระเบิด หากวาล์วมีปัญหาจะเรียกว่าอาการวาล์วยัน อาการนี้จะมาพร้อมกับเครื่องยนต์เดินเบาไม่เรียบ สามารถตั้งวาล์วได้ในราคาหลักร้อย แต่ถ้าปัญหาเกิดจากการที่วาล์วไม่เรียบอาจต้องพึ่งการเจียร์บ่าวาล์วซึ่งมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่หลักพันต้น ๆ
  • ปัญหาจากเครื่องหลวม อาจเกิดขึ้นได้จากการเสื่อมสภาพของชิ้นส่วนภายในตั้งแต่ ปะเก็นฝาสูบ แหวนลูกสูบ หรือ ยางตีนวาล์ว เป็นต้น ซึ่งเราอาจให้ช่างเช็กไปทีละส่วนว่าจุดไหนที่มีปัญหาบ้างแล้วค่อยเปลี่ยนอะไหล่เป็นชิ้น ๆ ไป ค่าใช้จ่ายจึงขึ้นอยู่กับตัวชิ้นส่วนที่เปลี่ยน ยิ่งเปลี่ยนเยอะก็ยิ่งมีค่าใช้จ่ายเยอะตามไปด้วย

วิธีแก้ปัญหารถควันขาวเบื้องต้นด้วยตนเอง

     จะเห็นได้ว่าการนำรถเข้าอู่เพื่อให้ช่างหรือผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบ ถือเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะแก้ไขปัญหารถควันขาวได้อย่างมีประสิทธิภาพ และจัดการปัญหานี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่ก็อย่างที่ทราบกันดีว่าการนำรถเข้าอู่ย่อมมีค่าใช้จ่ายตามมาเสมอไม่มากก็น้อย ซึ่งถ้าหากคุณต้องการจะหลีกเลี่ยงการเสียเงินโดยใช่เหตุ คุณก็ควรใช้วิธีเหล่านี้ในการดูแลรักษารถ เพื่อยืดอายุการใช้งานของชิ้นส่วนต่าง ๆ ให้ยาวนานไม่เสื่อมสภาพก่อนเวลาอันควร

  • หมั่นตรวจเช็กของเหลวอย่างสม่ำเสมอ เช่น น้ำมันเครื่องหรือน้ำหล่อเย็น เพื่อให้ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ป้องกันอาการสึกหรอจนส่งผลให้เครื่องยนต์เกิดความร้อนสูงจนทำให้ฝาสูบโก่งได้
  • หมั่นตรวจสอบปะเก็นฝาสูบ แหวนลูกสูบ และยางตีนวาล์ว ว่ายังมีสภาพที่สมบูรณ์อยู่หรือไม่ หากพบว่ามีส่วนไหนเสียหายให้รีบเปลี่ยนใหม่ทันที
  • ทำความสะอาดไส้กรองอากาศทุก ๆ 10,000 กิโลเมตร หรือเปลี่ยนใหม่ทุก ๆ 20,000 - 40,000 กิโลเมตร (ทั้งนี้การเปลี่ยนไส้กรองอากาศอาจขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้รถที่แตกต่างกันไป)
  • ทำความสะอาดท่อไอเสียด้วยการใช้น้ำหรือลมฉีดล้างคราบเขม่าและฝุ่นละอองภายใน

การดูแลรถยนต์อย่างสม่ำเสมอช่วยป้องกันได้อย่างไร

     รถยนต์ถือเป็นยานพาหนะละเอียดอ่อนที่มีการสึกหรออยู่ตลอดเวลา เจ้าของรถทุกคนจึงจำเป็นต้องหมั่นตรวจเช็กและคอยดูแลรถยนต์อยู่เสมอ เพราะถ้าหากรถของเรามีปัญหาหรือเกิดสิ่งผิดปกติขึ้น เราก็จะมีโอกาสแก้ไขปัญหาก่อนที่มันจะบานปลาย ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมลดน้อยลงหรืออาจไม่เสียเลยก็เป็นได้

     ซึ่งนอกเหนือจากปัญหารถควันขาวที่เราต้องรีบแก้ไขให้เร็วที่สุดแล้ว ปัญหาอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวรถเช่น ปัญหาแบตเตอรี่เสื่อม ก็ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เราต้องใส่ใจและไม่ควรมองข้าม เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้รถมีปัญหา เราต้องคอยดูแลรถอยู่ตลอดแม้จะไม่ได้ขับ หากคุณเป็นเจ้าของรถสายจอดนาน คุณก็ควรใช้เครื่องชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์คอยชาร์จไฟให้เต็มอยู่เสมอ เพื่อป้องกันไม่ให้แบตเตอรี่ต้องมาเสื่อมก่อนเวลาอันควร จะได้ไม่ต้องเปลี่ยนแบตรถยนต์ใหม่บ่อย ๆ ให้สิ้นเปลืองครับ

 

ขอบคุณข้อมูลจาก aprtech.co.th

.

.

.

.

_____________________________________

เราคือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

เทอร์โบแท้

IHI TURBO 🇯🇵

GARRETT 🇺🇸

MITSUBISHI TURBOCHARGER 🇯🇵

ซื้อกับเราได้สินค้าแท้100%

คุ้มค่ากว่า ใช้งานได้ในระยะยาว

สบายใจกว่า เทอร์โบแท้รับประกันสินค้ายาวนาน

บริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม

โดยทีมงานมืออาชีพ ผู้มีประสบการณ์มากกว่า 24 ปี”

สั่งอะไหล่กับเรา "ออกใบกำกับภาษี" ได้

พร้อมบริการการดูแลหลังการขายตลอดอายุการใช้งาน

⚙️เข้าชมสินค้าทั้งหมดในเว็บไซต์

คลิก: www.sqdparts.com

⚙️สั่งซื้อทางเพจ

คลิก: m.me/sqdparts

⚙️สั่งซื้อผ่านไลน์

คลิก: https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=sqdparts

คลิกYoutube : https://bit.ly/3IAJstu

คลิกTiktok : https://bit.ly/3bXmLmN

คลิกInstagram : https://bit.ly/3AFxMDx

เขียนโดย sqdparts เมื่อ Mon 24 Feb, 2025
อ่านต่อ
แสดง รายการ
ร้านค้าออนไลน์ และ ขายของออนไลน์ โดย © 2006-2025 Vevo Systems Co., Ltd.