×
บล็อก
แสดง รายการ

จากข่าวเรื่องความล่าช้าในการจดทะเบียนของรถไฟฟ้า Pocco แม้ว่าเรื่องดังกล่าวจะเคลียร์กันลงตัวจบแบบสวยงาม แต่ข่าวนี้ได้ส่งผลกระทบไปถึงรถไฟฟ้ารุ่นอื่นในเซกเมนต์เดียวกัน อย่าง Volt City EV จนทำให้ลูกค้าที่จองรถเอาไว้ เกิดความวิตกกังวล

 

แม้ว่าทาง อีวี ไพรมัส จะออกแถลงการณ์ยืนยันว่า Volt City EV สามารถจดทะเบียนได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ก็ตาม แต่ยังมีลูกค้าบางส่วนที่จองรถไปแล้ว รวมถึงลูกค้ารายใหม่ที่กำลังจะจองรถเกิดความกล้า ๆ กลัว ๆ

ล่าสุดวันนี้ เพจ Volt City EV สร้างความเชื่อมั่นให้กับเจ้าของรถ ด้วยการโพสต์รูปยืนยันว่าสามารถจดทะเบียนได้จริง

หลังจากที่โพสต์ดังกล่าวได้เผยแพร่ออกไป มีคนเข้ามาคอมเมนต์แสดงความยินดี ถือเป็นการเรียกความมั่นใจกลับคืนมา

 

ขอบคุณข้อมูลจาก autospinn.com

.

.

.

.

_____________________________________

เราคือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

เทอร์โบแท้

IHI TURBO 🇯🇵

GARRETT 🇺🇸

ซื้อกับเราได้สินค้าแท้100%

คุ้มค่ากว่า ใช้งานได้ในระยะยาว

สบายใจกว่า เทอร์โบแท้รับประกันสินค้ายาวนาน

บริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม

โดยทีมงานมืออาชีพ ผู้มีประสบการณ์มากกว่า 24 ปี”

สั่งอะไหล่กับเรา "ออกใบกำกับภาษี" ได้

พร้อมบริการการดูแลหลังการขายตลอดอายุการใช้งาน

⚙️เข้าชมสินค้าทั้งหมดในเว็บไซต์

คลิก: www.sqdparts.com

⚙️สั่งซื้อทางเพจ

คลิก: m.me/sqdparts

⚙️สั่งซื้อผ่านไลน์

คลิก: https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=sqdparts

คลิกYoutube : https://bit.ly/3IAJstu

คลิกTiktok : https://bit.ly/3bXmLmN

คลิกInstagram : https://bit.ly/3AFxMDx

เขียนโดย sqdparts เมื่อ Thu 08 Jun, 2023
อ่านต่อ

รถยนต์ไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิง (FCEVs) จุดยืนพื้นฐานในเรื่องของการลดคาร์บอนไดออกไซด์นอกจากการหาแหล่งพลังงานอื่นๆ ที่ช่วยลดมลพิษแล้ว รถยนต์ไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิง พร้อมเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนแบบเซลล์เชื้อเพลิง ซึ่งขับเคลื่อนด้วยเชื้อเพลิงไฮโดรเจน ถือเป็นแหล่งพลังงานสะอาดที่สามารถนำมาใช้ได้ทั้งกับรถยนต์นั่ง รถยนต์เพื่อการพาณิชย์

 

รถยนต์สำหรับอุตสาหกรรมหนัก การจ่ายกระแสไฟฟ้า และการใช้งานอื่นๆ ของมนุษย์ ทั้งใช้งานเพื่อการขับเคลื่อนและในด้านพลังงานจากกระแสไฟฟ้า ความตั้งใจที่จะสร้างสังคมที่ใช้ไฮโดรเจนเป็นหลัก ทำให้ Toyota Motor ดำเนินโครงการนำเซลล์เชื้อเพลิงมาใช้ในรถยนต์ส่วนบุคคลและรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ (รถยนต์ส่วนบุคคล รถบรรทุก, รถโดยสาร, รถไฟ, เรือ, เครื่องกำเนิดไฟฟ้า, ระบบจ่ายไฟฟ้า, รถยก ฯลฯ) Toyota กำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนาอย่างเข้มข้น เพื่อยกระดับความร่วมมือและการเป็นพันธมิตรกับบริษัทต่างๆ ในอุตสาหกรรมอื่นๆ

ย้อนเวลากลับไปสามปี ในช่วงปลายปี 2019 Toyota Motor Corporation ใช้งานแสดงรถยนต์ Tokyo Motor Show 46th เผยโฉมรถยนต์พลังงานไฮโดรเจนรุ่นใหม่ล่าสุด นั่นก็คือ Toyota MIRAI FCV GEN 2 ยานยนต์พลังงานไฮโดรเจน ปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของเซลล์พลังงานเชื้อเพลิงให้ดีขึ้น เพื่อเพิ่มระยะการขับใช้งานที่ไกลกว่า MIRAI รุ่นแรกมากถึง 30 เปอร์เซ็นต์ รวมไปถึงยังมีอัตราเร่งและสมรรถนะของรถที่ดีขึ้นในทุกจุด MIRAI รุ่นใหม่ออกแบบใหม่หมดหัวจดท้าย บนสถาปัตยกรรมยานยนต์ล่าสุดของ Toyota ที่เรียกว่า TNGA-L โดยใช้แพลตฟอร์มร่วมกับรถหรูอย่าง Lexus LS แต่มีการปรับเปลี่ยนหลายจุดเพื่อวางระบบขับเคลื่อนไฮโดรเจนที่ไม่มีการปล่อยมลพิษ

 

หลังจากนั้นอีกสี่เดือนต่อมา การแพร่ระบาดครั้งใหญ่ของไวรัสโควิด-19 ก็ได้เริ่มต้นขึ้นแล้วลุกลามไปทั่วโลก ทำให้ข่าวคราวความเคลื่อนไหวของ MIRAI เจนสองห่างหายไปจากโลกแห่งยนตรกรรม แต่ในญี่ปุ่น รถพลังงานทางเลือกอย่าง MIRAI ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นมากกว่ารุ่นแรก โดยทำยอดขายจากปลายปี ค.ศ. 2020 จนถึงปี ค.ศ. 2022 มากถึงกว่า 20,000 คัน

Toyota MIRAI FCEV เป็นยานยนต์พลังงานเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจนที่สะอาดมากกว่ารถยนต์ไฟฟ้า เพราะการผลิตเชื้อเพลิงไฮโดรเจนสีเขียวที่ได้มาจากการสังเคราะห์พลังงานแสงอาทิตย์และน้ำ โดยมีอัตราการปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ สิ่งที่ MIRAI ปลดปล่อยออกมาจากท่อระบายท้ายก็คือน้ำ หรือ H2O นับเป็นยานยนต์พลังงานสะอาดรุ่นที่สอง ซึ่งพัฒนาระบบขับเคลื่อนที่ไม่สร้างมลภาวะของ Toyota สำหรับ MIRAI ถูกนำมาจัดแสดง ณ โซนจัดแสดง Future Expo บริเวณเมกาเว็บ (Megaweb) ระหว่างวันที่ 24 ตุลาคม ถึง 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 การเปิดตัว MIRAI รุ่นใหม่เมื่อสามปีที่ผ่านมา สร้างความฮือฮาให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ของโลก MIRAI แสดงออกถึงความก้าวหน้าในระบบขับเคลื่อนแบบใหม่ของ Toyota ในด้านของการพัฒนายานยนต์พลังงานเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน

MIRAI เจเนอเรชันแรก ถูกแนะนำในปี ค.ศ. 2014 (พ.ศ. 2557) ถือเป็นการพิสูจน์ให้เห็นถึงศักยภาพของพลังงานไฮโดรเจนที่ถูกแปรเปลี่ยนไปเป็นพลังงานไฟฟ้า เพื่อขับเคลื่อนตัวรถผ่านมอเตอร์ไฟฟ้าที่วางอยู่ด้านหลังเหนือชุดแบตเตอรี่ MIRAI กลายเป็นแนวคิดของยานพาหนะที่ใช้พลังงานสะอาดและมีความยั่งยืน มีระยะทางในการขับใช้งานและเวลาในการเติมพลังงานเชื้อเพลิง เท่ากับรถยนต์ทั่วไปที่ใช้เครื่องยนต์เผาไหม้สันดาปภายใน MIRAI ปราศจากเชื้อเพลิงฟอสซิล ที่ก่อให้เกิดมลภาวะ โดยปล่อยของเสียออกมาเป็นน้ำ นับตั้งแต่การแนะนำ Toyota MIRAI รุ่นแรก มียอดจำหน่ายสะสมทั่วโลกอยู่ที่ประมาณ 10,000 คัน ส่วนรุ่นที่สองที่ Toyota Motor Thailand นำมาให้สื่อมวลชนทดลองขับ ออกขายในปี 2020 แม้จะมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ก็ยังขายได้ถึง 22,000 คัน Toyota Mirai Gen 2 เป็นยานยนต์พลังงานสะอาด (ไฮโดรเจน) รุ่นแรกของแบรนด์สามห่วง ที่ออกจำหน่ายเพื่อเข้ามาปูทางสู่สังคมแห่งพลังงานไฮโดรเจนที่ปราศจากคาร์บอน เพื่อความหลากหลายของแหล่งกำเนิดพลังงานในอนาคต

การปรับปรุงประสิทธิภาพในการทำงานของเซลล์พลังงานเชื้อเพลิง ถังเก็บพลังงานไฮโดรเจนขนาดใหญ่ มีความปลอดภัยสูง และใช้การทดสอบอย่างหนักหน่วงซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีการรั่วไหลของก๊าซไฮโดรเจนหากเกิดอุบัติเหตุ ถังเชื้อเพลิงความหนาสามชั้น กลไกของวาล์วนิรภัยที่ตัวถังเชื้อเพลิงไฮโดรเจนเพื่อป้องกันการรั่วแม้จะถูกชนอย่างรุนแรง Toyota ตั้งเป้าหมายให้ MIRAI ใหม่ ขับได้ไกลกว่ารุ่นที่ผ่านมาถึง 30 เปอร์เซ็นต์ รถรุ่นใหม่ใช้การออกแบบใหม่หมด โดยใช้แพลตฟอร์มใหม่ในสถาปัตยกรรมยานยนต์ของ Toyota หรือที่เรียกกันว่า TNGA-L (Lexus LS) และใช้แชสซีแบบรถยนต์ขับเคลื่อนล้อหลัง

MIRAI ในภาษาญี่ปุ่นแปลความตรงตัวก็คือคำว่า อนาคต นั่นคือความหมายที่ดีของยานพาหนะในอนาคตและจะเข้ามาแทนที่ยานยนต์ในปัจจุบันซึ่งก่อมลพิษมหาศาล! เป็นพัฒนาการอีกก้าวของ Toyota ในการสานต่อความสำเร็จของ MIRAI รุ่นแรก ตัวถังยาวขึ้น เซลล์เชื้อเพลิงที่ติดตั้งบริเวณพื้นรถโดยใช้ไฮโดรเจนทำปฏิกิริยาทางเคมีกับออกซิเจน เพื่อสร้างกระแสไฟฟ้าป้อนให้กับมอเตอร์ขับเคลื่อน น้ำที่จะถูกปล่อยออกมาจากท่อระบายท้ายถูกนำไปหล่อเย็นให้กับเซลล์เชื้อเพลิงแล้วค่อยปล่อยทิ้งออกมานอกรถ เป็นของเสียเพียงอย่างเดียวที่ออกมาจาก MIRAI มันมีปุ่มกดเพื่อปล่อยน้ำทิ้งเองได้หากไม่ต้องการให้น้ำไหลนองพื้น

ขั้นตอนการใช้งานของ Toyota MIRAI

1 ไฮโดรเจนถูกเติมให้กับ MIRAI ที่สถานีเติมเชื้อเพลิง โดยมีขั้นตอนและระยะเวลาในการเติมเท่ากับรถยนต์ปกติที่เติมน้ำมัน

2 ไฮโดรเจนถูกเก็บในถังแรงดันสูง 700 บาร์ ถังเชื้อเพลิงผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์ที่มีความแข็งแกร่งและมีน้ำหนักเบา ชั้นในของถังเชื้อเพลิงไฮโดรเจน บุด้วย polyamide resin ช่วยป้องกันการรั่วไหลของไฮโดรเจนก่อนที่จะส่งไปยังเซลล์เชื้อเพลิงที่ติดตั้งอยู่ด้านหน้า

3 ช่องดักอากาศขนาดใหญ่ของ MIRAI เหนี่ยวนำออกซิเจนสู่เซลล์เชื้อเพลิง เมื่อออกซิเจนและไฮโดรเจนผสมกัน จะเกิดปฏิกิริยาทางเคมีทำให้เกิดกระแสไฟฟ้า ความร้อนและน้ำ กระแสไฟฟ้าจะถูกลำเลียงไปป้อนพลังงานให้กับมอเตอร์ไฟฟ้ากำลัง 160 แรงม้า ขณะที่น้ำสะอาดซึ่งเป็นของเหลวที่ถูกปล่อยออกมาจากกระบวนการผลิตกระแสไฟฟ้าไม่สร้างผลกระทบใดๆ ให้กับสิ่งแวดล้อม

4 แบตเตอรี่แบบพิเศษของ MIRAI ช่วยเสริมกำลังให้กับมอเตอร์ไฟฟ้าเมื่อผู้ขับกดคันเร่งอย่างรุนแรง ในช่วงความเร็วต่ำ แบตเตอรี่จะป้อนไฟเข้าสู่มอเตอร์ไฟฟ้าเพื่อขับเคลื่อนโดยยังไม่ต้องพึ่งพาไฮโดรเจน เมื่อคนขับเหยียบเบรกหรือยกคันเร่ง ระบบ regenerative จะเริ่มวัฏจักรของการชาร์จกระแสไฟฟ้าเข้าไปเก็บในแบตเตอรี่

MIRAI เจเนอเรชันล่าสุด มีรูปลักษณ์ภายนอกปราดเปรียวคล้ายกับสปอร์ตซีดาน Lexus ES แตกต่างจาก MIRAI รุ่นที่แล้ว ซึ่งใช้รูปทรงแบบรถอนาคต รถรุ่นใหม่ ใช้แพลตฟอร์มหรือสถาปัตยกรรมยานยนต์ใหม่ของ Toyota (TNGA-L) ล้อขนาดใหญ่ขอบ 20 นิ้ว องค์ประกอบโดยรวมทั้งหมดของตัวรถมีความปราดเปรียวไหลลื่น กระจังหน้าแบบซี่แนวนอนคล้าย Toyota New Camry ไฟหน้า LED พร้อมไฟหรี่กลางวัน LED Daytime Running Lights ฝากระโปรงยกสันนูนบริเวณขอบของไฟหน้าเพื่อสร้างมิติมุมมองที่งดงาม เสาหน้าค่อนข้างลาดเอียงออกแบบโดยคำนึงถึงระบบอากาศพลศาสตร์ด้วยการลดความสูงเพื่อทำให้ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศดีขึ้น ไฟท้ายทรงยาวตามสมัยนิยมออกแบบได้ดีและช่วยทำให้บั้นท้ายของมันน่ามองมากกว่ารุ่นแรก มิติตัวถัง มีขนาดความยาว 4,973 มิลลิเมตร กว้าง 1,885 มิลลิเมตร สูง 1,470 มิลลิเมตร ความยาวฐานล้อ 2,918 มิลลิเมตร น้ำหนัก 1,930 กิโลกรัม

ระบบขับเคลื่อนของ Toyota MIRAI เป็นหนึ่งในระบบเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจนที่ก้าวล้ำและใช้งานได้จริง ถังเชื้อเพลิงไฮโดรเจนผ่านการทดสอบการชนปะทะ ทั้งด้านหน้า ด้านข้างและด้านหลัง เพื่อทำให้มั่นใจว่าไฮโดรเจนจะไม่รั่วไหลออกมาแม้เกิดอุบัติเหตุอย่างรุนแรง MIRAI ยังติดตั้งแบตเตอรี่แบบ nickel metal hydride ทำหน้าที่ป้อนกระแสไฟให้กับมอเตอร์เมื่อขับใช้งานในย่านความเร็วต่ำ และช่วยเสริมอัตราเร่งเมื่อผู้ขับกดคันเร่งลงจนสุด สำหรับ MIRAI รุ่นแรก มีกำลัง 152 แรงม้า แรงบิด 335 นิวตันเมตร เมื่อเติมเชื้อเพลิงไฮโดรเจนจนเต็มถังจะวิ่งได้ระยะทางประมาณ 502 กิโลเมตร ไกลกว่ารถไฟฟ้าในยุคนี้อย่างเห็นได้ชัด สำหรับ MIRAI รุ่นที่สอง ด้วยกำลังที่มากกว่าและระยะการขับขี่ที่ไกลกว่า ใช้เซลล์เชื้อเพลิงขนาด 650 โวลต์ที่เล็กกว่าและเบากว่า ซึ่งให้กำลัง 128 กิโลวัตต์ ตามข้อมูลของ Toyota รถรุ่นใหม่ มีกำลังเพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบกับ MIRAI รุ่นก่อน ถังเชื้อเพลิงไฮโดรเจนสามถัง ทำระยะทางได้ไกลเกือบ 800 กิโลเมตร จากการขยายความจุของถังเก็บไฮโดรเจน รวมถึงการติดตั้งถังเชื้อเพลิงไฮโดรเจนเพิ่มเติมเพื่อการกระจายน้ำหนักให้มีความสมดุล

Toyota MIRAI ถูกปรับให้ขับได้เหมือนกับรถยนต์ทั่วไป คล้ายรถไฟฟ้าแต่มีระยะทำการไกลกว่าและไม่ต้องเสียเวลาชาร์จไฟ ช่วงล่างนุ่มนวล น้ำหนักส่วนใหญ่กระจายอยู่ในระดับต่ำบริเวณกึ่งกลางรถ สีภายนอก ใช้เทคนิคการพ่นแบบหลายชั้นในหลักการเดียวกับการทำสี Lexus เพื่อทำให้เกิดความสว่างและมิติความลึกแบบพิเศษ

หากคุณเคยขับรถ EV การขับ Mirai แทบจะไม่แตกต่างกัน ระบบส่งกำลังที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า ตอบสนองอย่างรวดเร็ว แรงบิดเกิดขึ้นทันทีที่กดคันเร่ง เกือบจะฉับพลันทันที ทำให้ตัวเลขที่ยกมานั้นดูดีงาม Toyota Mirai มีให้ทั้งความนวลและอัตราเร่ง แทบจะไม่แตกต่างไปจากแรงม้าและแรงบิดของ Lexus ES300h มากนัก มันอาจจะเร็วกว่าด้วยซ้ำ เมื่อมอเตอร์ประสิทธิภาพสูงเทแรงบิดลงไปยังล้อขับเคลื่อน แรงบิดทั้งหมดไหลทะลักออกมาอย่างรวดเร็ว การถ่ายเทพลังงานที่เนียนนวลของเกียร์ มีส่วนช่วยทำให้การขับ Mirai คล้าย Lexus ES300h แม้ว่ามันจะมีน้ำหนักมากกว่ารถที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องสันดาปภายใน ICE ก็ตาม ส่วนการทำงานทั้งหมดของระบบส่งกำลังและล้อยาง เกิดขึ้นในแบบเกือบเงียบเช่นกัน Mirai เงียบยิ่งกว่ารถยนต์ไฟฟ้าทั่วไปเนื่องจากใช้วัสดุซับเสียงเกรดเดียวกับ Lexus

ระบบกันสะเทือนได้รับการปรับแต่งเพื่อความสบายอย่างแท้จริง บนล้อแบบหลายก้านขนาดใหญ่ ช่วงล่างของ Toyota Mirai ยังคงดูดซับแรงกระแทกได้ดี โดยแทบไม่มีเสียงกระแทก หรือเสียงรบกวนเข้ามาในห้องโดยสาร เนื่องจากน้ำหนักส่วนใหญ่วางอยู่ในแชสซีต่ำ การจัดการจึงดีและปลอดภัย เสียงลมบนทางหลวงอยู่ในระดับปานกลาง การเร่งความเร็วอย่างต่อเนื่องให้ความรู้สึกของการทรงตัวที่ดีเยี่ยม เกาะถนนและมีพวงมาลัยที่สามารถมุดไปมาได้อย่างแม่นยำอีกด้วย ผมขับมันสั้นๆ แค่ 50 กิโลเมตร เป็นระยะทางแค่เศษเสี้ยวของ 800 กิโลเมตรที่มันสามารถทำได้ จากก๊าซไฮโดรเจนที่บรรจุอยู่ในถังทั้งสามใบ

ภายในของ MIRAI Concept 2020 มีพื้นที่เรียบง่าย ทันสมัย ให้ความรู้สึกสบาย วัสดุชั้นดีใช้ตกแต่งบริเวณแผงควบคุมตรงกลาง เชื่อมต่อหน้าจอมอนิเตอร์ขนาด 12.3 นิ้ว แผงหน้าปัดมาตรวัดที่โอบล้อมคนขับ การออกแบบระบบเซลล์พลังงานเชื้อเพลิงให้แชสซีแบบใหม่ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมยานยนต์ใหม่ TNGA ทำให้สามารถเพิ่มเบาะที่นั่งสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารจำนวน 5 ที่นั่ง โดยภาพรวม MIRAI Concept 2020 มีห้องโดยสารที่คล้ายกับ Lexus ยกตัวอย่างเช่น วัสดุที่เลือกใช้ในการตกแต่งมีคุณภาพสูง รูปแบบของจอภาพและเบาะนั่ง

Toyota MIRAI เจเนอเรชันที่ 2 ติดตั้งระบบเซลล์พลังงานเชื้อเพลิงใหม่ พัฒนาประสิทธิภาพของเซลล์พลังงานเชื้อเพลิง (FC Stack) ให้ดีขึ้นเป็นอย่างมาก มีระยะขับขี่ที่ดีขึ้น 30 เปอร์เซ็นต์ จากรุ่นที่ผ่านมา ด้วยถังเก็บพลังงานไฮโดรเจนที่มีขนาดใหญ่จำนวนสองถัง MIRAI ขับเคลื่อนโดยสิ่งที่เรียกว่าระบบส่งกำลังไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิง ซึ่งหมายความว่า เชื้อเพลิงไฮโดรเจน จะถูกแปลงเป็นไฟฟ้าโดยเซลล์เชื้อเพลิงบนรถ ลักษณะพื้นฐานของ MIRAI คล้ายกับห้องปฏิบัติการเคมีแบบเคลื่อนที่ได้! เซลล์เชื้อเพลิงสร้างกระแสไฟฟ้าโดยการดึงอิเล็กตรอนออกจากอะตอมไฮโดรเจน ไฮโดรเจนจะจับตัวกับออกซิเจนจนกลายเป็นน้ำ ในขณะที่อิเล็กตรอนให้พลังงานกับมอเตอร์ไฟฟ้า

ผลที่ได้คือ รถยนต์ไฟฟ้าที่เติมเชื้อเพลิงไฮโดรเจนจากปั๊ม แทนที่จะเป็นอิเล็กตรอนที่ดึงมาจากโครงข่ายไฟฟ้า มอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อน AC Synchronous motor ให้กำลังสูงสุด 182 แรงม้า แบตเตอรี่ Lithium ion 1.24kWh ความจุถังเชื้อเพลิงไฮโดรเจน ขนาด 5.6 กิโลกรัม ระบบส่งกำลัง direct drive motor แบบ Single speed ไปยังล้อหลัง MIRAI ใช้เวลา 9.4 วินาที ในการเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แรงบิดของมอเตอร์ไฟฟ้า 300 นิวตันเมตร ขณะออกตัว ทำให้รู้สึกคล่องแคล่วว่องไวพอๆ กับการออกตัวใน Lexus ES300h เมื่อขับไปรอบเมืองก็พบว่า MIRAI วิ่งได้อย่างนิ่มนวลและเงียบพอๆ กับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า แชสซีขับเคลื่อนล้อหลัง ให้ฟีลลิ่งความสปอร์ตที่น่าประหลาดใจ จากข้อมูลของ Toyota ยานยนต์เซลล์เชื้อเพลิง MIRAI รุ่นใหม่ วิ่งได้ไกลถึง 800 กิโลเมตร ต่อการเติมไฮโดรเจนหนึ่งครั้ง.

 

ขอบคุณข้อมูลจาก thairath.co.th

.

.

.

.

_____________________________________

เราคือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

เทอร์โบแท้

IHI TURBO 🇯🇵

GARRETT 🇺🇸

ซื้อกับเราได้สินค้าแท้100%

คุ้มค่ากว่า ใช้งานได้ในระยะยาว

สบายใจกว่า เทอร์โบแท้รับประกันสินค้ายาวนาน

บริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม

โดยทีมงานมืออาชีพ ผู้มีประสบการณ์มากกว่า 24 ปี”

สั่งอะไหล่กับเรา "ออกใบกำกับภาษี" ได้

พร้อมบริการการดูแลหลังการขายตลอดอายุการใช้งาน

⚙️เข้าชมสินค้าทั้งหมดในเว็บไซต์

คลิก: www.sqdparts.com

⚙️สั่งซื้อทางเพจ

คลิก: m.me/sqdparts

⚙️สั่งซื้อผ่านไลน์

คลิก: https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=sqdparts

คลิกYoutube : https://bit.ly/3IAJstu

คลิกTiktok : https://bit.ly/3bXmLmN

คลิกInstagram : https://bit.ly/3AFxMD

เขียนโดย sqdparts เมื่อ Wed 07 Jun, 2023
อ่านต่อ

เข้าสู่หน้าฝนแล้ว ถึงเวลาที่ผู้ขับขี่และเจ้าของรถจะต้องเตรียมความพร้อมให้กับรถ เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนน อีกทั้งยังเป็นการช่วยรักษาสมรรถนะและอายุการใช้งานของรถอีกด้วย

 

วันนี้เราได้รวบรวม 5 สิ่ง ที่ต้องเตรียมให้พร้อม ช่วงหน้าฝน จะมีอะไรบ้าง มาดูกันครับ

ยางรถ

     ตรวจเช็กยางให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน เริ่มด้วยการตรวจสอบแรงดันลมยาง จะต้องอยู่ในระดับที่คู่มือประจำรถกำหนด ตรวจสอบให้แน่ใจว่ายางของคุณมีความลึกของดอกยางเพียงพอ รวมถึงตรวจดูสภาพยางว่าบวม หรือแตกลายงา หรือไม่

ยางปัดน้ำฝน

     ยางปัดน้ำฝนที่เสียหายหรือชํารุดอาจส่งผลต่อการมองเห็นขณะฝนตก ตรวจสอบความเรียบของหน้ายางที่สัมผัสกับกระจก จะต้องเรียบตลอดแนวไม่มีรอยขาด และเนื้อยางหรือซิลิโคนจะต้องนิ่มไม่แข็งกระด้างแตกลายงา

ระบบไฟ

     ไฟของรถยนต์ที่มีความสว่างเหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ ตรวจสอบไฟทุกดวง ทั้งไฟหน้า ไฟท้าย ไฟเบรกและไฟเลี้ยว จะต้องอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานส่องสว่างชัดเจน

ระบบเบรก

     ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเบรกของคุณยังทำงานได้ดี ดูระดับความหนาของผ้าเบรก ไม่ควรต่ำกว่า 4 มม. เบรกแล้วพวงมาลัยต้องไม่สั่น หากสั่นให้ตรวจสอบที่หน้าสัมผัสของจานเบรก

ระบบช่วงล่าง

     ตรวจสอบระบบกันสะเทือนว่ามีน้ำมันรั่วซึมหรือไม่ และลูกหมากตามจุดต่าง ๆ จะต้องแน่นไม่ดังกุกกักเวลาขับ เพราะอาจส่งผลต่อการควบคุมในขณะใช้ความเร็ว

 

     แม้ว่าคุณจะปฏิบัติตามข้อควรระวังทั้งหมด แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าอุบัติเหตุจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ แนะนำว่ารถทุกคันควรซื้อประกันภัยติดรถเอาไว้ทั้งประกันรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.) และประกันรถยนต์ภาคสมัครใจชั้น 1, 2, 2+, 3 หรือ 3+ เพื่อความคุ้มครองสูงสุดสำหรับทั้งรถยนต์และผู้ขับขี่

 

ขอบคุณข้อมูลจาก autospinn.com

.

.

.

.

_____________________________________

เราคือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

เทอร์โบแท้

IHI TURBO 🇯🇵

GARRETT 🇺🇸

ซื้อกับเราได้สินค้าแท้100%

คุ้มค่ากว่า ใช้งานได้ในระยะยาว

สบายใจกว่า เทอร์โบแท้รับประกันสินค้ายาวนาน

บริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม

โดยทีมงานมืออาชีพ ผู้มีประสบการณ์มากกว่า 24 ปี”

สั่งอะไหล่กับเรา "ออกใบกำกับภาษี" ได้

พร้อมบริการการดูแลหลังการขายตลอดอายุการใช้งาน

⚙️เข้าชมสินค้าทั้งหมดในเว็บไซต์

คลิก: www.sqdparts.com

⚙️สั่งซื้อทางเพจ

คลิก: m.me/sqdparts

⚙️สั่งซื้อผ่านไลน์

คลิก: https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=sqdparts

คลิกYoutube : https://bit.ly/3IAJstu

คลิกTiktok : https://bit.ly/3bXmLmN

คลิกInstagram : https://bit.ly/3AFxMDx

เขียนโดย sqdparts เมื่อ Mon 05 Jun, 2023
อ่านต่อ

กรมการขนส่งทางบกยกระดับระบบการจองหมายเลขทะเบียนรถยนต์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต ที่เว็บไซต์ https://reserve.dlt.go.th/reserve/ ต้องยืนยันตัวตนผ่านแอปพลิเคชัน ThaID ก่อนจองหมายเลขทะเบียนรถเพื่อความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล เริ่ม 1 มิถุนายน 2566 เป็นต้นไป

 

ขนส่ง ยกระดับระบบการจองเลขทะเบียนรถยนต์ผ่านออนไลน์ ป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลรั่วไหล

     เสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก และโฆษกกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ปัจจุบันการจองหมายเลขทะเบียนรถยนต์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต ได้รับความนิยมจากประชาชนเพราะสะดวก รวดเร็ว จึงได้ยกระดับระบบการจองหมายเลขทะเบียนรถยนต์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ตให้มีความปลอดภัยทางด้านข้อมูลส่วนบุคคลมากขึ้น

ได้เพิ่มขั้นตอนการยืนยันตัวตนก่อนการจองหมายเลขทะเบียนรถยนต์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต

 

     ที่เว็บไซต์ https://reserve.dlt.go.th/reserve/  เพื่อเป็นยืนยันตัวบุคคลตามมาตรฐานของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หรือ PDPA (Personal Data Protection Act)  และป้องกันการแอบอ้างเอาชื่อบุคคลอื่นมาดำเนินการจองทะเบียนรถยนต์ ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหายกับข้อมูลส่วนบุคคลหรือสูญเสียทรัพย์ได้

 

ขั้นตอนการจองหมายเลขทะเบียนรถยนต์

  1. เข้าเว็บไซต์ https://reserve.dlt.go.th/reserve/  เลือกเมนู “จองหมายเลขทะเบียน”
  2. ระบบจะเข้าสู่หน้ายืนยันตัวตน ให้ทำการยืนยันตัวตนโดยสแกน QR code ผ่านแอปพลิเคชัน ThaID
  3. เมื่อยืนยันตัวตนแล้ว ระบบจะกลับมาที่หน้าหลัก กด “ยอมรับหลักเกณฑ์” เพื่อเข้าสู่หน้าจอถัดไป
  4. ทำการเลือกประเภทรถที่ต้องการจองหมายเลขทะเบียน
  5. เลือกประเภทการจอง
  6. ระบุข้อมูลรายละเอียดของผู้จอง หมายเลขตัวถังรถ/หมายเลขทะเบียนที่ต้องการจอง (กรณีเป็นบุคคลธรรมดา ระบบจะใส่ชื่อ – นามสกุล และเลขบัตรประจำตัวประชาชนให้โดยอัตโนมัติ)

สำหรับการยืนยันตัวตน เจ้าของรถจะต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน ThaID ผ่านระบบไอโอเอส (IOS) หรือ

 

แอนดรอยด์ (Android) เพื่อลงทะเบียนระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางระบบดิจิทัล DOPA-Digital ของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย สามารถดำเนินการลงทะเบียนด้วยตนเอง โดยการถ่ายภาพบัตรประจำตัวประชาชนและภาพใบหน้า ผ่านแอปพลิเคชัน ThaID ในโทรศัพท์มือถือของตนเอง (ดูขั้นตอนการลงทะเบียนยืนยันตัวตนอย่างละเอียดได้ที่ https://www.bora.dopa.go.th/app-thaid/ โดยจะเริ่มให้มีการยืนยันตัวตนก่อนจองหมายเลขทะเบียนรถในวันที่ 1 มิถุนายน 2566 เป็นต้นไป

 

(สรุป ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2566 เป็นต้นไป ต้องยืนยันตัวตน ก่อนจองทะเบียนรถยนต์ออนไลน์ เพื่อความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล)

 

ขอบคุณข้อมูลจาก autospinn.com

.

.

.

.

_____________________________________

เราคือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

เทอร์โบแท้

IHI TURBO 🇯🇵

GARRETT 🇺🇸

ซื้อกับเราได้สินค้าแท้100%

คุ้มค่ากว่า ใช้งานได้ในระยะยาว

สบายใจกว่า เทอร์โบแท้รับประกันสินค้ายาวนาน

บริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม

โดยทีมงานมืออาชีพ ผู้มีประสบการณ์มากกว่า 24 ปี”

สั่งอะไหล่กับเรา "ออกใบกำกับภาษี" ได้

พร้อมบริการการดูแลหลังการขายตลอดอายุการใช้งาน

⚙️เข้าชมสินค้าทั้งหมดในเว็บไซต์

คลิก: www.sqdparts.com

⚙️สั่งซื้อทางเพจ

คลิก: m.me/sqdparts

⚙️สั่งซื้อผ่านไลน์

คลิก: https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=sqdparts

คลิกYoutube : https://bit.ly/3IAJstu

คลิกTiktok : https://bit.ly/3bXmLmN

คลิกInstagram : https://bit.ly/3AFxMDx

เขียนโดย sqdparts เมื่อ Mon 05 Jun, 2023
อ่านต่อ

     ค่าพลังงานไฟฟ้าประจำเดือนพฤษภาคม - สิงหาคม 2566 เริ่มใช้งานตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลงในอนาคต โดยค่าไฟฟ้าตอนนี้จะถูกใช้งานในราคาเดียวกันทั่วประเทศ ตามสถานการณ์ราคาพลังงานโลกที่สูงขึ้น

 

ค่าไฟฟ้า พฤษภาคม - สิงหาคม 2566

อัตราค่าไฟฟ้าประจำเดือนพฤษภาคม - สิงหาคม 2566 ของประเทศไทย สำหรับบ้านอยู่อาศัย มีราคาค่าไฟฟ้าดังนี้

ประเภทมิเตอร์

ค่าไฟฟ้า

ค่าไฟฟ้า

 

(บาทต่อหน่วย)

รวม Vat+Ft

มิเตอร์ปกติ*

 

 

หน่วยที่ 1 - 150

3.2484

4.4515

หน่วยที่ 151 - 400

4.2218

5.4931

หน่วยที่ 401 เป็นต้นไป

4.4217

5.7070

 

 

 

มิเตอร์ TOU*

 

 

On Peak

5.7982

7.1798

Off Peak

2.6369

3.7972

 

*ค่า Ft อยู่ที่หน่วยละ 0.9119 บาท ตามประกาศปรับค่า Ft

การคิดค่าไฟ

     ปัจจุบันนี้ การไฟฟ้านครหลวงและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค มีหลักการคิดคำนวณค่าพลังงานไฟฟ้าที่ใช้งานในบ้านเรือนด้วยมาตรฐานเดียวกัน อัตราเดียวกัน ใช้เหมือนกันทั่วประเทศไม่มีแบ่งโซนภูมิภาคแต่อย่างใด โดยการคิดคำนวณค่าไฟฟ้านั้นจะมีตัวเลขประกอบกันอยู่ 4 ส่วน ได้แก่

 

  1. ค่าไฟฟ้าพื้นฐาน
  2. ค่า Ft
  3. ภาษีมูลค่าเพิ่ม
  4. ค่าบริการ

ภาพตัวอย่างบิลค่าไฟฟ้าแบบ TOU

ค่าไฟฟ้าฐาน

    ค่าไฟฟ้าฐาน เป็นค่าพลังงานไฟฟ้าที่การไฟฟ้านครหลวงและส่วนภูมิภาค ใช้ในการคำนวณปริมาณการใช้ไฟฟ้าของเราตามจริง โดยปัจจุบันนี้ การคิดค่าไฟฟ้าฐานในครัวเรือนจะมีทั้งหมด 3 รูปแบบด้วยกัน ได้แก่

 

  1. มิเตอร์ปกติ ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 150 หน่วย/เดือน
  2. มิเตอร์ปกติ ใช้ไฟฟ้าเกิน 150 หน่วย/เดือน
  3. มิเตอร์ TOU

มิเตอร์ปกติ ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 150 หน่วย/เดือน

     มิเตอร์แบบปกติ ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 150 หน่วย/เดือน มีค่าบริการเดือนละ 8.19 บาท และมีเรทการคิดค่าไฟแบบอัตรา 1.1* มีหลักการคิดค่าไฟฟ้าฐานดังนี้

 

ค่าไฟฟ้า (บาท/หน่วย)

หน่วยที่ 1-15

2.3488

หน่วยที่ 16-25

2.9882

หน่วยที่ 26-35

3.2405

หน่วยที่ 36-100

3.6237

หน่วยที่ 101-150

3.7171

หน่วยที่ 151-400

4.2218

หน่วยที่ 401 ขึ้นไป

4.4217

 

มิเตอร์ปกติ ใช้ไฟฟ้าเกิน 150 หน่วย/เดือน

     มิเตอร์แบบปกติ ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 150 หน่วย/เดือน มีค่าบริการเดือนละ 38.22 บาท จะมีเรทการคิดค่าไฟแบบอัตรา 1.2* มีหลักการคิดค่าไฟฟ้าดังนี้

 

ค่าไฟฟ้า (บาท/หน่วย)

หน่วยที่ 1-150

3.2484

หน่วยที่ 151-400

4.2218

หน่วยที่ 401 ขึ้นไป

4.4217

 

*ผู้ใช้ไฟฟ้าที่ติดตั้งเครื่องวัดหน่วยไฟฟ้า ขนาดไม่เกิน 5 แอมแปร์ 230 โวลต์ 1 เฟส 2 สาย (มิเตอร์ 5(15) A) จะถูกจัดให้อยู่ใน อัตราข้อ 1.1 แต่ถ้ำมีการใช้พลังงานไฟฟ้าเกินกว่า 150 หน่วยต่อเดือน ติดต่อกัน 3 เดือน ในเดือนถัดไปจะ จัดเข้าอยู่ในอัตราข้อ 1.2 และถ้ำมีการใช้พลังงำนไฟฟ้าไม่เกิน 150 หน่วยต่อเดือนติดต่อกัน 3 เดือนใน เดือนถัดไป จะจัดเข้าอยู่ในอัตราข้อ 1.1 ตามเดิม

 

*ผู้ใช้ไฟฟ้าที่ติดตั้งเครื่องวัดหน่วยไฟฟ้า ขนาดเกินกว่า 5 แอมแปร์ 230 โวลต์ 1 เฟส 2 สาย (ตั้งแต่มิเตอร์ 15(45) ขึ้นไป) จะถูกจัดให้อยู่ ในอัตราข้อ 1.2 ตลอดไป

มิเตอร์ TOU คืออะไร

     มิเตอร์ TOU หรือมิเตอร์แบบ Time of Use จะมีวิธีการคิดค่าไฟเป็นแบบช่วงเวลา (แบบปกติจะคำนวณตามปริมาณการใช้งาน) โดยจะแบ่งเวลาออกเป็น 2 ช่วง ได้แก่ช่วง On Peak กับ Off Peak ซึ่งมีราคาไฟฟ้าแตกต่างกันถึง 2 เท่า มีค่าบริการเดือนละ 38.22 บาท

     โดยช่วงความต้องการไฟฟ้าสูง (On Peak) ระหว่างเวลา 09.00-22.00 น. ของวันจันทร์-ศุกร์ อัตราค่าไฟฟ้า 5.7982 บาท ต่อหน่วย

     ช่วงความต้องการไฟฟ้าต่ำ (Off Peak) ระหว่างเวลา 22.00-09.00 น. ของวันจันทร์-ศุกร์ และช่วงเวลาระหว่าง 00.00-24.00 ของวันเสาร์-อาทิตย์ วันแรงงานแห่งชาติ วันหยุดราชการตามปกติ (ไม่รวมวันพืชมงคลและวันหยุดชดเชย) อัตราค่าไฟฟ้า 2.6369 บาท ต่อหน่วย

ค่า Ft คืออะไร

     Ft ย่อมาจากคำว่า Fuel Adjustment Charge โดยดั่งเดิมแล้ว ค่า Ft มาจากคำว่า Float time คือการลอยค่าของต้นทุนการผลิตไฟฟ้าที่การไฟฟ้าไม่สามารถควบคุมได้  เช่น  ราคาเชื้อเพลิง อัตราเงินเฟ้อ อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ เป็นต้น ตามช่วงเวลาต่างๆ ที่ใช้เป็นกรอบในการคำนวณ

     ทว่า ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548 เป็นต้นมา ได้มีการเปลี่ยนแปลงสูตรคำนวณใหม่ คงไว้เพียงต้นทุนค่าเชื้อเพลิงที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้าของ กฟผ. และค่าซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตเอกชนและประเทศเพื่อนบ้านเท่านั้น ที่ กฟผ.ไม่สามารถควบคุมได้  และสามารถนำไปคำนวณในสูตร Ft โดยค่า Ft นี้ จะถูกปรับปรุงทุกๆ 4 เดือน โดยค่า Ft จะมีได้ทั้งแบบเก็บเงินเพิ่มและให้เป็นส่วนลด

ค่าไฟฟ้ารวม Ft+Vat หน่วยละเท่าไหร่

     ในส่วนของค่าไฟฟ้าฐานรวม Ft, VAT (ไม่รวมค่าบริการ) เป็นราคาหน่วยละเท่าไหร่โดยประมาณ สรุปไว้แล้วดังนี้

ประเภทมิเตอร์

ค่าไฟฟ้า

ค่าไฟฟ้า

 

(บาทต่อหน่วย)

รวม Vat+Ft

มิเตอร์ปกติ*

 

 

หน่วยที่ 1 - 150

3.2484

4.4515

หน่วยที่ 151 - 400

4.2218

5.4931

หน่วยที่ 401 เป็นต้นไป

4.4217

5.7070

 

 

 

มิเตอร์ TOU*

 

 

On Peak

5.7982

7.1798

Off Peak

2.6369

3.7972

 

*ค่า Ft อยู่ที่หน่วยละ 0.9119 บาท

 

ขอบคุณข้อมูลจาก autospinn.com

.

.

.

.

_____________________________________

เราคือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

เทอร์โบแท้

IHI TURBO 🇯🇵

GARRETT 🇺🇸

ซื้อกับเราได้สินค้าแท้100%

คุ้มค่ากว่า ใช้งานได้ในระยะยาว

สบายใจกว่า เทอร์โบแท้รับประกันสินค้ายาวนาน

บริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม

โดยทีมงานมืออาชีพ ผู้มีประสบการณ์มากกว่า 24 ปี”

สั่งอะไหล่กับเรา "ออกใบกำกับภาษี" ได้

พร้อมบริการการดูแลหลังการขายตลอดอายุการใช้งาน

⚙️เข้าชมสินค้าทั้งหมดในเว็บไซต์

คลิก: www.sqdparts.com

⚙️สั่งซื้อทางเพจ

คลิก: m.me/sqdparts

⚙️สั่งซื้อผ่านไลน์

คลิก: https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=sqdparts

คลิกYoutube : https://bit.ly/3IAJstu

คลิกTiktok : https://bit.ly/3bXmLmN

คลิกInstagram : https://bit.ly/3AFxMDx

เขียนโดย sqdparts เมื่อ Mon 05 Jun, 2023
อ่านต่อ

ปริมาณรถยนต์ไฟฟ้าประเภทรถเก๋งสะสมในไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตามเทรนด์โลกที่เน้นใช้พลังงานสะอาด ประกอบกับการสนับสนุนของภาครัฐ ซึ่งในช่วงเข้าหน้าฝนของไทย ผู้ที่ใช้รถยนต์ไฟฟ้าหลายคนอาจกังวลกับสภาพฝนตกน้ำท่วมขังหรือน้ำรอการระบาย เนื่องจากยังไม่ทราบว่า การขับรถยนต์ไฟฟ้าลุยน้ำจะทำให้รถเกิดความเสียหายหรือไม่ Autospinn มีฮาวทูขับรถยนต์ไฟฟ้าหน้าฝนทำไงให้ปลอดภัยมาฝาก

 

ขับรถยนต์ไฟฟ้าหน้าฝน ทำไงให้ปลอดภัย

ข้อกังวลในการขับรถยนต์ไฟฟ้าหน้าฝน

รถยนต์ไฟฟ้าเป็นระบบที่มีหลักการทำงานแตกต่างจากรถยนต์ทั่วไป ผู้ขับขี่ หรือผู้ใช้งานจะต้องทราบถึงระบบการทำงานของรถยนต์ไฟฟ้า รวมทั้งสิ่งที่จะต้องคำนึงถึงในการซ่อมบำรุงเบื้องต้น โดยเบื้องต้นจะมีแนวทางปฏิบัติในการใช้งานที่มักจะมีความกังวลจากสาธารณะ ได้แก่

 

วิ่งผ่านน้ำท่วม

ปัญหาน้ำท่วมเป็นอีกสถานการณ์ที่ผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้ากังวล เนื่องจากบางครั้ง คาดเดาได้ยากว่า จะพบสถานการณ์น้ำท่วมเมื่อไร และจะขับผ่านไปได้หรือไม่ โดยไม่เป็นอันตรายกับทั้งผู้ขับขี่และกับตัวรถ ซึ่งการออกแบบและผลิตรถยนต์ไฟฟ้านั้น เป็ นที่ทราบกันดีว่า ระบบขับเคลื่อน โดยเฉพาะมอเตอร์ จะถูกออกแบบมาให้กันน้ำ กันฝุ่น และในการใช้งานจริง พบว่าระบบการทำงานของรถยนต์ไม่พบปัญหาในกำรขับขี่ต่อเนื่องผ่านน้ำ (อย่างช้าๆ)

ดังนั้น ขอแนะนำโดยทั่วไป คือ รถยนต์ไฟฟ้าสามารถขับผ่านน้ำท่วมได้เหมือน รถที่ใช้น้ำมัน คือวิ่งผ่านน้ำท่วมระดับครึ่งล้ออย่างช้าๆ

 

ประจุไฟขณะฝนตก

เทคโนโลยีใหม่ของรถยนต์ไฟฟ้ายังไม่เป็นที่คุ้นเคย อีกทั้งระบบการทำงานเกี่ยวข้องกับ แรงดันไฟฟ้าที่สูง ส่งผลให้ประจุไฟขณะฝนตกเป็นเรื่องที่หลายคนกังวล แต่โดยการออกแบบแล้ว มาตรฐานแท่นประจุถูกออกแบบมาให้ทำงานได้ทั้งกับฝน และหิมะโดยไม่ต้องมีระบบป้องกันหรือที่ครอบเป็นพิเศษ จะสังเกตได้ว่า ที่หัวประจุ Socket มีการออกแบบให้มีช่องระบายน้ำ ในขณะที่แป้นประจุที่ตัวรถ ก็จะมีช่องระบายน้ำเช่นเดียวกัน โดยออกแบบเพื่อรองรับ กรณีฝนตกน้ำขังที่ เต้ารับน้ำจึงไม่ขังอยู่ในบริเวณที่หัวประจุ โดยหัวประจุจะยึดประกบเข้ากับแป้นประจุตามนอกจากนั้นแล้ว ในการเสียบเข้ายึดประกบกัน ไฟฟ้าจะยังไม่จ่ายในทันที เมื่อยึดประกบกัน ซีล กันน้ำมี IP Rating ที่ 54 : ป้องกันฝุ่นและน้ำส่ดจากรอบด้าน จะป้องกันน้ำฝนที่จะเข้าไปโดนขั้วไฟฟ้า

 

เพิ่มเติม อุปกรณ์สำคัญคือ Ground Fault Interrupter (GFI) โดยอุปกรณ์นี้ จะคอยตรวจจับกระแสไฟฟ้า ในวงจรในการไหลไป หากการไหลกลับมีการสูญเสียไปของกระแสไฟฟ้า GFI จะตัดกำลังไฟฟ้าสู่วงจรนั้นทันที และเมื่อไม่พบการรั่วไหลของกระแสการจ่ายไฟฟ้าเพื่อประจุจึงเกิดขึ้นได้

ฝนตกชาร์จไฟรถได้ไหม

ชาร์จได้ เพราะตัวที่ชาร์จออกแบบมาให้สามารถชาร์จได้ตอนฝนตก ตัวแท่นชาร์จมีการติดตั้งระบบสายดินรวมถึงการถ่ายเทน้ำเพื่อไม่ให้มีน้ำขังอีกด้วย หรือแม้กระทั่งตัวรถยนต์ EV เองก็มีระบบที่จะตรวจจับการลัดวงจร หากมีการลัดวงจรระบบก็จะตัดอัตโนมัติ

 

ขับรถยนต์ไฟฟ้าหน้าฝน ทำไงให้ปลอดภัย

1. ลดความเร็วรถลง

การชะลอความเร็วรถเมื่อขับลุยน้ำท่วมโดยใช้ความเร็วอยู่ที่ 60-80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จะได้หลีกเลี่ยงคลื่นน้ำที่เข้ามาปะทะใต้ท้องรถ ทั้งยังช่วยทำให้ควบคุมรถได้ง่ายขึ้น

2. รักษาระยะห่างกับรถคันหน้า

แม้เราจะชะลอความเร็วลง ขณะที่ขับรถผ่านน้ำท่วม น้ำขัง แต่เพื่อความปลอดภัย ควรรักษาระยะห่างจากรถคันหน้าให้มาก ๆ เพื่อป้องกันรถชนท้าย เพราะรถคันหน้าเบรคกะทันหัน

3. ไม่ควรขับลุย ถ้าน้ำท่วมสูงมาก

ถ้าเห็นว่า ถนนหรือซอยไหนมีระดับน้ำสูงเกินครึ่งล้อหรือสูงกว่าประตูรถ แนะนำให้หลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าว การขับรถลุยน้ำอาจส่งผลเสียต่อรถได้ เพราะไม่รู้ว่า ถนนที่จะไปนั้น มีหลุมหรือสิ่งกีดขวางที่เป็นอันตรายต่อระบบช่วงล่างของรถหรือไม่

4. ปิดแอร์

สาเหตุรถดับส่วนใหญ่เกิดจากการเปิดแอร์แล้วขับลุยน้ำ เพราะเวลาเปิดแอร์ พัดลมจะทำงาน ใบพัดจะพัดให้น้ำกระจายเข้าไปยังชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้องกับระบบรถยนต์ไฟฟ้า แล้วทำให้เครื่องยนต์ดับ

5. เมื่อถึงจุดหมาย อย่าเพิ่งดับรถทันที

การไม่ดับรถ เมื่อถึงปลายทาง เพื่อเป็นการไล่น้ำออก และตรวจสอบสัญญาณเตือนต่างๆที่หน้าจอ

     อย่างไรก็ดี หลังขับรถลุยน้ำเป็นระยะเวลานาน ผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าควรนำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อตรวจเช็ครถยนต์เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการใช้งาน รวมถึงศึกษาคู่มือการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าอย่างละเอียด

 

ขอบคุณข้อมูลจาก autospinn.com

.

.

.

.

_____________________________________

เราคือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

เทอร์โบแท้

IHI TURBO 🇯🇵

GARRETT 🇺🇸

ซื้อกับเราได้สินค้าแท้100%

คุ้มค่ากว่า ใช้งานได้ในระยะยาว

สบายใจกว่า เทอร์โบแท้รับประกันสินค้ายาวนาน

บริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม

โดยทีมงานมืออาชีพ ผู้มีประสบการณ์มากกว่า 24 ปี”

สั่งอะไหล่กับเรา "ออกใบกำกับภาษี" ได้

พร้อมบริการการดูแลหลังการขายตลอดอายุการใช้งาน

⚙️เข้าชมสินค้าทั้งหมดในเว็บไซต์

คลิก: www.sqdparts.com

⚙️สั่งซื้อทางเพจ

คลิก: m.me/sqdparts

⚙️สั่งซื้อผ่านไลน์

คลิก: https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=sqdparts

คลิกYoutube : https://bit.ly/3IAJstu

คลิกTiktok : https://bit.ly/3bXmLmN

คลิกInstagram : https://bit.ly/3AFxMDx

เขียนโดย sqdparts เมื่อ Sat 03 Jun, 2023
อ่านต่อ
แสดง รายการ
ร้านค้าออนไลน์ และ ขายของออนไลน์ โดย © 2006-2023 Vevo Systems Co., Ltd.