×
หน้าหลัก > ข่าวและประกาศ
บทความ : ข่าวและประกาศ
แสดง รายการ

     การขับรถช้าๆ เป็นวิธีที่หลายคนปฏิบัติเพื่อช่วยให้รถกินน้ำมันน้อยลง แต่ความจริงการขับรถช้าช่วยประหยัดน้ำมันได้แค่ไหน บทความนี้ เรามีคำตอบมาฝากกันครับ

 

การขับรถช้าๆ ช่วยประหยัดน้ำมันได้จริงไหม?

คำตอบคือ จริง เพราะเมื่อเราขับรถช้าๆ แรงต้านอากาศที่กระทำต่อตัวรถก็จะน้อยลง ทำให้เครื่องยนต์ไม่ต้องทำงานหนักในการเคลื่อนที่รถ อีกทั้งรอบเครื่องยนต์ก็จะต่ำ ส่งผลให้การเผาไหม้น้ำมันมีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

แต่! การขับรถช้าเกินไป ก็ไม่ได้แปลว่ารถจะประหยัดน้ำมันเสมอไป เพราะหากขับรถด้วยความเร็วต่ำจนเกินไป เกียร์จะไม่ตัดไปยังอัตราทดเกียร์สูงสุด ทำให้รอบเครื่องยนต์สูงเกินความจำเป็น จึงควรขับด้วยความเร็วที่พอดี ซึ่ง โดยทั่วไปแล้ว ความเร็วที่เหมาะสมจะอยู่ที่ประมาณ 80-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขึ้นอยู่กับประเภทของรถและสภาพการจราจร

 

นอกจากความเร็วแล้ว ปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลต่อการประหยัดน้ำมันก็มีอีกมากมาย เช่น สภาพของรถ ยางรถที่สึกหรอ หรือไม่สมดุลจะทำให้เกิดแรงเสียดทานเพิ่มขึ้น ทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันมากขึ้น การบรรทุกของหนักเกินไปก็จะทำให้เครื่องยนต์ต้องทำงานหนักขึ้นเช่นกัน และพฤติกรรมการขับขี่ก็มีส่วนสำคัญ การเร่งเครื่องหรือเบรกกระทันหัน จะทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันมากกว่าการขับขี่แบบเรียบๆ นุ่มนวล

 

รวมไปถึงการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามกำหนด เปลี่ยนไส้กรองอากาศ การปรับตั้งตั้งวาล์ว และการตรวจสอบระบบเบรก จะช่วยให้รถยนต์ของคุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและประหยัดน้ำมันมากขึ้น

 

กล่าวโดยสรุป การขับรถช้าๆ ช่วยประหยัดน้ำมันได้จริง แต่ต้องไม่ช้าจนเกินไป ช่วงความเร็วที่ประหยัดน้ำมันที่สุดจะอยู่ราว 80 - 100 กม./ชม. อีกทั้งยังควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการขับขี่ และดูแลรักษารถยนต์ให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมันที่ดีที่สุดนั่นเอง

 

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com

.

.

.

.

_____________________________________

เราคือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

เทอร์โบแท้

IHI TURBO 🇯🇵

GARRETT 🇺🇸

MITSUBISHI TURBOCHARGER 🇯🇵

ซื้อกับเราได้สินค้าแท้100%

คุ้มค่ากว่า ใช้งานได้ในระยะยาว

สบายใจกว่า เทอร์โบแท้รับประกันสินค้ายาวนาน

บริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม

โดยทีมงานมืออาชีพ ผู้มีประสบการณ์มากกว่า 24 ปี”

สั่งอะไหล่กับเรา "ออกใบกำกับภาษี" ได้

พร้อมบริการการดูแลหลังการขายตลอดอายุการใช้งาน

⚙️เข้าชมสินค้าทั้งหมดในเว็บไซต์

คลิก: www.sqdparts.com

⚙️สั่งซื้อทางเพจ

คลิก: m.me/sqdparts

⚙️สั่งซื้อผ่านไลน์

คลิก: https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=sqdparts

คลิกYoutube : https://bit.ly/3IAJstu

คลิกTiktok : https://bit.ly/3bXmLmN

คลิกInstagram : https://bit.ly/3AFxMDx

เขียนโดย sqdparts เมื่อ Thu 18 Sep, 2025
อ่านต่อ

     ปัญหารถกินน้ำมันผิดปกติ น้ำมันหมดถังเร็วกว่าปกติ เกิดขึ้นได้กับรถที่ผ่านการใช้งานมาระยะหนึ่ง ซึ่งอาจเกิดจากสาเหตุหลายอย่างที่อาจจำแนกได้ดังต่อไปนี้

 

1. ระบบจุดระเบิดมีปัญหา

หัวเทียนเสีย - หัวเทียนที่เสื่อมสภาพหรือมีคราบเขม่ามากเกินไป จะทำให้การจุดระเบิดไม่สมบูรณ์ ทำให้เครื่องยนต์ทำงานหนักขึ้นและกินน้ำมันมากขึ้น

สายหัวเทียนชำรุด - สายหัวเทียนที่เสียหายจะทำให้สัญญาณไฟฟ้าอ่อนลง ส่งผลต่อการจุดระเบิด

คอยล์จุดระเบิดเสีย - คอยล์จุดระเบิดมีหน้าที่สร้างประกายไฟเพื่อจุดระเบิด หากเสียหายจะทำให้การจุดระเบิดไม่สมบูรณ์ เครื่องยนต์มีอาการสั่น และไฟเอนจิ้นโชว์

2. ระบบเชื้อเพลิงมีปัญหา

ปั๊มติ๊กเสีย - ปั๊มติ๊กมีหน้าที่ส่งน้ำมันไปยังเครื่องยนต์ หากเสียหายจะทำให้น้ำมันไม่เพียงพอต่อการเผาไหม้

หัวฉีดตัน - หัวฉีดมีหน้าที่พ่นน้ำมันเชื้อเพลิงเข้าไปในห้องเผาไหม้ หากตันจะทำให้น้ำมันพ่นออกมาไม่สม่ำเสมอ

ตัวกรองน้ำมันเชื้อเพลิงสกปรก - ตัวกรองน้ำมันเชื้อเพลิงที่สกปรกจะทำให้น้ำมันไหลผ่านได้น้อยลง

3. ปัญหาที่ระบบอากาศ

เซ็นเซอร์วัดปริมาณอากาศเสีย - เซ็นเซอร์ตัวนี้มีหน้าที่วัดปริมาณอากาศที่เข้าสู่เครื่องยนต์ หากเสียหายจะทำให้เครื่องยนต์ได้รับอากาศไม่เพียงพอ ส่งผลต่อการเผาไหม้

ท่ออากาศรั่ว - ท่ออากาศที่รั่วจะทำให้อากาศเข้าสู่เครื่องยนต์ไม่เพียงพอ หรือเข้าไปในปริมาณที่มากเกินไป

4. ปัญหาที่เครื่องยนต์

แหวนลูกสูบสึกหรอ - แหวนลูกสูบมีหน้าที่ป้องกันไม่ให้น้ำมันเครื่องรั่วลงไปในห้องเผาไหม้ หากสึกหรอจะทำให้น้ำมันเครื่องเข้าไปเผาไหม้กับน้ำมันเชื้อเพลิง

วาล์วสึกหรอ - วาล์วมีหน้าที่ควบคุมการเปิด-ปิดของห้องเผาไหม้ หากสึกหรอจะทำให้การเผาไหม้ไม่สมบูรณ์

การตั้งวาล์วผิดเพี้ยน - การตั้งวาล์วที่ผิดเพี้ยนจะส่งผลต่อการทำงานของเครื่องยนต์ และทำให้กินน้ำมันมากขึ้น

5. พฤติกรรมการใช้รถ

ยางรถยนต์ลมอ่อน - ยางรถยนต์ลมอ่อนจะทำให้การหมุนของล้อรถยากขึ้น เครื่องยนต์ต้องทำงานหนักขึ้นจึงจะขับเคลื่อนรถได้

น้ำหนักบรรทุกมากเกินไป - การบรรทุกของหนักเกินไปจะทำให้เครื่องยนต์ต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อเคลื่อนย้ายน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น

พฤติกรรมการขับขี่ - การขับรถด้วยความเร็วสูงบ่อยๆ การเร่งเครื่องอย่างรุนแรง หรือการเบรกกระทันหัน จะทำให้รถกินน้ำมันมากขึ้น

 

     สาเหตุที่กล่าวมาข้างต้นเป็นเพียงสาเหตุทั่วไป อาจมีสาเหตุอื่นๆ ที่ทำให้รถกินน้ำมันผิดปกติได้เช่นกัน ทางที่ดีควรนำรถเข้ารับการเช็กระยะเป็นประจำสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็นศูนย์หรืออู่นอกก็ตาม และหากพบว่ารถมีอาการผิดปกติ ควรรีบนำรถเข้ารับการตรวจเช็กและแก้ไขโดยทันที ไม่ปล่อยจนอาการลุกลามบานปลาย มิเช่นนั้นแล้วอาจต้องเสียค่าใช้จ่ายก้อนโตได้

 

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com

.

.

.

.

_____________________________________

เราคือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

เทอร์โบแท้

IHI TURBO 🇯🇵

GARRETT 🇺🇸

MITSUBISHI TURBOCHARGER 🇯🇵

ซื้อกับเราได้สินค้าแท้100%

คุ้มค่ากว่า ใช้งานได้ในระยะยาว

สบายใจกว่า เทอร์โบแท้รับประกันสินค้ายาวนาน

บริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม

โดยทีมงานมืออาชีพ ผู้มีประสบการณ์มากกว่า 24 ปี”

สั่งอะไหล่กับเรา "ออกใบกำกับภาษี" ได้

พร้อมบริการการดูแลหลังการขายตลอดอายุการใช้งาน

⚙️เข้าชมสินค้าทั้งหมดในเว็บไซต์

คลิก: www.sqdparts.com

⚙️สั่งซื้อทางเพจ

คลิก: m.me/sqdparts

⚙️สั่งซื้อผ่านไลน์

คลิก: https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=sqdparts

คลิกYoutube : https://bit.ly/3IAJstu

คลิกTiktok : https://bit.ly/3bXmLmN

คลิกInstagram : https://bit.ly/3AFxMDx

เขียนโดย sqdparts เมื่อ Thu 18 Sep, 2025
อ่านต่อ

     การเปลี่ยนชุดซ่อมแกนเทอร์โบมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อประสิทธิภาพและอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ สาเหตุหลักที่ต้องเปลี่ยนชุดซ่อมแกนเทอร์โบคือเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นจากการสึกหรอของชิ้นส่วนภายใน ซึ่งมักเกิดจากการใช้งานเป็นเวลานาน การหล่อลื่นที่ไม่เพียงพอ หรือการสะสมของสิ่งสกปรกต่างๆ การเปลี่ยนชุดซ่อมแกนเทอร์โบจะช่วยให้เทอร์โบกลับมาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับเครื่องยนต์ในระยะยาวได้

อาการบ่งชี้ที่ควรรู้

1. มีควันออกจากท่อไอเสีย

  • ควันสีน้ำเงิน/ขาว: ควันสีนี้บ่งชี้ว่ามีน้ำมันเครื่องรั่วเข้าไปในห้องเผาไหม้ สาเหตุอาจมาจากซีลแกนเทอร์โบที่สึกหรอ ทำให้น้ำมันเครื่องเล็ดลอดเข้าไปและถูกเผาไหม้พร้อมกับน้ำมันเชื้อเพลิง

2. เทอร์โบมีเสียงผิดปกติ

  • เสียงหวีดแหลม: เป็นเสียงที่ดังกว่าปกติขณะที่เทอร์โบทำงาน ซึ่งอาจเกิดจากใบพัดเทอร์โบไปเสียดสีกับเสื้อเทอร์โบเนื่องจากลูกปืนแกนเทอร์โบหลวมหรือสึกหรอ
  • เสียงหอนหรือเสียงดังคล้ายโลหะเสียดสีกัน: เสียงนี้บ่งชี้ว่าลูกปืนหรือซีลแกนเทอร์โบมีความเสียหายอย่างรุนแรง และอาจต้องเปลี่ยนชุดซ่อมแกนเทอร์โบหรือเปลี่ยนเทอร์โบใหม่

3. รถยนต์มีกำลังตก

  • รถยนต์เร่งไม่ขึ้น: เมื่อชุดซ่อมแกนเทอร์โบสึกหรอจะทำให้การทำงานของเทอร์โบไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร ส่งผลให้แรงดันอากาศที่อัดเข้าสู่เครื่องยนต์ลดลง ทำให้กำลังของเครื่องยนต์ตกและรถยนต์เร่งไม่ขึ้น
  • กินน้ำมันมากขึ้น: เมื่อเครื่องยนต์ต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อสร้างกำลังที่ลดลง ทำให้ต้องใช้น้ำมันเชื้อเพลิงมากขึ้น

4. มีคราบน้ำมันซึมออกมาจากเทอร์โบ

  • คราบน้ำมันบริเวณท่อไอดีหรือท่อไอเสีย: เป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าซีลของแกนเทอร์โบไม่สามารถกันน้ำมันได้ ทำให้มีน้ำมันรั่วออกมา ซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้นานๆ อาจทำให้เกิดความเสียหายกับชิ้นส่วนอื่นๆ ของเครื่องยนต์ได้

หากพบอาการเหล่านี้ ควรรีบนำรถยนต์ไปให้ช่างผู้ชำนาญการตรวจสอบและเปลี่ยนชุดซ่อมแกนเทอร์โบโดยเร็ว เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจลุกลามไปถึงเครื่องยนต์

 

_____________________________________

เราคือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

เทอร์โบแท้

IHI TURBO 🇯🇵

GARRETT 🇺🇸

MITSUBISHI TURBOCHARGER 🇯🇵

ซื้อกับเราได้สินค้าแท้100%

คุ้มค่ากว่า ใช้งานได้ในระยะยาว

สบายใจกว่า เทอร์โบแท้รับประกันสินค้ายาวนาน

บริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม

โดยทีมงานมืออาชีพ ผู้มีประสบการณ์มากกว่า 24 ปี”

สั่งอะไหล่กับเรา "ออกใบกำกับภาษี" ได้

พร้อมบริการการดูแลหลังการขายตลอดอายุการใช้งาน

⚙️เข้าชมสินค้าทั้งหมดในเว็บไซต์

คลิก: www.sqdparts.com

⚙️สั่งซื้อทางเพจ

คลิก: m.me/sqdparts

⚙️สั่งซื้อผ่านไลน์

คลิก: https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=sqdparts

คลิกYoutube : https://bit.ly/3IAJstu

คลิกTiktok : https://bit.ly/3bXmLmN

คลิกInstagram : https://bit.ly/3AFxMDx

เขียนโดย sqdparts เมื่อ Tue 16 Sep, 2025
อ่านต่อ

     การจะเลือกเทอร์โบมาใส่รถดีเซลเครื่อง 2.5 ลิตรให้แรงสะใจนั้น ไม่ใช่แค่การเลือกเทอร์โบที่ใหญ่ที่สุดแล้วจะจบ เพราะถ้าเลือกผิดนอกจากจะไม่ได้แรงอย่างที่หวังแล้ว อาจจะทำให้เครื่องยนต์เสียหายได้เลยทีเดียว ดังนั้นเรามาดูกันว่ามีอะไรที่ต้องคำนึงถึงบ้าง

1. ทำความเข้าใจกับคำศัพท์สำคัญก่อน

  • บูสต์ (Boost): แรงดันอากาศที่เทอร์โบอัดเข้าไปในห้องเผาไหม้ ยิ่งบูสต์สูงยิ่งทำให้เครื่องยนต์มีกำลังมากขึ้น
  • เทอร์โบแล็ก (Turbo Lag): อาการหน่วงของเครื่องยนต์ก่อนที่เทอร์โบจะเริ่มทำงานเต็มที่ ยิ่งเทอร์โบใหญ่มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีโอกาสที่จะมีอาการเทอร์โบแล็กมากขึ้นเท่านั้น
  • อัตราส่วน A/R (Area/Radius): อัตราส่วนพื้นที่หน้าตัดของทางเข้าไอเสียเทียบกับรัศมีของโข่งหลัง อัตราส่วน A/R ที่เล็กจะทำให้เทอร์โบติดเร็วแต่จะหมดไว ส่วนอัตราส่วน A/R ที่ใหญ่จะทำให้เทอร์โบติดช้าแต่จะไหลได้ยาวๆ

2. กำหนดเป้าหมายความแรงที่ต้องการ

ก่อนจะไปเลือกเทอร์โบ สิ่งสำคัญคือต้องรู้ก่อนว่าเราต้องการให้รถแรงแค่ไหน ถ้าคุณต้องการแค่แรงขับในชีวิตประจำวัน ไม่ต้องเปลี่ยนอุปกรณ์ภายในเครื่องยนต์มาก ก็ควรเลือกเทอร์โบขนาดที่ไม่ใหญ่เกินไป เพื่อให้รถมีอัตราเร่งที่ดี และสามารถใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างสบาย

แต่ถ้าคุณต้องการความแรงในระดับที่สูงขึ้นเพื่อใช้ในการแข่ง หรือต้องการบูสต์ที่หนักๆ การเลือกเทอร์โบขนาดใหญ่ขึ้นจะตอบโจทย์มากกว่า แต่ก็ต้องแลกมากับค่าใช้จ่ายในการทำเครื่องที่มากขึ้น ทั้งการเปลี่ยนหัวฉีด ปั๊มดีเซลแรงดันสูง หรือแม้แต่การเปลี่ยนไส้ในเครื่องยนต์ให้ทนทานขึ้น

3. เลือกขนาดและเบอร์เทอร์โบให้เหมาะสม

สำหรับเครื่องยนต์ดีเซล 2.5 ลิตรที่ไม่ได้ทำไส้ในมาเยอะ และต้องการใช้งานในชีวิตประจำวัน อาจจะเลือกใช้เทอร์โบที่มากับรถเดิมๆ แล้วนำมาอัพเกรดไส้กลาง หรือเลือกใช้เทอร์โบตรงรุ่นที่ออกแบบมาเพื่อเครื่องยนต์ 2.5 ลิตรโดยเฉพาะ ซึ่งส่วนใหญ่จะมีขนาดโข่งหลัง (ใบพัดไอเสีย) ที่เหมาะสม ทำให้ไม่มีอาการเทอร์โบแล็กมากเกินไป และยังคงความแรงได้ดีในทุกรอบเครื่อง

ถ้าอยากจะแรงขึ้นไปอีกหน่อย หรือต้องการบูสต์ในระดับ 30-40 ปอนด์ ก็สามารถขยับไปใช้เทอร์โบขนาดใหญ่ขึ้นได้ เช่น เบอร์ 48 หรือ 50 โดยต้องพิจารณาอัตราส่วน A/R ให้ดีเพื่อหาจุดที่เหมาะสมระหว่างอัตราเร่งและความไหลของรอบปลาย

หากต้องการแรงแบบสุดๆ เพื่อลงสนามแข่ง ก็อาจจะต้องพิจารณาไปใช้เทอร์โบขนาดใหญ่กว่านี้ เช่น เบอร์ 52 หรือ 55 ซึ่งจะให้กำลังมหาศาล แต่ก็จะแลกมาด้วยอาการเทอร์โบแล็กที่ชัดเจน ดังนั้นการเลือกเทอร์โบในกลุ่มนี้จำเป็นต้องมีการปรับจูนระบบเครื่องยนต์อย่างละเอียด และอาจต้องพึ่งการทำไส้ในเพื่อรองรับบูสต์ที่สูงขึ้น

4. ชิ้นส่วนอื่นๆ ที่ต้องอัพเกรด

นอกจากตัวเทอร์โบแล้ว การจะทำให้เครื่องยนต์แรงสะใจอย่างปลอดภัยจำเป็นต้องมีการอัพเกรดชิ้นส่วนอื่นๆ ควบคู่ไปด้วย

  • อินเตอร์คูลเลอร์ (Intercooler): ทำหน้าที่ระบายความร้อนของอากาศที่ถูกอัดด้วยเทอร์โบก่อนที่จะเข้าไปในเครื่องยนต์ การติดตั้งอินเตอร์คูลเลอร์ที่ใหญ่ขึ้นจะช่วยให้อากาศมีความหนาแน่นมากขึ้น ทำให้เผาไหม้ได้อย่างสมบูรณ์ และป้องกันความร้อนสะสมที่อาจทำให้เครื่องยนต์เสียหายได้
  • หัวฉีด (Injector): หัวฉีดที่ใหญ่ขึ้นจะช่วยให้สามารถจ่ายน้ำมันได้เพียงพอต่อปริมาณอากาศที่เพิ่มขึ้นจากการอัดของเทอร์โบ
  • ปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิง (Fuel Pump): ปั๊มน้ำมันต้องมีกำลังอัดที่สูงเพียงพอเพื่อส่งน้ำมันไปให้หัวฉีดได้อย่างเหมาะสม
  • คลัตช์ (Clutch): แรงบิดที่เพิ่มขึ้นจากเครื่องยนต์จะทำให้คลัตช์เดิมรับภาระไม่ไหว การเปลี่ยนคลัตช์แต่งจะช่วยให้ส่งกำลังได้ดีขึ้นและทนทานกว่าเดิม
  • การจูนกล่อง ECU (ECU Remap): การจูนกล่องควบคุมเครื่องยนต์ให้ทำงานสอดคล้องกับอุปกรณ์ที่อัพเกรดเข้ามาทั้งหมด จะทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและปลอดภัย

การเลือกเทอร์โบให้แรงสะใจนั้นต้องคำนึงถึงหลายปัจจัย ไม่ใช่แค่ขนาดและเบอร์ของเทอร์โบเท่านั้น แต่ยังต้องคำนึงถึงงบประมาณและการใช้งานที่ต้องการด้วย หากไม่มั่นใจควรปรึกษาอู่หรือร้านจูนที่มีความเชี่ยวชาญเพื่อที่จะได้เทอร์โบที่ตอบโจทย์ความแรงที่คุณต้องการ และปลอดภัยต่อเครื่องยนต์ของคุณครับ

 

_____________________________________

เราคือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

เทอร์โบแท้

✅IHI TURBO 🇯🇵

✅GARRETT 🇺🇸

MITSUBISHI TURBOCHARGER 🇯🇵

ซื้อกับเราได้สินค้าแท้100%

คุ้มค่ากว่า ใช้งานได้ในระยะยาว

สบายใจกว่า เทอร์โบแท้รับประกันสินค้ายาวนาน

บริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม

โดยทีมงานมืออาชีพ ผู้มีประสบการณ์มากกว่า 24 ปี”

สั่งอะไหล่กับเรา "ออกใบกำกับภาษี" ได้

พร้อมบริการการดูแลหลังการขายตลอดอายุการใช้งาน

⚙️เข้าชมสินค้าทั้งหมดในเว็บไซต์

คลิก: www.sqdparts.com

⚙️สั่งซื้อทางเพจ

คลิก: m.me/sqdparts

⚙️สั่งซื้อผ่านไลน์

คลิก: https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=sqdparts

คลิกYoutube : https://bit.ly/3IAJstu

คลิกTiktok : https://bit.ly/3bXmLmN

คลิกInstagram : https://bit.ly/3AFxMDx

เขียนโดย sqdparts เมื่อ Tue 16 Sep, 2025
อ่านต่อ

     การถอดและติดตั้งเทอร์โบในรถยนต์ Mitsubishi Triton เป็นงานที่ต้องใช้ความระมัดระวังและความรู้ความเข้าใจในระบบเครื่องยนต์เป็นอย่างดี เนื่องจากมีชิ้นส่วนและข้อควรระวังหลายจุดที่อาจส่งผลเสียต่อเครื่องยนต์ได้หากทำผิดขั้นตอน

ข้อควรระวังเบื้องต้นที่สำคัญที่สุด:

  • วินิจฉัยปัญหาให้ถูกต้อง: ก่อนที่จะถอดหรือเปลี่ยนเทอร์โบ ควรแน่ใจว่าปัญหาที่เกิดขึ้นกับรถยนต์นั้นมาจากเทอร์โบจริงๆ ไม่ใช่จากสาเหตุอื่น เช่น ระบบฉีดเชื้อเพลิง, ไส้กรองอากาศอุดตัน, ท่อไอเสียรั่ว หรือปัญหาเรื่องการหล่อลื่นของเครื่องยนต์
  • ใช้เทอร์โบที่ถูกต้อง: ตรวจสอบหมายเลขชิ้นส่วนของเทอร์โบใหม่ให้แน่ใจว่าตรงกับรุ่นรถและเครื่องยนต์ของคุณ การใช้เทอร์โบที่ไม่ถูกต้องอาจทำให้เครื่องยนต์และเทอร์โบเสียหายได้ และอาจทำให้การรับประกันเป็นโมฆะ
  • ความสะอาด: ความสะอาดเป็นสิ่งสำคัญมากในขั้นตอนการทำงาน เพราะเศษฝุ่นหรือสิ่งแปลกปลอมเล็กน้อยที่เข้าไปในระบบอาจทำให้เทอร์โบหรือเครื่องยนต์เสียหายได้

ขั้นตอนการถอดและติดตั้งเทอร์โบ Mitsubishi Triton (โดยทั่วไป):

1. ขั้นตอนการเตรียมการ:

  • จอดรถบนพื้นราบ: ดับเครื่องยนต์และปล่อยให้เครื่องยนต์เย็นลงสนิท
  • เตรียมเครื่องมือ: เตรียมเครื่องมือที่จำเป็น เช่น ประแจเบอร์ต่างๆ, คีม, ไขควง, บล็อก, และอุปกรณ์อื่นๆ ที่จำเป็นสำหรับงานช่าง
  • ถอดขั้วแบตเตอรี่: เพื่อความปลอดภัย ควรถอดขั้วลบ (-) ของแบตเตอรี่ออก
  • ถ่ายน้ำมันเครื่อง: แนะนำให้ถ่ายน้ำมันเครื่องเก่าออก และเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเครื่องใหม่ เพราะมักจะมีเศษโลหะหรือสิ่งสกปรกสะสมอยู่
  • ถอดไส้กรองอากาศและไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิง: เพื่อป้องกันการปนเปื้อนและเพื่อให้มั่นใจว่าระบบอากาศและเชื้อเพลิงสะอาด

2. ขั้นตอนการถอดเทอร์โบ:

  • ระบุตำแหน่งเทอร์โบ: เทอร์โบจะอยู่ติดกับท่อร่วมไอเสีย
  • ถอดท่อและสายไฟ: ถอดท่ออากาศ, ท่อน้ำมันเครื่อง, ท่อน้ำหล่อเย็น, และสายไฟที่เชื่อมต่อกับเทอร์โบและแอคชูเอเตอร์ (Actuator)
  • ถอดโบลท์ยึดเทอร์โบ: ใช้ประแจถอดโบลท์ที่ยึดเทอร์โบเข้ากับท่อร่วมไอเสียและส่วนอื่นๆ
  • นำเทอร์โบเก่าออก: ค่อยๆ ยกเทอร์โบเก่าออกจากเครื่องยนต์ ระมัดระวังไม่ให้กระทบกระเทือนกับชิ้นส่วนอื่นๆ

3. ขั้นตอนการติดตั้งเทอร์โบใหม่:

  • ตรวจสอบและทำความสะอาด: ก่อนติดตั้งเทอร์โบใหม่ ให้ตรวจสอบท่อและจุดเชื่อมต่อทั้งหมดว่าไม่มีรอยแตกร้าวหรือสิ่งสกปรกใดๆ
  • หล่อลื่นเทอร์โบใหม่: ก่อนที่จะติดตั้ง ควรหล่อลื่นช่องทางเข้าของน้ำมันเครื่องในเทอร์โบใหม่ด้วยน้ำมันเครื่องที่สะอาด
  • วางเทอร์โบใหม่: วางเทอร์โบใหม่เข้าที่เดิมอย่างระมัดระวัง
  • ขันโบลท์ยึด: ขันโบลท์ยึดเทอร์โบให้แน่นตามค่าแรงที่กำหนด (Torque Specification) ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมาก
  • ติดตั้งท่อและสายไฟ: ต่อท่อและสายไฟทั้งหมดกลับเข้าที่เดิม ตรวจสอบให้แน่ใจว่าการเชื่อมต่อทั้งหมดแน่นหนา ไม่มีการรั่วไหล
  • เติมน้ำมันเครื่องและน้ำหล่อเย็น: เติมน้ำมันเครื่องและน้ำหล่อเย็นให้ได้ระดับที่เหมาะสม

4. ขั้นตอนการสตาร์ทเครื่องยนต์และการทดสอบ:

  • ตรวจสอบการรั่วซึม: ตรวจสอบว่าไม่มีการรั่วไหลของน้ำมัน, น้ำหล่อเย็น หรืออากาศ
  • สตาร์ทเครื่องยนต์: สตาร์ทเครื่องยนต์และปล่อยให้เดินเบาประมาณ 2-3 นาที เพื่อให้น้ำมันเครื่องไหลเวียนเข้าไปหล่อลื่นเทอร์โบอย่างทั่วถึง
  • ตรวจสอบแรงดันน้ำมันเครื่อง: ตรวจสอบว่าไฟเตือนแรงดันน้ำมันเครื่องดับลง
  • ทดสอบการขับขี่: ขับรถไปทดสอบการทำงานของเทอร์โบ โดยเริ่มจากการขับขี่ปกติ แล้วจึงค่อยๆ เพิ่มความเร็วเพื่อดูว่าเทอร์โบทำงานได้ตามปกติหรือไม่

คำแนะนำเพิ่มเติม:

  • หากไม่มีความชำนาญในการซ่อมรถยนต์ ควรนำรถไปให้ช่างผู้ชำนาญดำเนินการให้ เพื่อความปลอดภัยและป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น
  • ศึกษาคู่มือการซ่อมบำรุงของ Mitsubishi Triton โดยละเอียด เนื่องจากในแต่ละรุ่นและแต่ละปีอาจมีรายละเอียดที่แตกต่างกัน
  • เลือกซื้อเทอร์โบและอะไหล่ที่มีคุณภาพจากแหล่งที่เชื่อถือได้

 

_____________________________________

เราคือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

เทอร์โบแท้

IHI TURBO 🇯🇵

GARRETT 🇺🇸

MITSUBISHI TURBOCHARGER 🇯🇵

ซื้อกับเราได้สินค้าแท้100%

คุ้มค่ากว่า ใช้งานได้ในระยะยาว

สบายใจกว่า เทอร์โบแท้รับประกันสินค้ายาวนาน

บริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม

โดยทีมงานมืออาชีพ ผู้มีประสบการณ์มากกว่า 24 ปี”

สั่งอะไหล่กับเรา "ออกใบกำกับภาษี" ได้

พร้อมบริการการดูแลหลังการขายตลอดอายุการใช้งาน

⚙️เข้าชมสินค้าทั้งหมดในเว็บไซต์

คลิก: www.sqdparts.com

⚙️สั่งซื้อทางเพจ

คลิก: m.me/sqdparts

⚙️สั่งซื้อผ่านไลน์

คลิก: https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=sqdparts

คลิกYoutube : https://bit.ly/3IAJstu

คลิกTiktok : https://bit.ly/3bXmLmN

คลิกInstagram : https://bit.ly/3AFxMDx

เขียนโดย sqdparts เมื่อ Tue 16 Sep, 2025
อ่านต่อ

สัญญาณเตือนและอาการของเทอร์โบพังในรถ Isuzu D-Max

การที่เทอร์โบพังเป็นปัญหาที่ค่อนข้างร้ายแรงสำหรับรถดีเซลที่มีระบบอัดอากาศ หากไม่ได้รับการแก้ไขอย่างทันท่วงที อาจส่งผลเสียต่อเครื่องยนต์โดยรวมได้ หากสังเกตเห็นอาการผิดปกติเหล่านี้ ควรนำรถเข้าตรวจสอบโดยช่างผู้เชี่ยวชาญทันที

1. เสียงผิดปกติจากเทอร์โบ

  • เสียงหอนดังผิดปกติ (Whining Sound): เป็นสัญญาณที่พบบ่อยที่สุดและชัดเจนที่สุด อาการนี้เกิดจากแกนเทอร์โบหลวม ทำให้ใบพัดเสียดสีกับโข่งหรือปากเทอร์โบ
  • เสียงวี้ดแหลม (Siren Sound): เสียงคล้ายไซเรนที่ดังขึ้นตามรอบเครื่องยนต์ เป็นสัญญาณว่าแบริ่งในแกนเทอร์โบเริ่มสึกหรออย่างรุนแรง

2. ประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ลดลง

  • รถไม่มีกำลัง อัตราเร่งตก (Loss of Power): สังเกตได้ว่ารถอืดลงอย่างชัดเจน เร่งไม่ขึ้นเหมือนเดิม โดยเฉพาะในรอบเครื่องยนต์ที่เทอร์โบควรจะทำงาน (รอบสูง) อาการนี้เกิดจากการที่เทอร์โบไม่สามารถสร้างแรงดันอากาศได้เพียงพอ
  • ควันไอเสียเปลี่ยนไป:
    • ควันดำ (Black Smoke): เกิดจากส่วนผสมของอากาศและเชื้อเพลิงไม่สมดุล คือมีน้ำมันมากเกินไปแต่อากาศน้อย ซึ่งเป็นผลมาจากเทอร์โบไม่สามารถอัดอากาศได้เต็มที่
    • ควันขาว/ควันฟ้า (White/Blue Smoke): เป็นอาการที่รุนแรงและอันตราย บ่งบอกว่ามีน้ำมันเครื่องรั่วเข้าไปในห้องเผาไหม้ สาเหตุหลักคือซีลแกนเทอร์โบชำรุด ทำให้เครื่องยนต์กินน้ำมันเครื่องอย่างผิดปกติ

3. การรั่วซึมของน้ำมันเครื่อง

  • น้ำมันเครื่องหาย/ลดลงผิดปกติ: หากต้องเติมน้ำมันเครื่องบ่อยกว่าปกติ โดยที่ไม่มีรอยรั่วซึมที่ชัดเจนภายนอกเครื่องยนต์ มีความเป็นไปได้สูงที่น้ำมันเครื่องจะถูกเผาไหม้ไปกับไอเสียผ่านทางเทอร์โบ
  • คราบน้ำมันในท่ออินเตอร์คูลเลอร์: หากถอดท่อที่ต่อจากเทอร์โบไปยังอินเตอร์คูลเลอร์แล้วพบว่ามีคราบน้ำมันเครื่องเยิ้ม แสดงว่าซีลเทอร์โบชำรุดและน้ำมันเครื่องรั่วซึม

วิธีการตรวจเช็คเบื้องต้นด้วยตัวเอง

การตรวจเช็คด้วยตัวเองควรทำด้วยความระมัดระวังและเมื่อเครื่องยนต์เย็นลงแล้วเท่านั้น:

  1. ถอดท่ออากาศที่ต่อเข้ากับปากเทอร์โบฝั่งไอดี (ฝั่งอากาศเข้า):
    • ตรวจเช็คใบพัด: ใช้ไฟฉายส่องดูว่าใบพัดมีร่องรอยการบิ่น แหว่ง หรือคดงอหรือไม่ หากพบว่ามีแสดงว่าเทอร์โบชำรุด
    • โยกแกนเทอร์โบ: ใช้มือจับที่แกนใบพัดแล้วลองโยกดูทั้งแนวขึ้น-ลง และหน้า-หลัง หากมีการขยับมากผิดปกติ แสดงว่าแกนหลวม
    • หมุนแกนเทอร์โบ: ลองใช้นิ้วหมุนใบพัดดู ควรจะหมุนได้อย่างราบรื่น หากรู้สึกฝืดหรือมีเสียงครืดคราด แสดงว่าแกนเทอร์โบมีปัญหา
  2. ตรวจเช็คคราบน้ำมัน:
    • ตรวจสอบคราบน้ำมันในท่อและรอบๆ โข่งเทอร์โบ หากมีคราบน้ำมันเยิ้มเป็นจำนวนมาก แสดงว่าซีลเทอร์โบรั่ว

คำแนะนำ: หากพบอาการผิดปกติใดๆ ข้างต้น ควรหยุดใช้รถและนำรถเข้าอู่ซ่อมหรือศูนย์บริการที่เชี่ยวชาญทันที เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจลุกลามไปยังเครื่องยนต์ ซึ่งจะทำให้ค่าใช้จ่ายในการซ่อมสูงขึ้นมาก

 

_____________________________________

เราคือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

เทอร์โบแท้

IHI TURBO 🇯🇵

GARRETT 🇺🇸

MITSUBISHI TURBOCHARGER 🇯🇵

ซื้อกับเราได้สินค้าแท้100%

คุ้มค่ากว่า ใช้งานได้ในระยะยาว

สบายใจกว่า เทอร์โบแท้รับประกันสินค้ายาวนาน

บริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม

โดยทีมงานมืออาชีพ ผู้มีประสบการณ์มากกว่า 24 ปี”

สั่งอะไหล่กับเรา "ออกใบกำกับภาษี" ได้

พร้อมบริการการดูแลหลังการขายตลอดอายุการใช้งาน

⚙️เข้าชมสินค้าทั้งหมดในเว็บไซต์

คลิก: www.sqdparts.com

⚙️สั่งซื้อทางเพจ

คลิก: m.me/sqdparts

⚙️สั่งซื้อผ่านไลน์

คลิก: https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=sqdparts

คลิกYoutube : https://bit.ly/3IAJstu

คลิกTiktok : https://bit.ly/3bXmLmN

คลิกInstagram : https://bit.ly/3AFxMDx

เขียนโดย sqdparts เมื่อ Mon 15 Sep, 2025
อ่านต่อ
แสดง รายการ
ร้านค้าออนไลน์ และ ขายของออนไลน์ โดย © 2006-2025 Vevo Systems Co., Ltd.