เรื่องที่ต้องรู้ก่อนเปลี่ยนสีรถใหม่ ทำยังไงให้ไม่ผิดกฎหมาย?
การเปลี่ยนสีรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นการทำสีใหม่ทั้งคัน หรือการติดสติกเกอร์ (Wrap) เพื่อเปลี่ยนรูปลักษณ์รถให้ดูสวยงาม เป็นสิ่งที่เจ้าของรถสามารถทำได้ตามความต้องการ อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่ต้องทำควบคู่กันไปเพื่อให้การเปลี่ยนแปลงนี้ถูกกฎหมาย คือการแจ้งเปลี่ยนสีรถต่อกรมการขนส่งทางบกอย่างเป็นทางการ หากมีการเปลี่ยนแปลงสีรถที่ชัดเจนและไม่ดำเนินการแจ้งภายในกำหนด อาจต้องเผชิญกับโทษปรับสูงสุดถึง 2,000 บาทได้เลยทีเดียว
 
ดังนั้น เจ้าของรถจึงควรรู้ขั้นตอนและรายละเอียดที่จำเป็น เพื่อให้การเปลี่ยนสีรถเป็นไปอย่างราบรื่นและถูกต้องตามกฎหมายกำหนด เพื่อที่จะไม่ถูกปรับหลังจากที่ทำการเปลี่ยนสีรถยนต์
 
กฎหมายกำหนดเรื่องการเปลี่ยนสีรถไว้อย่างไร?
ตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 มาตรา 13 ได้กำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการแจ้งเปลี่ยนสีรถไว้ชัดเจน ดังนี้:
	- การเปลี่ยนสีรถ: หากรถมีการเปลี่ยนสีที่ผิดไปจากที่จดทะเบียนไว้ เกินกว่า 30% ของพื้นที่ตัวถังรถทั้งหมด ซึ่งรวมถึงการติดสติกเกอร์ (แร็ปรถ) เจ้าของรถมีหน้าที่ต้องนำรถมาแจ้งต่อนายทะเบียน
 
	- ต้องแจ้งเมื่อไหร่: ต้องดำเนินการแจ้งเปลี่ยนสีรถ ภายใน 7 วัน นับแต่วันที่เปลี่ยนแปลงสีรถเรียบร้อยแล้ว
 
	- บทลงโทษ: หากฝ่าฝืน ไม่แจ้งภายในระยะเวลาที่กำหนด จะมีความผิดตามมาตรา 60 และมีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท
 
อย่างไรก็ตาม หากเป็นการติดสติกเกอร์เป็นลายคาด แถบตกแต่ง หรือลวดลายเพื่อโฆษณา โดยที่สีหลักของรถไม่เปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน หรือเปลี่ยนสีเฉพาะส่วนน้อย เจ้าของรถไม่จำเป็นต้องดำเนินการแจ้งกับกรมการขนส่งทางบก
 
การแจ้งเปลี่ยนสีรถ
เอกสารที่ต้องเตรียมให้พร้อมก่อนไปขนส่ง
ก่อนเดินทางไปติดต่อที่สำนักงานขนส่งทั่วประเทศ เจ้าของรถควรเตรียมเอกสารหลักฐานเหล่านี้ให้ครบถ้วน เพื่อความรวดเร็วในการดำเนินการแจ้งเปลี่ยนสีรถ:
	- ใบคู่มือจดทะเบียนรถ
 
	- ภาพถ่ายบัตรประจำตัวประชาชน
 
	- หลักฐานการเปลี่ยนสีรถ เช่น ใบเสร็จรับเงินค่าเปลี่ยนสี
 
ข้อกำหนดเพิ่มเติมที่สำคัญคือ ภาษีรถต้องเหลือไม่น้อยกว่า 30 วัน หากเหลือน้อยกว่า เจ้าของรถจะต้องดำเนินการต่อภาษีให้เรียบร้อยก่อน จึงจะสามารถแจ้งเปลี่ยนสีรถได้
 
ขั้นตอนการแจ้งเปลี่ยนสีรถ ณ กรมการขนส่งทางบก
เมื่อเตรียมเอกสารครบถ้วนและนำรถไปดำเนินการที่สำนักงานขนส่งทั่วประเทศ หรือกรมการขนส่งทางบก ณ จุดที่สะดวกแล้ว มีขั้นตอนหลัก ๆ 4 ขั้นตอน ดังนี้:
	- ยื่นคำขอและนำรถเข้าตรวจสภาพ: ยื่นเอกสารทั้งหมดที่ช่องบริการ เพื่อแสดงความประสงค์ขอนำรถเข้ารับการตรวจสอบสีที่เปลี่ยนแปลงใหม่จากเจ้าหน้าที่ตรวจสภาพรถ
 
	- รอรับผลการตรวจสอบ: เมื่อรถผ่านการตรวจสอบสีใหม่แล้ว เจ้าหน้าที่จะออกใบแจ้งผลการตรวจสอบให้แก่เจ้าของรถ
 
	- ชำระค่าธรรมเนียม: นำผลการตรวจสอบและเอกสารทั้งหมดไปยื่นและชำระค่าธรรมเนียม ซึ่งรวมแล้วประมาณ 105 บาท (ประกอบด้วย ค่าคำขอ 5 บาท, ค่าแจ้งเปลี่ยนสี 50 บาท, และค่าตรวจสภาพรถ 50 บาท)
 
	- รับเอกสารคืน: รอรับคู่มือจดทะเบียนรถคืน ซึ่งจะมีการแก้ไขและบันทึกสีรถใหม่ในเล่มทะเบียนเรียบร้อยแล้ว
 
สรุปสิ่งที่ควรทำเมื่อเปลี่ยนสีรถ
การทำตามขั้นตอนอย่างถูกต้องนี้จะช่วยให้เจ้าของรถใช้งานรถได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องกังวลเรื่องการทำผิดกฎหมาย และที่สำคัญคือเป็นการปรับปรุงข้อมูลทะเบียนรถให้เป็นปัจจุบัน ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากเมื่อต้องทำธุรกรรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับรถในอนาคต ดังนั้น เมื่อเปลี่ยนสีรถเกินกว่า 30% อย่าลืมแจ้งกรมขนส่งภายใน 7 วัน เพื่อให้การเปลี่ยนสีรถเป็นไปอย่างถูกกฎหมาย
 
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
.
.
.
.
_____________________________________
เราคือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ
เทอร์โบแท้
✅IHI TURBO 🇯🇵
✅GARRETT 🇺🇸
✅MITSUBISHI TURBOCHARGER 🇯🇵
✅ซื้อกับเราได้สินค้าแท้100%
✅คุ้มค่ากว่า ใช้งานได้ในระยะยาว
✅สบายใจกว่า เทอร์โบแท้รับประกันสินค้ายาวนาน
✅บริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม
“โดยทีมงานมืออาชีพ ผู้มีประสบการณ์มากกว่า 24 ปี”
สั่งอะไหล่กับเรา "ออกใบกำกับภาษี" ได้
พร้อมบริการการดูแลหลังการขายตลอดอายุการใช้งาน
⚙️เข้าชมสินค้าทั้งหมดในเว็บไซต์
คลิก: www.sqdparts.com
⚙️สั่งซื้อทางเพจ
คลิก: m.me/sqdparts
⚙️สั่งซื้อผ่านไลน์
คลิก: https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=sqdparts
คลิกYoutube : https://bit.ly/3IAJstu
คลิกTiktok : https://bit.ly/3bXmLmN
คลิกInstagram : https://bit.ly/3AFxMDx