×
ผลการค้นหา : TOYOTA
แสดง รายการ

     โตโยต้าเปิดตัว "Toyota Fortuner Leader S" ใหม่ รุ่นเริ่มต้นเครื่องยนต์ดีเซล 2.4 ลิตร พร้อมอุปกรณ์มาตรฐานเน้นความคุ้มค่า เคาะราคาจำหน่าย 1,239,000 บาท

Toyota Fortuner Leader S ถูกติดตั้งอุปกรณ์มาตรฐานภายนอก ได้แก่ ไฟหน้า Bi-Beam LED พร้อม Daytime Running Lights, ไฟตัดหมอกหน้า LED, ไฟท้าย LED Light Guiding และล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว

 

     ภายในห้องโดยสารติดตั้งเบาะนั่งหุ้มวัสดุผ้าคุณภาพสูง, มาตรวัดแบบเรืองแสง พร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ขนาด 4.2 นิ้ว, กุญแจรีโมท Jack Knife Key, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ แยกอิสระซ้าย-ขวา พร้อมแผ่นกรองปรับอากาศ PM2.5, หน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay / Android Auto, กล้องมองหลัง (Back Monitor) และช่องจ่ายไฟ AC 220V

     ด้านระบบความปลอดภัยถูกติดตั้งระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (TCS), ระบบควบคุมการทรงตัว (VSC), ระบบป้องกันล้อล็อก (ABS), ระบบเสริมแรงเบรก (BA), ระบบกระจายแรงเบรก (EBD), ระบบควบคุมการส่ายของส่วนพ่วงท้าย (TSC), ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน (HAC), ดิสก์เบรก 4 ล้อ, ถุงลมเสริมความปลอดภัย 7 ตำแหน่ง, โครงสร้างนิรภัย GOA, พวงมาลัยแบบยุบตัวได้ และเข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุด 7 ที่นั่ง

    Toyota Fortuner Leader S ติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ รหัส 2GD-FTV (High) ความจุ 2.4 ลิตร กำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 3,400 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-2,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ พร้อม Sequential Shift อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 14.3 กม./ลิตร (อ้างอิงผล ECO Sticker)

 

     ระบบช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบอิสระปีกนกคู่ พร้อมคอยล์สปริง และเหล็กกันโคลง ด้านหลังแบบโฟร์ลิงก์คอยล์สปริง และเหล็กกันโคลง พร้อมระบบควบคุมพวงมาลัยแปรผันตามระดับความเร็ว

Toyota Fortuner Leader S มีให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีเงิน Silver Metallic, สีดำ Attitude Black Mica และสีขาวมุก Platinum White Pearl (เพิ่มเงิน 12,000 บาท)

     ราคาจำหน่าย Toyota Fortuner Leader ทั้ง 4 รุ่นย่อย ได้แก่ 2.4 Leader S ราคา 1,239,000 บาท (รุ่นย่อยใหม่), 2.4 Leader G ราคา 1,400,000 บาท, 2.4 Leader V ราคา 1,530,000 บาท และ 2.4 Leader V 4WD ราคา 1,600,000 บาท

 

ขอบคุณข้อมูลจาก mgronline.com

.

.

.

.

_____________________________________

เราคือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

เทอร์โบแท้

IHI TURBO 🇯🇵

GARRETT 🇺🇸

MITSUBISHI TURBOCHARGER 🇯🇵

ซื้อกับเราได้สินค้าแท้100%

คุ้มค่ากว่า ใช้งานได้ในระยะยาว

สบายใจกว่า เทอร์โบแท้รับประกันสินค้ายาวนาน

บริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม

โดยทีมงานมืออาชีพ ผู้มีประสบการณ์มากกว่า 24 ปี”

สั่งอะไหล่กับเรา "ออกใบกำกับภาษี" ได้

พร้อมบริการการดูแลหลังการขายตลอดอายุการใช้งาน

⚙️เข้าชมสินค้าทั้งหมดในเว็บไซต์

คลิก: www.sqdparts.com

⚙️สั่งซื้อทางเพจ

คลิก: m.me/sqdparts

⚙️สั่งซื้อผ่านไลน์

คลิก: https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=sqdparts

คลิกYoutube : https://bit.ly/3IAJstu

คลิกTiktok : https://bit.ly/3bXmLmN

คลิกInstagram : https://bit.ly/3AFxMDx

เขียนโดย sqdparts เมื่อ Mon 04 Nov, 2024
อ่านต่อ

     กระบะไฟฟ้าขนาดกลางไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป เพราะก่อนหน้านี้ Isuzu ประกาศเตรียมเปิดตัว D-Max EV ภายในปี 2025 ขณะที่ Toyota ก็มีแผนเปิดตัว Hilux (หรือ Hilux Revo) เวอร์ชันไฟฟ้าล้วนในปี 2026 และล่าสุด Ford ก็ประกาศเตรียมเปิดตัว Ranger EV ในอีก 3 ปีข้างหน้านี้

 

อันที่จริง Ford ไม่ได้ประกาศเตรียมเปิดตัว Ranger EV ชัดๆ เสียทีเดียว หากแต่ระบุว่ามีแผนเปิดตัวรถกระบะขนาดกลางขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าที่พัฒนาขึ้นบนแพล็ตฟอร์มใหม่ภายในปี 2027 นี้ โดยเน้นจับกลุ่มลูกค้าที่มองหาความคุ้มค่า ระยะทางขับขี่ที่มากกว่า อเนกประสงค์กว่า และรองรับการใช้งานได้หลากหลาย

 

จึงมีความเป็นไปได้สูงว่ารถกระบะรุ่นดังกล่าวก็คือ Ranger ที่วางจำหน่ายในปัจจุบัน ขณะที่ "แพล็ตฟอร์มใหม่" ก็เป็นไปได้ว่าอาจจะเป็น Ranger ที่พัฒนาขึ้นบนแพล็ตฟอร์มใหม่ทั้งหมด หรือ Ranger EV อาจถูกพัฒนาขึ้นบนแพล็ตฟอร์มสำหรับระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าโดยเฉพาะก็เป็นได้

 

ก่อนหน้านี้ ฟอร์ตเผยโฉม Ranger PHEV ขุมพลัง Plug-in Hybrid เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว โดยมีกำหนดเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไป ซึ่งจะมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 2.3 EcoBoost ควบคู่กับมอเตอร์และแบตเตอรี่ที่ให้ระยะทางขับขี่ในโหมดไฟฟ้าสูงสุด 45 กม. ทั้งยังมีฟังก์ชัน Pro Power Onboard ที่สามารถจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าภายนอกได้

 

ส่วนความคืบหน้าของ Ford Ranger EV ต้องรอรายละเอียดกันอีกครั้ง

 

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com

.

.

.

.

_____________________________________

เราคือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

เทอร์โบแท้

IHI TURBO 🇯🇵

GARRETT 🇺🇸

MITSUBISHI TURBOCHARGER 🇯🇵

ซื้อกับเราได้สินค้าแท้100%

คุ้มค่ากว่า ใช้งานได้ในระยะยาว

สบายใจกว่า เทอร์โบแท้รับประกันสินค้ายาวนาน

บริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม

โดยทีมงานมืออาชีพ ผู้มีประสบการณ์มากกว่า 24 ปี”

สั่งอะไหล่กับเรา "ออกใบกำกับภาษี" ได้

พร้อมบริการการดูแลหลังการขายตลอดอายุการใช้งาน

⚙️เข้าชมสินค้าทั้งหมดในเว็บไซต์

คลิก: www.sqdparts.com

⚙️สั่งซื้อทางเพจ

คลิก: m.me/sqdparts

⚙️สั่งซื้อผ่านไลน์

คลิก: https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=sqdparts

คลิกYoutube : https://bit.ly/3IAJstu

คลิกTiktok : https://bit.ly/3bXmLmN

คลิกInstagram : https://bit.ly/3AFxMDx

เขียนโดย sqdparts เมื่อ Wed 11 Sep, 2024
อ่านต่อ

     ใครที่ใช้รถ Toyota Fortuner รุ่นปัจจุบันแล้วรู้สึกว่าไฟหน้าอัตโนมัติติดไวเกินไป แค่ขับผ่านร่มไม้ หรือลอดใต้สะพานไฟก็ติดแล้ว สามารถปรับตั้งค่าความไว (Sensitivity) ด้วยตัวเองแบบง่ายๆ ได้ทันที ไม่ต้องนำรถเข้าศูนย์บริการให้เสียเวลา

 

วิธีตั้งค่าความไวไฟหน้าออโต้ Toyota Fortuner

  1. กดปุ่มสตาร์ท 2 ครั้ง โดยไม่ต้องเหยียบเบรก หน้าจอจะขึ้น IGNITION ON
  2. หมุนก้านไฟหน้าจาก Auto ไปตำแหน่งไฟหรี่
  3. กดปุ่มสตาร์ท 1 ครั้ง เพื่อปิดการทำงานของระบบไฟฟ้าทั้งหมด
  4. ดึงก้านไฟหน้าเข้าหาตัวค้างไว้ หมุนสวิตช์ไฟขึ้น-ลง 5 ครั้งแล้วจึงปล่อย
  5. หากรถไม่เคยตั้งค่าไฟหน้ามาก่อน ไฟหน้าจะกระพริบ 3 ครั้ง = ความ ไวระดับ 3 ซึ่งเป็นค่ามาตรฐานจากโรงงาน
  6. หากต้องการปรับระดับความไว ให้ดึงก้านเข้าหาตัวค้างไว้อีกครั้ง แล้วหมุนขึ้น-ลงให้ได้จำนวนครั้งตามระดับความไวที่ต้องการตั้งแต่ 1-5 โดยที่ 1 = ช้าสุด และ 5 = ไวสุด หากต้องการระดับ 1 ให้หมุนขึ้น-ลง 1 ครั้ง แล้วจึงปล่อย ไฟหน้าจะกระพริบ 1 ครั้ง เป็นอันสิ้นสุดการตั้งค่า

หากใครใช้รถรุ่นนี้แล้วประสบปัญหาไฟหน้าติดไวอยู่แล้วล่ะก็ อย่าลืมนำไปลองใช้กันนะครับ

 

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com

.

.

.

.

_____________________________________

เราคือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

เทอร์โบแท้

IHI TURBO 🇯🇵

GARRETT 🇺🇸

MITSUBISHI TURBOCHARGER 🇯🇵

ซื้อกับเราได้สินค้าแท้100%

คุ้มค่ากว่า ใช้งานได้ในระยะยาว

สบายใจกว่า เทอร์โบแท้รับประกันสินค้ายาวนาน

บริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม

โดยทีมงานมืออาชีพ ผู้มีประสบการณ์มากกว่า 24 ปี”

สั่งอะไหล่กับเรา "ออกใบกำกับภาษี" ได้

พร้อมบริการการดูแลหลังการขายตลอดอายุการใช้งาน

⚙️เข้าชมสินค้าทั้งหมดในเว็บไซต์

คลิก: www.sqdparts.com

⚙️สั่งซื้อทางเพจ

คลิก: m.me/sqdparts

⚙️สั่งซื้อผ่านไลน์

คลิก: https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=sqdparts

คลิกYoutube : https://bit.ly/3IAJstu

คลิกTiktok : https://bit.ly/3bXmLmN

คลิกInstagram : https://bit.ly/3AFxMDx

เขียนโดย sqdparts เมื่อ Thu 18 Jul, 2024
อ่านต่อ

     เคยสงสัยไหมครับว่าเทอร์โบที่มีโลโก้ TOYOTA ทุกตัวที่มีขายอยู่ในตามท้องตลาดเป็นของแท้หรือของปลอม วันนี้เรา SQD จะมาให้คำตอบกับทุกคนกันครับ

 

     หลายๆคนอาจจะสงสัยว่าเทอร์โบทั่วไปที่มีขายตามท้องตลาดนั้น ที่ไม่ได้ขายตามศูนย์บริการ เป็นของแท้หรือป่าว เพราะเนื่องจากเห็นว่ามีโลโก้ของแบรนด์ติดอยู่ที่ตัวเทอร์โบ และเนื่องด้วยราคาที่ถูกกว่าศูนย์ ทำให้เป็นที่สนใจจากลูกค้าหลายๆคนมากกว่า เราจะมาบอกวิธีสังเกตุแบบนี้ครับ

 

Part NO.

ของปลอมจะเป็นลักษณะแบบเป็นสติ๊กเกอร์ ที่สามารถแกะได้ครับ

 

ถ้าเป็นของแท้ที่เป็นตัวแทนจำหน่ายจาก IHI จะเป็น Part สีดำ ไม่สามารถแกะออกได้ครับ

 

บรรจุภัณฑ์

ของปลอมที่มีวางหน่ายตามท้องตลาด ที่ไม่ใช่ศูนย์บริการจะเป็นกล่องที่เลียนแบบกล่องของ TOYOTA มาครับ เลยสามารถทำให้ลูกค้าสับสนได้

 

เทอร์โบแท้ ของตัวแทนจำหน่ายจาก IHI จะต้องเป็นกล่องสีฟ้าเท่านั้น

 

ถ้าหากลูกค้าไม่ได้ซื้อสินค้าที่ศูนย์บริการ ซื้อจากด้านนอก จะมีข้อสังเกตุอยู่ 2 อย่างครับ

  1. ราคาที่ถูกเกินไป
  2. เรื่องการรับประกัน
  • เทอร์โบของปลอมจะมีการรับประกันอยู่ที่ 3-6 เดือน อายุการใช้งาน จะไม่ต่างจากการรับประกัน
  • เทอร์โบแท้จะไม่กลัวเรื่องการรับประกัน และจะมีอายุการใช้งานเป็น 10 ปี ครับ

 

ขอบคุณข้อมูลจาก sqdparts.com

.

.

.

.

_____________________________________

เราคือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

เทอร์โบแท้

✅IHI TURBO 🇯🇵

✅GARRETT 🇺🇸

MITSUBISHI TURBOCHARGER 🇯🇵

ซื้อกับเราได้สินค้าแท้100%

คุ้มค่ากว่า ใช้งานได้ในระยะยาว

สบายใจกว่า เทอร์โบแท้รับประกันสินค้ายาวนาน

บริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม

โดยทีมงานมืออาชีพ ผู้มีประสบการณ์มากกว่า 24 ปี”

สั่งอะไหล่กับเรา "ออกใบกำกับภาษี" ได้

พร้อมบริการการดูแลหลังการขายตลอดอายุการใช้งาน

⚙️เข้าชมสินค้าทั้งหมดในเว็บไซต์

คลิก: www.sqdparts.com

⚙️สั่งซื้อทางเพจ

คลิก: m.me/sqdparts

⚙️สั่งซื้อผ่านไลน์

คลิก: https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=sqdparts

คลิกYoutube : https://bit.ly/3IAJstu

คลิกTiktok : https://bit.ly/3bXmLmN

คลิกInstagram : https://bit.ly/3AFxMDx

เขียนโดย sqdparts เมื่อ Fri 14 Jun, 2024
อ่านต่อ

     คนบ่นไม่ได้ใช้ คนใช้ไม่เคยบ่น! เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับสิ่งของหลาย ๆ อย่างนะครับ โดยเฉพาะในยุคโซเชียลมีเดียแบบนี้ เรื่องของ “รถ EV” คือหนึ่งในนั้น ยิ่งเมื่อมีข่าวในเชิงลบออกมาทีไร โลกโซเชียลก็จะกระหน่ำทันที จนทำให้หลายคนอดสงสัยไม่ได้ว่า หากซื้อรถ EV มาใช้งานครบ 8 ปี เมื่อหมดประกันแบตเตอรี่ แล้วจะอย่างไรต่อ?

 

บางคนบอกว่าเมื่อใช้รถไฟฟ้าครบ 8-10 ปี หากแบตเตอรี่เสื่อมหรือพัง รถคันนั้นอาจจะไม่ต่างกับเศษเหล็ก หรือต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ราคาไม่ต่างกับการซื้อรถใหม่ได้เกือบ 1 คัน แท้จริงแล้วมันเลวร้ายขนาดนั้นเชียวหรือ! เอาจริง ๆ คำตอบในอีก 8 ปีข้างหน้า ถ้าพูดตอนนี้คงไม่มีใครรู้แน่นอนครับว่าถึงตอนนั้นสถานการณ์ EV จะเป็นอย่างไร

 

หลังจากที่ผมมีโอกาสได้ทดลองขับรถ EV แบบใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน ยอมรับครับว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้ามันดีมาก ไม่ว่าจะขับทางไกลหรือในเมือง ช่วยประหยัดได้จริง อัตราเร่งก็ดี ต้องยอมรับว่าแม้ EV จะมีคอนเซปต์รักษ์โลก แต่คนที่ซื้อรถไฟฟ้ามาขับ เขามองเรื่องความประหยัดมาเป็นอันดับแรกกันทั้งนั้น ซึ่งมันตอบโจทย์ได้ในทันที

 

มีพรรคพวกถามผมเข้ามาว่า หากวันนี้ในงบเท่า ๆ กัน ควรจะเลือกซื้อ EV หรือรถเครื่องยนต์สันดาป หรือไฮบริดดี และราคาขายต่อ EV ในอนาคตจะหล่นฮวบจริงหรือไม่ บอกเลยว่ามันคือคำถามที่ตอบยากกกก! เพราะหากจะเปรียบเทียบกันจริง ๆ ระหว่างรถไฟฟ้ากับรถใช้น้ำมันเชื้อเพลิง มันยังมีปัจจัยอื่นที่เกี่ยวข้องอีกมากมายครับ

 

จากประสบการณ์ที่ได้คุยกับคนที่ซื้อรถไฟฟ้ามาขับ ทุกคนไม่เคยบ่นและไม่เคยคิดถึงเรื่องการขายต่อใน 8-10 ปีข้างหน้า มีแต่บอกว่าคิดว่าจะไม่กลับไปใช้รถน้ำมันอีกแล้ว ส่วนบางคนที่มีทุนทรัพย์เพียงพอก็ซื้อ EV มาขับเพิ่มอีกคันก็มี (อันนี้ก็ไม่ว่ากัน) ในที่นี้ขอพูดถึง EV ที่คนส่วนใหญ่ของประเทศใช้กันในระดับไม่เกิน 1 ล้านบาทก็แล้วกันนะครับ

 

รถ EV ระดับไม่เกินล้านที่ทำตลาดในบ้านเราตอนนี้มี ORA Good Cat, MG4, MG ES, MG ZS EV, BYD ATTO3 และ BYD Dolphin ส่วนรถเครื่องยนต์สันดาป จะมีตั้งแต่อีโค คาร์ ไปจนถึงรถซี-เซ็กเมนต์ อย่าง Toyota Altis, Honda Civic และ Mazda 3 รวมถึงรถอเนกประสงค์ก็มีหลายรุ่น อาทิ Corolla Cross, Veloz, CX-30 และ Mitsubishi Xpander

 

การเปรียบเทียบเรื่องความประหยัดคุ้มค่า โดยมีโจทย์คือซื้อตอนนี้แล้วขายต่อในปีที่ 8 แน่นอนว่าราคาเติมน้ำมันจะแพงกว่าราคาชาร์จไฟราว 5 เท่า ยกตัวอย่าง รถยนต์เครื่องสันดาปที่กินน้ำมันราว 15 กิโลเมตรต่อลิตร จะเสียค่าน้ำมันกิโลเมตรละ 2.60 บาท ส่วน EV ที่ผมได้ทดสอบมา จะเสียค่าชาร์จไฟกิโลเมตรละ 0.50-0.60 บาท

 

ส่วนราคาขายต่อรถเครื่องยนต์สันดาปค่ายดัง อย่าง Altis และ Civic เชื่อว่าในอีก 8 ปีข้างหน้าราคาก็ยังไม่ตกมาก หากยึดมาตรฐานราคาปัจจุบัน จากป้ายแดง 1 ล้านบาท ราคาขายต่อระดับ 4-5 แสนบาทน่าจะต้องมี ส่วน EV ตอนนี้ยังเป็นเครื่องหมายคำถามอยู่ และนี่ล่ะครับ ผมบอกว่ายังมีปัจจัยจัยอื่น ๆ ที่จะมีผลต่อราคามือสองในอนาคต

 

หนึ่งในปัจจัยสำคัญในอีก 8 ปีข้างหน้า คือ การพัฒนาแบตเตอรี่ เมื่อถึงตอนนั้นอาจจะถูกลงมาก็ได้ อย่างแบตเตอรี่ของ BYD ที่เรเว่ ออโตโมทีฟ เปิดเผยออกมาว่ารุ่นสแตนดาร์ดอยู่ที่ 528,730 บาท ในอีก 8 ปีข้างหน้า ราคาจะอยู่ที่เท่าไร ซึ่งคาดว่าราคา EV มือสองจะผันตามราคาแบตเตอรี่ ณ ตอนนั้นแน่นอน

 

แต่ครับแต่! มาถึงตรงนี้อย่าเข้าใจผิดว่าแบตเตอรี่รถ EV เมื่อหมดประกันมันจะพังแล้วต้องเปลี่ยนใหม่อย่างเดียวนะครับ ในความเป็นจริง แบตเตอรี่ในรถคันนั้นก็ยังสามารถใช้งานต่อไปได้เรื่อย ๆ เพียงแต่ว่าประสิทธิภาพจะลดลง อาทิ จากรถป้ายแดง ชาร์จเต็ม 1 ครั้ง วิ่งได้ 400 km แต่เมื่อประสิทธิภาพของแบตลดลง ก็อาจวิ่งได้ 300-350 km ประมาณนั้นครับ

 

     ฉะนั้น หัวข้อที่ผมพาดหัวไว้ “ใช้รถ EV ครบ 8 ปี แล้วไงต่อ” คำตอบก็คือยังใช้งานต่อไปได้เรื่อย ๆ ครับ ขึ้นอยู่ว่าแบตฯ จะเสื่อมมากหรือน้อยเท่านั้น แต่จะคุ้มกว่ารถสันดาปไหมอยู่ที่การใช้งานครับ ถ้าขับเยอะก็น่าจะคุ้มจนลืมประเด็นขายต่อไปได้เลย ส่วนใครที่ใช้รถสันดาปก็วางใจเรื่องราคาขายต่อได้เลย เพราะถึงวันนั้นสัดส่วนก็ยังมากกว่ารถ EV อยู่ดีครับ

 

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com

.

.

.

.

_____________________________________

เราคือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

เทอร์โบแท้

IHI TURBO 🇯🇵

GARRETT 🇺🇸

MITSUBISHI TURBOCHARGER 🇯🇵

ซื้อกับเราได้สินค้าแท้100%

คุ้มค่ากว่า ใช้งานได้ในระยะยาว

สบายใจกว่า เทอร์โบแท้รับประกันสินค้ายาวนาน

บริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม

โดยทีมงานมืออาชีพ ผู้มีประสบการณ์มากกว่า 24 ปี”

สั่งอะไหล่กับเรา "ออกใบกำกับภาษี" ได้

พร้อมบริการการดูแลหลังการขายตลอดอายุการใช้งาน

⚙️เข้าชมสินค้าทั้งหมดในเว็บไซต์

คลิก: www.sqdparts.com

⚙️สั่งซื้อทางเพจ

คลิก: m.me/sqdparts

⚙️สั่งซื้อผ่านไลน์

คลิก: https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=sqdparts

คลิกYoutube : https://bit.ly/3IAJstu

คลิกTiktok : https://bit.ly/3bXmLmN

คลิกInstagram : https://bit.ly/3AFxMDx

เขียนโดย sqdparts เมื่อ Tue 09 Apr, 2024
อ่านต่อ

     ปัจจุบันปัญหาการโจรกรรมรถยนต์ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการส่งออกรถยนต์ไปยังประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงการนำไปแยกชิ้นส่วนเพื่อขายเป็นอะไหล่มือสอง ซึ่งปัญหาเหล่านี้ทำเอาเจ้าของรถน้ำตาตกมาแล้วนับไม่ถ้วน เราจึงรวบรวมเอา 4 อันดับรุ่นรถที่ขึ้นชื่อว่าถูกขโมยมากที่สุดมาฝากกัน หากใครมีไว้ครอบครองต้องระวังให้ดี

1. Toyota Fortuner

     โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ เป็นรถอเนกประสงค์ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งแก๊งหัวขโมยจะเน้นไปที่รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อเป็นหลัก เนื่องจากขายได้ราคาดีกว่า ดังนั้นใครที่ครอบครองรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ แต่นำสติ๊กเกอร์ของรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อมาติดไว้ ก็ถือเป็นการเพิ่มโอกาสเสี่ยงถูกขโมยได้เช่นกัน

2. Toyota Hilux Revo

     โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ ถือเป็นรถกระบะยอดนิยมทั่วโลกเลยก็ว่าได้ จึงไม่แปลกที่รถรุ่นนี้จะถูกขโมยและลักลอบส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านอยู่บ่อยครั้ง โดยจะถูกเน้นไปที่รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อเช่นเดียวกับรุ่นฟอร์จูนเนอร์ เนื่องจากมีความสมบุกสมบันมากกว่า เหมาะกับใช้งานในพื้นที่ทุรกันดารได้ดีกว่า จึงทำให้เป็นที่หมายปองของแก๊งโจรกรรมรถยนต์นั่นเอง

3. Isuzu D-Max

     กระบะยอดนิยมอย่าง Isuzu D-Max ก็เป็นหนึ่งในรุ่นท็อปฮิตเสี่ยงหายมากที่สุดเช่นกัน โดยไม่ว่าจะเป็นตัวถังแบบ 2 ประตู หรือ 4 ประตู จะเป็นรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ หรือ 4 ล้อ ก็มีความเสี่ยงที่จะถูกขโมยด้วยกันทั้งสิ้น เนื่องจากรถรุ่นนี้เป็นที่นิยมทั้งการนำไปใช้ทั้งคัน และการนำไปแยกอะไหล่ขาย ดังนั้นใครมีรถรุ่นนี้อยู่ต้องระวังให้ดี

4. Toyota Corolla Altis

     นอกจากรถกระบะและพีพีวีที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว Toyota Corolla Altis ก็เป็นรถเก๋งที่มีความเสี่ยงถูกโจรกรรมมากที่สุดเช่นกัน เนื่องจากรถรุ่นนี้มีความต้องการอะไหล่ที่สูงมาก จึงทำให้เป็นที่นิยมในการนำไปแยกชิ้นส่วนเพื่อขายอะไหล่นั่นเอง

 

     ดังนั้น คุณผู้อ่านที่ครอบครองรถยนต์เหล่านี้อยู่ ก็ควรดูแลรักษาให้อยู่ในที่ที่ปลอดภัยเสมอ ทางที่ดีควรมีรั้วรอบขอบชิด จอดไว้ในที่ที่มีแสงสว่างตลอดทั้งคืน รวมถึงการติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันการขโมยต่างๆ ก็จะช่วยป้องกันการสูญหายได้ในระดับหนึ่งครับ

 

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com

.

.

.

.

_____________________________________

เราคือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

เทอร์โบแท้

IHI TURBO 🇯🇵

GARRETT 🇺🇸

MITSUBISHI TURBOCHARGER 🇯🇵

ซื้อกับเราได้สินค้าแท้100%

คุ้มค่ากว่า ใช้งานได้ในระยะยาว

สบายใจกว่า เทอร์โบแท้รับประกันสินค้ายาวนาน

บริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม

โดยทีมงานมืออาชีพ ผู้มีประสบการณ์มากกว่า 24 ปี”

สั่งอะไหล่กับเรา "ออกใบกำกับภาษี" ได้

พร้อมบริการการดูแลหลังการขายตลอดอายุการใช้งาน

⚙️เข้าชมสินค้าทั้งหมดในเว็บไซต์

คลิก: www.sqdparts.com

⚙️สั่งซื้อทางเพจ

คลิก: m.me/sqdparts

⚙️สั่งซื้อผ่านไลน์

คลิก: https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=sqdparts

คลิกYoutube : https://bit.ly/3IAJstu

คลิกTiktok : https://bit.ly/3bXmLmN

คลิกInstagram : https://bit.ly/3AFxMDx

เขียนโดย sqdparts เมื่อ Thu 22 Feb, 2024
อ่านต่อ
แสดง รายการ
ร้านค้าออนไลน์ และ ขายของออนไลน์ โดย © 2006-2025 Vevo Systems Co., Ltd.