×
ผลการค้นหา : PICK UP
แสดง รายการ

     แนะนำ 4 อาชีพสำหรับคนมีรถยนต์ส่วนตัว เหมาะสำหรับขับหารายได้เสริมนอกเหนือจากงานประจำ เพิ่มช่องทางทำมาหากินก็ได้ หรือจะหันมาประกอบเป็นอาชีพหลักก็ดี มีอะไรบ้าง เราจะพาไปดูกัน

 

4 อาชีพหารายได้สำหรับคนมีรถยนต์

อาชีพที่ 1 รับ - ส่งผู้โดยสาร

อาชีพรับ-ส่งผู้โดยสารด้วยรถยนต์ส่วนตัวถือเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่ได้รับความนิยมค่อนข้างสูง เพราะสามารถทำเป็นรายได้เสริมนอกเวลางาน หรือจะทำเป็นงานหลักก็ได้เช่นกัน โดยปัจจุบันมีแอปพลิเคชันต่างๆ รองรับมากมาย เช่น GrabCar, Bolt ฯลฯ แต่โดยมากจะต้องเป็นรถที่มีอายุไม่เกิน 9 ปี จึงจะสามารถเข้าร่วมได้

อาชีพที่ 2 ส่งอาหาร - ส่งพัสดุ

หากคุณไม่อยากทำงานบริการที่ต้องคลุกคลีกับผู้โดยสารตลอดเวลาแล้วล่ะก็ จะหันไปรับ-ส่งพัสดุหรืออาหารก็ได้เช่นกัน (แต่แนะนำว่าหากเป็นการรับ-ส่งอาหารควรเลือกเฉพาะพื้นที่ที่การจราจรไม่หนาแน่นหรือตามต่างจังหวัดจะดีกว่า เนื่องจากเป็นอาชีพที่ต้องแข่งกับเวลามากพอสมควร) อีกทั้งผู้ให้บริการแอปพลิเคชันบางรายยังอนุโลมอายุรถสูงสุดถึง 20 ปี

อาชีพที่ 3 เปิดท้ายขายของ - ขายอาหาร

รถเก๋งไม่ว่าจะ 4 ประตู หรือ 5 ประตู ก็สามารถเปิดท้ายขายของหรือขายอาหารได้ทั้งนั้น ขอแค่มีอุปกรณ์พร้อมก็เปิดร้านได้ หลายคนที่เปิดท้ายขายของเริ่มจากการนำข้าวของตัวเองมาขายเป็นของมือสอง ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า ของใช้ เครื่องสำอางที่ไม่เคยแกะมาใช้ หรืออะไรก็ตามที่คิดว่าสามารถเปลี่ยนเป็นเงินได้ เพียงแต่จะต้องหาทำเลที่เหมาะสม มีคนเดินพลุกพล่านไปมา เพื่อเพิ่มโอกาสที่คนจะพบเห็นสินค้าที่นำมาขายนั่นเอง

อาชีพที่ 4 ปล่อยเช่ารถตัวเอง

หากจอดรถทิ้งเอาไว้เฉยๆ แทบไม่เคยนำมาใช้งานเลย ก็สามารถนำรถของตัวเองมาปล่อยเช่ารายวันได้ โดยปัจจุบันแอปพลิเคชัน 2 เจ้าหลักๆ ที่ให้บริการปล่อยเช่ารถตัวเอง คือ HAUP และ Drivemate ซึ่งหากรถที่ปล่อยเช่ามีสภาพดี ตำแหน่งจุดจอดรถอยู่ที่พื้นที่ที่เข้าถึงได้สะดวกจากลูกค้า ก็มีโอกาสปล่อยเช่าได้ง่ายมากขึ้น แต่ต้องดูความคุ้มค่าในระยะยาวด้วยว่าตอบโจทย์มากน้อยแค่ไหน

 

เห็นไหมครับว่ารถเก๋งก็สามารถนำมาประกอบอาชีพหารายได้เสริมได้เช่นกัน เผื่อใครกำลังมองหาช่องทางเพิ่มรายได้อยู่ล่ะก็ จะลองทำอาชีพเหล่านี้ก็ดีไม่น้อยทีเดียวครับ

 

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com

.

.

.

.

_____________________________________

เราคือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

เทอร์โบแท้

IHI TURBO 🇯🇵

GARRETT 🇺🇸

MITSUBISHI TURBOCHARGER 🇯🇵

ซื้อกับเราได้สินค้าแท้100%

คุ้มค่ากว่า ใช้งานได้ในระยะยาว

สบายใจกว่า เทอร์โบแท้รับประกันสินค้ายาวนาน

บริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม

โดยทีมงานมืออาชีพ ผู้มีประสบการณ์มากกว่า 24 ปี”

สั่งอะไหล่กับเรา "ออกใบกำกับภาษี" ได้

พร้อมบริการการดูแลหลังการขายตลอดอายุการใช้งาน

⚙️เข้าชมสินค้าทั้งหมดในเว็บไซต์

คลิก: www.sqdparts.com

⚙️สั่งซื้อทางเพจ

คลิก: m.me/sqdparts

⚙️สั่งซื้อผ่านไลน์

คลิก: https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=sqdparts

คลิกYoutube : https://bit.ly/3IAJstu

คลิกTiktok : https://bit.ly/3bXmLmN

คลิกInstagram : https://bit.ly/3AFxMDx

เขียนโดย sqdparts เมื่อ Wed 24 Apr, 2024
อ่านต่อ

     XPeng G6 เอสยูวีคูเป้ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100% เตรียมเผยโฉมในไทยที่งานบางกอกอินเตอร์เนชันแนลมอเตอร์โชว์​ 2024 ราคาเริ่มต้น 209,900 หยวน หรือประมาณ 1 ล้านบาทต้นที่จีน

     XPeng G6 ถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกที่ประเทศจีนเมื่อเดือนมิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา ชูจุดขายด้วยรูปทรงแบบคูเป้เอสยูวี พร้อมแพล็ตฟอร์มไฟฟ้า 800V SiC (Silicon Carbide) ที่รองรับการชาร์จได้เร็วเป็นพิเศษ โดยหากชาร์จผ่านเครือข่ายสถานีซูเปอร์ชาร์จเจอร์ของ XPeng เพียง 10 นาที จะได้ระยะทางขับขี่เพิ่มขึ้นสูงสุดถึง 300 กิโลเมตร

 

     ปัจจุบัน XPeng G6 ในตลาดประเทศจีนแบ่งออกเป็น 3 รุ่นย่อยหลัก ได้แก่ 580 Long Range ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนล้อหลังจำนวน 1 ตัว กำลังสูงสุด 218 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 440 นิวตัน-เมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 6.6 วินาที พร้อมแบตเตอรี่ที่ให้ระยะทางขับขี่สูงสุด 580 กิโลเมตรเมื่อชาร์จเต็ม (ตามมาตรฐาน CLTC)

     ขยับขึ้นมาเป็นรุ่น 755 Super-Long Range ที่ใช้มอเตอร์ขับเคลื่อนล้อหลังเช่นเดียวกัน แต่เพิ่มขนาดแบตเตอรี่ใหญ่ขึ้น สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เหลือ 5.9 วินาที และเพิ่มระยะทางขับขี่ไกลขึ้นเป็น 755 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มแต่ละครั้ง

 

     ส่วนรุ่นท็อปสุดเป็นรุ่น 700 4WD Performance ที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าหน้าและหลังข้างละ 1 ตัว ให้กำลังสูงสุดรวม 358 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 660 นิวตัน-เมตร ทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.9 วินาที พร้อมแบตเตอรี่ที่ให้ระยะทางขับขี่ไกลสุด 700 กิโลเมตร โดยทั้ง 3 รุ่นสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ 202 กม./ชม.

     โครงสร้างตัวถังของ XPeng G6 ถูกพัฒนาให้มีการกระจายน้ำหนักหน้าและหลังแบบ 50:50 พร้อมด้วยเทคโนโลยีขึ้นรูปโครงสร้างด้วยอะลูมิเนียม และการติดตั้งแบตเตอรี่แบบ CIB (Cell Integration Body) ที่ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของโครงสร้างเป็นพิเศษ ขณะที่ชุดแบตเตอรี่เองถูกพัฒนาให้สามารถทนความร้อนได้สูงสุดถึง 700 องศาเซลเซียส และผ่านมาตรฐานการป้องกันน้ำและฝุ่นระดับ IP68 ซึ่ง XPeng ระบุว่าสูงกว่าที่ใช้ในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าเป็นส่วนใหญ่

 

     ด้านความปลอดภัยได้มีการติดตั้งระบบช่วยเหลือการขับขี่ (ADAS) ที่เรียกว่า XNGP ทำงานผ่านเซ็นเซอร์รอบคันกว่า 31 ตัว โดยจำนวนดังกล่าวแบ่งเป็น LiDARs จำนวนถึง 2 ตัว ทำงานบนชิปความเร็วสูง NVIDIA DRIVE Orin-X เพื่อให้ตัวรถสามารถตรวจสอบสภาพแวดล้อมรอบคันได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ

     ขณะที่ห้องโดยสารถูกออกแบบให้มีความกว้างขวางเป็นพิเศษโดยเฉพาะพื้นที่เหนือศีรษะสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ติดตั้งหน้าจอสัมผัสขนาด 14.96 นิ้ว ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Xmart OS4.0 ที่ประมวลผลด้วยชิป Qualcomm Snapdragon SA8155P ซึ่งสามารถโต้ตอบผู้ใช้งานได้คล้ายกับ GPT รวมถึงมีฟังก์ชันสั่งงานด้วยเสียงที่ทำงานได้แบบเรียลไทม์ ซึ่งสามารถอ่านคำสั่งได้ตลอดเวลา และยังใช้งานได้แม้ไม่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอีกด้วย

 

     ส่วนรายละเอียดการทำตลาดในประเทศไทยต่อรอภายหลังจากการเปิดตัวที่งานมอเตอร์โชว์อีกครั้ง

 

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com

.

.

.

.

_____________________________________

เราคือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

เทอร์โบแท้

IHI TURBO 🇯🇵

GARRETT 🇺🇸

MITSUBISHI TURBOCHARGER 🇯🇵

ซื้อกับเราได้สินค้าแท้100%

คุ้มค่ากว่า ใช้งานได้ในระยะยาว

สบายใจกว่า เทอร์โบแท้รับประกันสินค้ายาวนาน

บริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม

โดยทีมงานมืออาชีพ ผู้มีประสบการณ์มากกว่า 24 ปี”

สั่งอะไหล่กับเรา "ออกใบกำกับภาษี" ได้

พร้อมบริการการดูแลหลังการขายตลอดอายุการใช้งาน

⚙️เข้าชมสินค้าทั้งหมดในเว็บไซต์

คลิก: www.sqdparts.com

⚙️สั่งซื้อทางเพจ

คลิก: m.me/sqdparts

⚙️สั่งซื้อผ่านไลน์

คลิก: https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=sqdparts

คลิกYoutube : https://bit.ly/3IAJstu

คลิกTiktok : https://bit.ly/3bXmLmN

คลิกInstagram : https://bit.ly/3AFxMDx

เขียนโดย sqdparts เมื่อ Thu 14 Mar, 2024
อ่านต่อ

     เมื่อคุณมีลูกหรือสัตว์เลี้ยง การเอารถไปล้างไม่ใช่เรื่องง่ายเสมอไป เลดี้จะมาชวนคุณทำความสะอาดรถยนต์แบบง่ายๆ ด้วยตัวเอง และยังสามารถได้ใช้เวลาร่วมกับเด็กๆ อีกด้วย

 

สำหรับ 7 ไอเดียนี้ คุณไม่จำเป็นต้องมีอุปกรณ์ทำความสะอาดรถยนต์หรือน้ำยาล้างรถราคาแพง เพื่อให้รถของคุณเงางามก็ได้ เลดี้มีเคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ ที่จะช่วยคืนความแวววาวให้กับรถของคุณ และยังสามารถทำได้ด้วยตัวคุณเอง รวมถึงยังสามารถใช้เวลาว่างทำกิจกรรมในครอบครัวกับลูกๆ ของคุณได้อีกด้วย 

1. เก็บแปรงแต่งหน้าและแปรงสีฟันเก่าไว้ให้ดี

วิธีที่จะเข้าไปในช่องระบายอากาศหรือบริเวณซอกมุมต่างๆ ที่เราไม่สามารถเข้าถึงได้ง่ายๆ การใช้แปรงขนาดเล็กคือทางเลือกที่ดีที่สุด สิ่งสำคัญก่อนนำมาใช้ทำความสะอาดรถก็คือ ควรเช็คให้แน่ใจก่อนว่ามันสะอาดและปราศจากสีของ Make up แล้วจริงๆ ไม่อย่างนั้นรถของคุณจะถูกเปลี่ยนสีไปเลยทันที ซึ่งแปรงเหล่านี้สร้างมาเพื่อเป็นเครื่องมือทำความสะอาดชิ้นเล็กๆ ที่สมบูรณ์แบบ

2. ใช้ไม้กวาดหุ้มด้วยยาง เพื่อทำความสะอาดขนสัตว์

หากคุณเป็นคนที่รักสัตว์ไม่ว่าจะเป็นน้องหมาหรือน้องแมวก็ตาม คุณจะพาน้องไปเที่ยวด้วยตลอดเวลา และหลังจากนั้นคุณจะต้องมานั่งปวดหัวกับขนที่ร่วงรุงรังอยู่บนเบาะ (หากเบาะรถยนต์ของคุณเป็นกำมะหยี่หรือเบาะผ้า) แทนที่จะใช้ผ้าชุบน้ำแล้วเช็ดเพื่อที่จะทำความสะอาดเบาะเหล่านั้น ให้เติมน้ำลงในกระบอกฉีดสเปรย์หรือ Foxy Sparyer จากนั้นฉีดลงที่เบาะเพียงเล็กน้อย แล้วใช้ไม้กวาดหุ้มด้วยยางเช็ดออก คุณจะประหยัดเวลาไปได้มากๆ เลย และไม่ต้องกังวลว่าเบาะจะเปียกชื้นและเหม็นอับอีกด้วย 

3. ใช้น้ำส้มสายชูและเบกกิ้งโซดาทำความสะอาดเบาะ

คุณอยากทำความสะอาดเบาะรถยนต์ที่เป็นวัสดุที่ทำจากผ้าอย่างล้ำลึกใช่มั้ย? ให้คุณใช้น้ำส้มสายชูผสมกับเบกกิ้งโซดาแล้วถูไปที่เบาะ หลังจากนั้นล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง คุณจะเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจนไม่เพียงแค่รูปลักษณ์เท่านั้น แต่ยังสามารถช่วยลดกลิ่นเหม็นออกจากรถยนต์ของคุณได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

4. ใช้น้ำมันมะกอกเช็ดแผงหน้าปัด

หนึ่งในเคล็ดลับที่จะช่วยให้แดชบอร์ดของคุณดูเงางามอยู่เสมอ ก็คือการเติมน้ำมันมะกอกเพียงเล็กน้อยลงบนผ้า แล้วเช็ดไปที่แผงหน้าปัด เพราะน้ำมันมะกอกจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวบริเวณหน้าปัด และยังช่วยให้ไม่เกิดรอยแตกร้าวอีกด้วย 

5. ใส่ถ้วย Cupcake Liners ลงในที่วางแก้ว

เลดี้ชอบเทคนิคอันนี้มาก เพราะเห็นได้ชัดว่าบริเวณที่วางแก้วน้ำบนรถยนต์จะมีคราบน้ำหรือรอยเปื้อนที่เช็ดไม่ออก อาจจะเกิดขึ้นจากน้ำหวานที่หยดลงมาและทิ้งไว้นานเกินจนเกรอะกรัง ดังนั้นควรหาแผ่นรองหรือถ้าไม่มีคุณจะใช้ถ้วย Cupcake Liners แทนก็ได้ เพราะไม่เพียงแต่ช่วยป้องกันการทำหกเลอะรถของคุณ อีกทั้งยังช่วยป้องกันฝุ่นเกาะบริเวณนั้นอีกด้วย ซึ่งมันทำความสะอาดยากมากๆ  

6. ใช้กระปุกวิตามินมาทำเป็นถังขยะ

หากบ้านไหนชอบทานวิตามินหรือแคลเซียมจะรู้ดีว่ากระปุกพวกนี้มีขนาดใหญ่มากๆ และมันก็รกบ้านเมื่อทานหมด เลดี้ขอแนะนำให้ทำความสะอาดแล้วนำมา Reuse อีกครั้ง โดยการดัดแปลงให้เป็นถังขยะแล้วมาตั้งไว้บริเวณเบาะหลัง และจากนี้ไปลูกๆ ของคุณจะได้ไม่โยนเศษขยะทิ้งไว้ทั่วรถอีกแล้ว 

7. กำจัดคราบแมลงหน้ารถแบบง่ายๆ

บ้านใครอยู่ต่างจังหวัดน่าจะต้องคุ้นชินกับตัวแมลงที่มักโผล่มาในเวลากลางคืน วิ่งชนหน้ากระจกรถของเราและทำให้น้ำมันในตัวของแมลงติดหนึบอยู่ที่กระจก ยิ่งล้างด้วยน้ำเปล่ายิ่งเลอะ ยิ่งมองไม่เห็น นอกจากจะติดที่กระจกหน้ารถแล้วยังลามไปติดที่ฝากระโปรงรถอีกด้วย ดังนั้นอย่าทำลายสีรถของคุณด้วยการขัดหรือเกาแรงๆ เพื่อที่จะเอาแมลงออกจากฝากระโปรงหน้า ให้ฉีดสเปรย์น้ำมันพืชลงไปบริเวณที่มีแมลงแล้วทิ้งเวลาไว้ซักครู่ หลังจากนั้นเช็ดออกด้วยผ้านุ่มๆ เพียงเท่านี้ตัวแมลงที่ติดหนึบอยู่ก็จะออกไปอย่างง่ายดาย

 

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com

.

.

.

.

_____________________________________

เราคือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

เทอร์โบแท้

IHI TURBO 🇯🇵

GARRETT 🇺🇸

MITSUBISHI TURBOCHARGER 🇯🇵

ซื้อกับเราได้สินค้าแท้100%

คุ้มค่ากว่า ใช้งานได้ในระยะยาว

สบายใจกว่า เทอร์โบแท้รับประกันสินค้ายาวนาน

บริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม

โดยทีมงานมืออาชีพ ผู้มีประสบการณ์มากกว่า 24 ปี”

สั่งอะไหล่กับเรา "ออกใบกำกับภาษี" ได้

พร้อมบริการการดูแลหลังการขายตลอดอายุการใช้งาน

⚙️เข้าชมสินค้าทั้งหมดในเว็บไซต์

คลิก: www.sqdparts.com

⚙️สั่งซื้อทางเพจ

คลิก: m.me/sqdparts

⚙️สั่งซื้อผ่านไลน์

คลิก: https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=sqdparts

คลิกYoutube : https://bit.ly/3IAJstu

คลิกTiktok : https://bit.ly/3bXmLmN

คลิกInstagram : https://bit.ly/3AFxMDx

เขียนโดย sqdparts เมื่อ Thu 01 Feb, 2024
อ่านต่อ

     กุญแจรถเป็นอุปกรณ์ชิ้นเล็กๆ ที่มีโอกาสสูญหายได้เสมอ แล้วถ้าวันหนึ่งเกิดโชคร้ายทำกุญแจหล่นหายขึ้นมาจริงๆ จะต้องทำอย่างไรต่อไป? วันนี้ เรามีคำตอบมาฝากกันครับ

 

กุญแจแบบ Smart Key หาย 1 ดอก

     โดยปกติแล้วรถใหม่ป้ายแดงที่มีระบบ Smart Key จะมีกุญแจมาให้ทั้งหมด 2 ชุด รถบางรุ่นอาจมีกุญแจสำรองสำหรับเสียบไขเพิ่มเติมให้อีก 1 ดอกด้วย หากว่าดอกใดดอกหนึ่งหายไป คุณยังสามารถนำกุญแจสำรองอีก 1 ดอกมาใช้งานได้ตามปกติ

     แต่เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงต่อการสูญหายของตัวรถหรือทรัพย์สินภายในรถ คุณควรนำกุญแจสำรองที่เหลือไปยังศูนย์บริการเพื่อทำกุญแจดอกใหม่ ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 4-5 พันบาทขึ้นไปขึ้นอยู่กับรุ่นรถ พร้อมทั้งให้ศูนย์บริการลบกุญแจเดิมที่สูญหายออกจากระบบ จะช่วยให้กุญแจดอกเดิมไม่สามารถล็อก-ปลดล็อก รวมถึงสตาร์ทเครื่องยนต์ได้ (พึงระลึกด้วยว่ากุญแจแบบเสียบที่ซ่อนอยู่ในกุญแจ Smart Key ยังสามารถนำมาไขเพื่อเข้าไปในห้องโดยสารหรือเปิดฝากระโปรงท้ายได้ แต่จะใช้สตาร์ทเครื่องยนต์ไม่ได้)

กุญแจแบบ Smart Key หายทั้งหมด

     หากว่าโชคร้ายทำกุญแจหายทั้ง 2 ดอกขึ้นมาจริงๆ ให้นำแผ่นหมายเลขที่ห้อยมากับกุญแจติดต่อไปยังศูนย์บริการ จากนั้นจะมีกระบวนการออกกุญแจใหม่ให้ได้ ซึ่งจำเป็นต้องมีการยืนยันตัวตนเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของที่แท้จริงด้วย จากนั้นศูนย์บริการจะทำการลบกุญแจดอกที่หายไปทั้งหมดเพื่อป้องกันไม่ให้สามารถนำกลับมาใช้งานได้

กุญแจแบบปกติที่ไม่ใช่ Smart Key หาย 1 ดอก และยังมีกุญแจสำรอง

     กรณีเป็นกุญแจแบบธรรมดาที่ไม่ใช่ระบบ Smart Key สามารถนำกุญแจดอกที่เหลือไปติดต่อยังศูนย์บริการหรือร้านทำกุญแจเฉพาะทาง เพื่อก๊อปปี้กุญแจดอกใหม่ขึ้นมาได้ หากเป็นกุญแจที่มีระบบ Immobilizer จำเป็นต้องใช้เครื่องมือพิเศษเพื่อจูนรหัสกุญแจเพื่อให้สามารถสตาร์ทเครื่องยนต์ได้ตามปกติ

กุญแจแบบปกติหายทั้งหมด และไม่มีกุญแจสำรอง

     อันนี้ถือว่างานใหญ่พอสมควร หากเป็นศูนย์บริการก็จะแนะนำให้เจ้าของรถเปลี่ยนชุดกุญแจใหม่ทั้งหมด ทั้งบริเวณประตู, ฝากระโปรงท้ายและคอพวงมาลัย ซึ่งวิธีอาจมีค่าใช้จ่ายหลักหมื่นบาทเลยทีเดียว แต่จะช่วยให้กุญแจดอกเดิมไม่สามารถนำมาใช้ได้อีกต่อไป

     อีกวิธีหนึ่งที่ช่างกุญแจทั่วไปนิยมใช้ คือ การรื้อกุญแจฝากระโปรงท้ายออกจนเหลือเฉพาะแกนด้านในที่มีลักษณะเป็นเขี้ยวกุญแจ จากนั้นทำการก๊อปปี้ร่องกุญแจเพื่อทำดอกใหม่ขึ้นมา หากว่าเป็นกุญแจที่ไม่มีระบบ Immobilizer ก็สามารถนำไปใช้ได้ตามปกติทันที แต่หากมีระบบ Immobilizer ด้วยล่ะก็ จะสามารถไขเพื่อเข้าไปในตัวรถได้เพียงอย่างเดียว แต่จะไม่สามารถสตาร์ทเครื่องยนต์ได้ จำเป็นต้องยกรถเข้าศูนย์บริการเพื่อจูนรหัสกุญแจให้สามารถสตาร์ทเครื่องยนต์ได้ตามปกติ พร้อมทั้งลบกุญแจชุดเก่าที่สูญหายออกจากระบบด้วย

 

     เห็นไหมครับว่าการทำกุญแจรถหายถือเป็นเรื่องใหญ่พอสมควรทีเดียว หากปัจจุบันรถของคุณเหลือกุญแจเพียงชุดเดียว ก็ควรรีบทำกุญแจสำรองใหม่เก็บไว้ จะได้ไม่ได้เดือดร้อนในภายหลังครับ

 

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com

.

.

.

.

_____________________________________

เราคือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

เทอร์โบแท้

IHI TURBO 🇯🇵

GARRETT 🇺🇸

MITSUBISHI TURBOCHARGER 🇯🇵

ซื้อกับเราได้สินค้าแท้100%

คุ้มค่ากว่า ใช้งานได้ในระยะยาว

สบายใจกว่า เทอร์โบแท้รับประกันสินค้ายาวนาน

บริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม

โดยทีมงานมืออาชีพ ผู้มีประสบการณ์มากกว่า 24 ปี”

สั่งอะไหล่กับเรา "ออกใบกำกับภาษี" ได้

พร้อมบริการการดูแลหลังการขายตลอดอายุการใช้งาน

⚙️เข้าชมสินค้าทั้งหมดในเว็บไซต์

คลิก: www.sqdparts.com

⚙️สั่งซื้อทางเพจ

คลิก: m.me/sqdparts

⚙️สั่งซื้อผ่านไลน์

คลิก: https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=sqdparts

คลิกYoutube : https://bit.ly/3IAJstu

คลิกTiktok : https://bit.ly/3bXmLmN

คลิกInstagram : https://bit.ly/3AFxMDx

เขียนโดย sqdparts เมื่อ Wed 27 Dec, 2023
อ่านต่อ

     แน่นอนว่าสังคมไทยคนส่วนใหญ่จะนับถือศาสนาพุทธกันเกือบ 70% ซึ่งตามความเชื่อของศาสนาพุทธ พระพุทธรูปคือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นเสมือนตัวแทนของพระพุทธองค์ ซึ่งจะช่วยปกปักษ์คุ้มครองให้แคล้วคลาดปลอดภัย ดังนั้นในรถยนต์ส่วนใหญ่ก็จะมีการอัญเชิญพระพุทธรูปไปตั้งไว้เพื่อกราบไหว้บูชา คำถามต่อมา.. แล้วตั้งตรงไหนถึงจะดีล่ะ?

 

วางพระหน้ารถให้ถูกวิธี เสริมสิริมงคล

     เพื่อความเป็นสิริมงคลและความสบายใจตลอดการเดินทาง เจ้าของรถส่วนใหญ่มักจะตั้งพระพุทธรูปองค์เล็กๆ ไว้ที่ตำแหน่งหน้ารถ รวมถึงเครื่องรางของขลังตามแต่ศรัทธาไว้ในมุมต่างๆ ซึ่งตำแหน่งของการวางก็จะมีหลักการที่แตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับประเภทของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นหากจัดวางไม่ถูกต้องก็อาจจะไม่สามารถเห็นถึงประสิทธิ์ผลอย่างชัดเจน 100% ได้

การวางพระหน้ารถที่ถูกวิธีควรวางอย่างไร?

     สิ่งที่หลายคนกำลังสงสัยว่าพระหน้ารถควรหันหน้าเข้าหรือออกถึงจะดีที่สุด คำตอบคือ หันไปในทิศทางเดียวกับคนขับ เพราะความสำคัญของการหันหน้าไปทิศทางเดียวกับคนขับ เชื่อว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะคอยนำทางและคุ้มครองตลอดการเดินทาง อีกทั้งยังเป็นตำแหน่งที่คอยเตือนใจและเตือนสติให้กับคนขับได้เป็นอย่างดี ให้มีสมาธิจดจ่ออยู่กับถนนหนทางอยู่เสมอ พระตั้งหน้ารถในตำแหน่งนี้ เชื่อว่ายังช่วยเป็นพลังงานในเชิงบวก และส่งเสริมความปลอดภัยตลอดการเดินทางอีกด้วย

 

พระตั้งหน้ารถนิยมวางตรงไหนบ้าง?

     ส่วนใหญ่พระตั้งหน้ารถนิยมวางตรงบริเวณแผงคอนโซลหน้ารถ และแขวนหรือติดไว้ที่กระจกมองหลัง บางคนอาจติดไว้ที่กุญแจรถ ซึ่งไม่มีวิธีไหนถูกหรือผิดขึ้นอยู่กับความเชื่อและความสะดวกในการขับรถของแต่ละคนเป็นหลัก ซึ่งการวางพระในตำแหน่งเหล่านั้น มีข้อดีดังนี้

  • ทำให้มองเห็นได้ง่าย เพราะการวางพระพุทธรูปไว้บนแผงคอนโซลหน้ารถ ช่วยให้ผู้ขับขี่มองเห็นพระพุทธรูปได้ง่ายที่สุด และกระจกมองหลังก็เป็นตำแหน่งที่คนขับต้องมองอยู่เป็นประจำขณะขับรถ จึงเป็นอีกหนึ่งตำแหน่งที่นิยมติดหรือแขวนพระพุทธรูปไว้ ซึ่งจะช่วยเป็นเครื่องเตือนใจและเรียกสติผู้ขับขี่ได้ตลอดเวลา โดยไม่สูญเสียสมาธิขณะขับรถ

 

  • ทำให้บรรยากาศภายในรถดูสงบ เพราะการมีพระพุทธรูปภายในรถไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งใดก็ตาม ช่วยสร้างบรรยากาศโดยรวมให้ดูสงบ ช่วยผ่อนคลายหรือลดความเครียดจากการใช้รถใช้ถนนได้เป็นอย่างดี ส่งผลดีต่อทั้งผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร และผู้ใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆ ด้วย

 

การวางพระหน้ารถที่ถูกวิธี ปลอดภัยตลอดการเดินทาง

  • เช็กให้ดีว่าพระตั้งหน้ารถติดไว้อย่างแน่นหนาแล้ว สำหรับพระตั้งหน้ารถในตำแหน่งแผงคอนโซลหน้ารถ จำเป็นต้องเช็กให้ดีและเช็กอยู่ตลอดว่าได้ติดไว้อย่างแน่นหนาแล้ว และควรเลือกตำแหน่งการวางที่เหมาะสม เพื่อไม่ให้เกิดการขยับหรือหลุดออกจากแผงคอนโซล ซึ่งนอกจากจะทำให้เสียสมาธิแล้ว อาจส่งผลต่อความปลอดภัยขณะขับรถ หรืออาจทำให้พระพุทธรูปองค์นั้นได้รับความเสียหายได้

  • ไม่บังทัศนวิสัยของคนขับ ไม่ว่าจะในตำแหน่งแผงคอนโซลหน้ารถหรือกระจกมองหลัง การวางหรือติดพระพุทธรูปจะต้องไม่กีดขวางการมองเห็นถนนหนทาง หรือสภาพแวดล้อมบนท้องถนน ดังนั้น เมื่อนำพระมาวางหรือติดภายในรถเรียบร้อยแล้ว ตรวจสอบให้แน่ใจก่อนขับขี่ว่าจะไม่เป็นอุปสรรคในการมองเห็น ไปจนถึงเรื่องของจำนวนที่ควรมีแต่พอดีก็เพียงพอแล้ว

  • ดูแลรักษาความสะอาดอยู่เสมอ การดูแลทำความสะอาดพระตั้งหน้ารถหรือเครื่องรางของขลังเหล่านั้นให้สะอาดและอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมอยู่เสมอ ถือเป็นการแสดงความเคารพนับถืออย่างหนึ่ง อีกทั้งเพื่อไม่ให้เป็นแหล่งสะสมของฝุ่นหรือสิ่งสกปรก ซึ่งอาจส่งผลต่อสภาพอากาศภายในรถ จนอาจทำให้รู้สึกอึดอัดหรือหายใจไม่สะดวกได้

 

ขอบคุณข้อมูลจาก autospinn.com

.

.

.

.

_____________________________________

เราคือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

เทอร์โบแท้

IHI TURBO 🇯🇵

GARRETT 🇺🇸

ซื้อกับเราได้สินค้าแท้100%

คุ้มค่ากว่า ใช้งานได้ในระยะยาว

สบายใจกว่า เทอร์โบแท้รับประกันสินค้ายาวนาน

บริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม

โดยทีมงานมืออาชีพ ผู้มีประสบการณ์มากกว่า 24 ปี”

สั่งอะไหล่กับเรา "ออกใบกำกับภาษี" ได้

พร้อมบริการการดูแลหลังการขายตลอดอายุการใช้งาน

⚙️เข้าชมสินค้าทั้งหมดในเว็บไซต์

คลิก: www.sqdparts.com

⚙️สั่งซื้อทางเพจ

คลิก: m.me/sqdparts

⚙️สั่งซื้อผ่านไลน์

คลิก: https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=sqdparts

คลิกYoutube : https://bit.ly/3IAJstu

คลิกTiktok : https://bit.ly/3bXmLmN

คลิกInstagram : https://bit.ly/3AFxMDx

เขียนโดย sqdparts เมื่อ Sat 28 Oct, 2023
อ่านต่อ

     รถยนต์ไฟฟ้า ที่ขายแล้วในประเทศไทย มีให้เลือกมากมาย รถไฟฟ้าราคา หลากหลาย และ ยี่ห้อรถไฟฟ้าในไทย มากมาย ตั้งแต่แบรนด์จากประเทศจีนที่มี ราคารถไฟฟ้า จับต้องได้ อาทิ BYD, ORA และ NETA ซึ่งเหมาะกับการใช้งานในเมืองทั่วไป จนถึงแบรนด์ยุโรประดับโลก ที่มาพร้อมความหรูหราพรีเมียมสมราคาขาย อาทิ BMW, Mercedes-Benz, MINI Cooper, Audi และ Volvo เป็นต้น

     แม้ว่าสถานีชาร์จ รถไฟฟ้า ในประเทศไทยอาจยังมีจำนวนไม่มาก แต่ด้วยราคาน้ำมันที่พุ่งสูง ทำให้หลายคนหันมาเลือกใช้ รถยนต์ไฟฟ้า กันมากขึ้น และนั่นเป็นที่มาให้แบรนด์รถจำนวนมากเริ่มผลิตและนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้ามาในประเทศไทยนั่นเอง ซึ่งในปีนี้ ไทยเราก็มี รถไฟฟ้า ev เข้ามาวางจำหน่ายแล้วกว่า 26 รุ่น โดยราคาเริ่มต้นเพียง 325,000 บาทเท่านั้น

 

รถยนต์ไฟฟ้า พร้อมราคารถไฟฟ้าในไทย

-  Tesla Model 3                                                   - BYD e6

- Tesla Model Y                                                                   - Nissan Leaf

- MG4                                                                                  - MINI Cooper SE

- BYD Atto 3                                                        - Lexus UX 300e

- Volt City EV                                                                       - Jaguar i-PACE

- Wuling Hongguang                                                         - Audi e-tron GT

- Pocco                                                                                 - Volvo XC40

- Fomm One                                                                        - Volvo C40

- NETA V                                                                               - BMW iX3

- ORA Good Cat                                                                  - Mercedes-Benz EQS 450+

- ORA Good Cat GT                                                            - BMW i4

- MG EP                                                                                - Toyota bZ4X

- MG ZS EV

- BYD T3

รถยนต์ไฟฟ้า พร้อมราคารถไฟฟ้าที่ขายในไทย

 

1. รถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3

     เปิดตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้วในประเทศไทย กับ Tesla Model 3 รุ่น รถยนต์เทสล่า ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดในโลก โดดเด่นด้วยคุณภาพที่คับแก้วกับราคาที่จับต้องได้ ดีไซน์ภายนอกและภายในเน้นความเรียบง่าย มินิมอล โดยราคาเปิดตัว รถเก๋งไฟฟ้า รุ่นนี้ในไทยนั้นเริ่มต้นเพียง 1.759 ล้านบาทเท่านั้น รุ่นเริ่มต้นมาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้าพละกำลังสูงสุด 283 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 420 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนล้อหลัง แบตเตอรี่ Lithium-ion LFP 57.5 kWh วิ่งระยะทางสูงสุด 491 km. (มาตรฐาน WLTP) อัตราเร่ง 0-100 km/h ภายใน 6.1 วินาที ความเร็วสูงสุด 225 km/h หัวชาร์จ Type 2 AC 11 kW / CCS Combo DC Fast Charging 170 kW

ราคารถไฟฟ้า EV Tesla Model 3

  • Tesla Model 3 Rear-Wheel Drive 2023 ราคา 1,759,000 บาท
  • Tesla Model 3 Long Range 2023 ราคา 1,999,000 บาท
  • Tesla Model 3 Performance 2023 ราคา 2,309,000 บาท

 

2. รถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model Y

     Tesla Model Y เป็น รถยนต์ Tesla ในรูปแบบ SUV ไฟฟ้า นำเข้าทั้งคัน (CBU) จากประเทศจีน โดย Tesla Thailand (Official) มาพร้อมการรับประกัน อาทิ รับประกันตัวรถ 4 ปี หรือ 80,000 กม. รับประกันแบตเตอรี่และระบบขับเคลื่อน 8 ปี หรือ 160,000 กม. (สำหรับระบบขับเคลื่อนล้อหลัง) รับประกันแบตเตอรี่และระบบขับเคลื่อน 8 ปี หรือ 192,000 กม.(สำหรับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Long Range และ Performance) รุ่นเริ่มต้นมากับมอเตอร์ไฟฟ้า พละกำลังสูงสุด 347 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 420 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนล้อหลัง แบตเตอรี่ Lithium-ion LPF 57.5 kWh วิ่งระยะทางสูงสุด 455 km. (มาตรฐาน WLTP) อัตราเร่ง 0-100 km/h ภายใน 6.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 217 km/h หัวชาร์จ Type 2 AC 11 kW / CCS Combo DC Fast Charging 170 kW

ราคารถไฟฟ้า EV Tesla Model Y

  • Tesla Model Y Rear-Wheel Drive ราคา 1,959,000 บาท
  • Tesla Model Y Long Range AWD ราคา 2,259,000 บาท
  • Tesla Model Y Performance ราคา 2,509,000 บาท

 

3. รถยนต์ไฟฟ้า MG MG4

     MG4 รถไฟฟ้า สไตล์แฮทช์แบ็ก 5 ประตู จากแบรนด์ดังอย่างเอ็มจี (MG) มาพร้อม Concept “ICON” นิยามความเป็นต้นแบบและมาตรฐานของรถยนต์ ev ยุคใหม่ โดดเด่นด้วยระบบขับเคลื่อนล้อหลัง พร้อมระบบความปลอดภัย ADVANCED SYNCHRONIZE PROTECTION SYSTEM ให้อุ่นใจในทุกการขับขี่ ระยะทางวิ่งสูงสุดต่อการชาร์จหนึ่งครั้งอยู่ที่ 425 กิโลเมตร (มาตรฐาน NEDC) ชาร์จแบบเร็ว Quick Charge จาก 10% – 80% ใช้เวลาประมาณ 35 นาที

     รถไฟฟ้า MG MG4 คันนี้มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 170 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ RUBIK’s CUBE Baterry ขนาดความจุ 51 kWh ผ่านมาตรฐานความปลอดภัย IP67 ในการป้องกันน้ำและฝุ่น อีกทั้งยังมีระบบระบายความร้อนแบบ LIQUID Cooling System รองรับการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ AC สูงสุด 6.6kW และรองรับการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC สูงสุด 88 kW

ราคารถไฟฟ้า MG MG4 EV ราคา

  • MG 4 Electric D ราคา 869,000 บาท
  • MG 4 Electric X ราคา 969,000 บาท

 

4. รถยนต์ไฟฟ้า BYD Atto 3

     Atto 3 เป็น BYD รถไฟฟ้า อเนกประสงค์ SUV ไฟฟ้า จากแบรนด์ยักษ์ใหญ่อย่าง BYD ที่กวาดยอดจองครบ 10,000 คันเป็นที่เรียบร้อยหลังเปิดจองครั้งแรกในวันที่ 12 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา โดย BYD Atto 3 เวอร์ชันที่จำหน่ายในประเทศไทยนั้น มีด้วยกัน 2 รุ่นย่อย ราคาเริ่มต้นเพียง 1.09 ล้านบาท รุ่น Standard Range มากับระบบขับเคลื่อนล้อหน้า มอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous Motor กำลังสูงสุด 204 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 310 นิวตันเมตร พ่วงด้วยแบตเตอรี่ BYD Blade Battery ความจุ 49.9 kWh อัตราเร่ง 0-100 km/h ภายใน 7.3 วินาที ระยะทางวิ่งสูงสุดต่อการชาร์จ อยู่ที่ 410 กิโลเมตร (มาตรฐาน NEDC)

ราคารถไฟฟ้า EV BYD Atto 3

  • BYD Atto 3 Standard Range ราคา 1,099,900 บาท
  • BYD Atto 3 Extended Range ราคา 1,199,900 บาท

 

5. รถยนต์ไฟฟ้า Volt City EV

     รถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก กระทัดรัด จุดเด่นที่ ราคารถยนต์ไฟฟ้า จับต้องได้ ผ่อนเพียงเดือนละ 3,000-4,000 บาทเท่านั้น ไม่ว่าใครๆ ก็เป็นเจ้าของ Volt City EV ได้ง่ายๆ โดย Volt City EV จัดจำหน่ายโดย บริษัท อีวี ไพรมัส ผู้จำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า แบบมัลติแบรนด์ (Multi-Brand EV Distributor) แห่งแรกของเมืองไทย และผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการของแบรนด์ DONGFENG ผู้ผลิตรถยนต์อันดับ 2 ของจีน

     Volt City EV เป็น รถไฟฟ้า EV ที่ใช้งานในเมืองได้อย่างลงตัว วิ่งได้ระยะทางสูงสุด 210 km. ต่อการชาร์จ (NEDC) ความเร็วสูงสุด 100 km/h ใช้เวลาชาร์จจาก 0-100% ประมาณ 5 ชั่วโมง 30 นาที  ภายในห้องโดยสารมีความกว้างขวาง ระบบความปลอดภัยก็ให้มาอย่างเพียงพอ และสะดวกยิ่งไปกว่านั้น เพราะ Volt City EV สามารถชาร์จไฟกับปลั๊กที่บ้านของคุณได้ ไม่จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่าย Wall Box

ราคารถไฟฟ้า Volt City EV

  • Volt City EV รุ่น FOR-TWO (3 ประตู 2 ที่นั่ง) รถยนต์ไฟฟ้า ราคา 325,000 บาท
  • Volt City EV รุ่น VOLT FOR-FOUR (5 ประตู 4 ที่นั่ง) รถยนต์ไฟฟ้า ราคา 385,000 บาท

 

6. รถยนต์ไฟฟ้า Wuling Hongguang MINI EV

     หลังจากการเปิดตัวเพียง 22 เดือนในประเทศจีน Wuling Hongguang MINI EV คันนี้ก็ขึ้นแท่น รถยนต์ EV ที่ขายดีที่สุดในจีน ล่าสุดในไทยก็มีผู้นำเข้าอิสระหลายเจ้าที่เริ่มนำเข้าและจัดจำหน่ายให้ได้ขับกันแล้ว รถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก Wuling Hongguang MINI EV มาในรูปแบบรถ 2 ประตูท้ายตัด 4 ที่นั่ง โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ทรงกล่อง หลังคาสูง สามารถเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระได้ด้วยการพับเบาะแถวหลัง ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า พละกำลังสูงสุด 27 แรงม้า ทำความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 100 km/h ใช้เวลาชาร์จจาก 0-100% ประมาณ 9 ชั่วโมง และการชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้ง สามารถวิ่งได้ประมาณ 170 กิโลเมตร

ราคารถไฟฟ้า Wuling Hongguang MINI EV

  • Wuling Hongguang MINI EV ราคา 369,000 บาท

 

7. รถยนต์ไฟฟ้า Pocco

     นอกจากราคาที่ไม่สูงนัก รถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก POCCO ยังมาพร้อมกับออปชันที่จำเป็นต่อการใช้งานทั่วไป อาทิ กล้องมองหลัง หน้าจอแสดงผลแบบสัมผัสรองรับภาษาอังกฤษ พร้อมการเชื่อมต่อกับ IOS และ Android มาอำนวยความสะดวกให้ผู้ขับขี่มากยิ่งขึ้นด้วยนะคะ

     POCCO รุ่นที่นำเข้าไทยแบ่งออกเป็น 2 รุ่น โดย POCCO รุ่น DD L จะใช้แบตเตอรีลิเธียมไอออนความจุอยู่ที่ 10.3kW สามารถวิ่งได้ระยะทางสูงสุดอยู่ที่ 128 กิโลเมตรต่อรอบการชาร์จ ขณะที่ POCCOรุ่น DD K จะใช้แบตเตอรีลิเธียมไอออนความจุอยู่ที่ 14.5kW สามารถวิ่งได้ระยะทางสูงสุดอยู่ที่ 178 กิโลเมตร โดยทั้ง 2 รุ่นของ POCCO สามารถชาร์จด้วยไฟบ้าน โดยจะใช้เวลาชาร์จแบตเตอรีจาก 0-100% ประมาณ 6-8 ชั่วโมงไม่แตกต่างกัน

ราคารถไฟฟ้า EV POCCO

  • POCCO รุ่น DD L ราคา 389,000 บาท
  • POCCO รุ่น DD K ราคา 449,000 บาท

 

8. รถยนต์ไฟฟ้า Fomm One

     รถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก ที่ใครเห็นก็คงบอกว่าดูเหมือนรถยนต์ที่มาจากอนาคต เพราะมีด้านหน้ายื่นยาวคล้ายจรวด อีกทั้งยังมาพร้อมกระจกบานใหญ่ ต่างจากรถยนต์ทั่วไป โดย Fomm ONE รองรับได้ 4 ที่นั่ง ใช้เวลาชาร์จไฟฟ้าประมาณ 6-8 ชั่วโมง และสามารถวิ่งได้ไกลถึง 180 กิโลเมตร ด้วยขนาดเล็กกระทัดรัด Fomm ONE จึงดูเหมาะกับการขี่ในเมือง ซอกแซกเข้าซอยและหาที่จอดได้ง่าย ไปตามสถานที่ต่างๆ ได้สะดวกสบายกว่ารถยนต์ทั่วไป ในส่วนของการขับเคลื่อน มอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้มาสามารถทำพละกำลังสูงสุดได้ที่ 13.5 แรงม้า ทำความเร็วสูงสุด 80 km/h

ราคารถไฟฟ้า EV Fomm ONE

  • Fomm ONE ราคา 499,000 บาท

 

9. รถยนต์ไฟฟ้า NETA V

     NETA V รถยนต์ไฟฟ้า สไตล์ Compact Crossover ยกสูง แบบ 5 ประตู 5 ที่นั่ง ซึ่งขนาดรถอยู่ในกลุ่มเดียวกับ B-Segment อาทิ Honda City, Mazda 2 และ Toyota Yaris โดยเป็นรุ่นแรกที่แบรนด์ NETA ประเทศไทย จัดจำหน่ายให้คนไทยได้เป็นเจ้าของ ซึ่ง NETA V มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าหนึ่งตัว กำลังสูงสุด 95 แรงม้า สามารถวิ่งได้ไกลถึง 384 กิโลเมตร ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (NEDC) ทำความเร็วสูงสุด 124 km/h

ราคารถไฟฟ้า EV NETA V

  • NETA V ราคา 549,000 บาท

 

10. รถยนต์ไฟฟ้า ORA Good Cat

     รถเก๋งไฟฟ้า ที่หลายคนได้เห็นกันแล้วบนถนน หนึ่งในนั้นคือ ORA Good Cat จากค่าย GWM (Great Wall Motor) โดยรุ่นมาตรฐานมีพละกำลังสูงถึง 143 แรงม้า ในเรื่องมิติตัวรถนั้นให้มาไม่ต่างกันในทั้งสามรุ่น แต่จุดแตกต่างคือเรื่องของแบตเตอรี่ ORA Good Cat รุ่น รุ่น 500 Ultra ให้แบตเตอรี่ Lithium Ternary ช่วยให้รถวิ่งได้ไกลสูงสุด 500 กิโลเมตร ต่อการชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้ง (ชาร์จไฟแบบธรรมดา ใช้เวลา 10 ชั่วโมง) และมีระบบชาร์จเร็ว จาก 0-80% ใน 60 นาที และ 30-80% ใน 40 นาที

     ในขณะที่ ORA Good Cat รุ่น 400 Tech และ 400 Pro ให้แบตเตอรี่ Lithium-ion ช่วยให้รถวิ่งได้ไกลสูงสุด 400 กิโลเมตร (ชาร์จไฟแบบธรรมดา ใช้เวลา 8 ชั่วโมง) สามารถชาร์จเร็ว 0-80% ใน 45 นาที และ 30-80% ใน 32 นาที

ราคารถไฟฟ้า EV ORA Good Cat

  • ORA Good Cat 400 Tech ราคา 763,000 บาท
  • ORA Good Cat 400 Pro ประมาณ 828,500 บาท
  • ORA Good Cat 500 Ultra ประมาณ 959,500 บาท

 

11. รถยนต์ไฟฟ้า ORA Good Cat GT

     รถเก๋งไฟฟ้า ORA Good Cat GT ที่ทาง GWM เพิ่งเปิดตัวเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาถูกจองเกลี้ยงไปทั้งหมด 500 คิว ภายในระยะเวลาเพียง 58 นาทีเท่านั้น ซึ่งเจ้าแมวเหมียวคันนี้ถูกพัฒนาต่อยอดจากรุ่น 500ULTRA แต่ปรับเปลี่ยนและเพิ่มเติมอุปกรณ์ออปชั่นต่างๆ โดยจุดเด่นที่ชัดเจนที่สุดก็คือ การดีไซน์ทั้งภายนอกและภายในที่ดูสปอร์ตมากขึ้น โดยเฉพาะไฮไลท์สีแดงที่แฝงตามจุดต่างๆ ทั้งกันชนหน้า-หลัง, คาลิปเปอร์เบรก, ประทับตรา GT สีแดง รวมไปถึงการตกแต่งห้องโดยสารด้านในด้วยสีแดงสลับดำ เน้นย้ำความสปอร์ตเต็มขั้นอีกด้วย มอเตอร์ไฟฟ้าของรุ่นนี้มีกำลังสูงสุด 171 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 km/h ใน 8.5 วินาที ชาร์จแบบ AC จาก 0-100% ใช้เวลา 10 ชั่วโมง ชาร์จแบบ DC Fast Charge จาก 30-80% ใช้เวลา 40 นาที สามารถวิ่งได้ 500 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (NEDC)

ราคารถไฟฟ้า EV ORA Good Cat GT

  • ORA Good Cat GT ราคา 1,286,000 บาท

 

12. รถยนต์ไฟฟ้า MG EP

     ครั้งแรกในไทยสำหรับ รถไฟฟ้า MG สไตล์สเตชันแวกอน เหมาะสำหรับครอบครัวและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย โดย MG EP มาพร้อมแบตเตอรี่ Lithium-ion สามารถขับเคลื่อนได้ระยะทางสูงสุด 380 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง มอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้มามีพละกำลังถึง 163 แรงม้า ทำความเร็วสูงสุด 185 km/h และ MG EP มีรูปแบบการขับขี่ทั้งหมด 3 รูปแบบ ได้แก่ โหมด Normal โหมด Eco และ โหมด Sport

     ในส่วนของการชาร์จแบตเตอรี่ MG EP มีระบบชาร์จ DC Fast Charging สามารถชาร์จตั้งแต่ 0-80% ใน 40 นาที ขณะที่การชาร์จ AC ชาร์จตั้งแต่ 0-100% ผ่าน MG Home Charger ใช้เวลาประมาณ 7 ชั่วโมง 15 นาที

ราคารถไฟฟ้า EV MG EP

  • MG EP รุ่น Standard ราคา 761,000 บาท
  • MG EP PLUS ราคา 771,000 บาท

 

13. รถยนต์ไฟฟ้า MG ZS EV

SUV ไฟฟ้า พื้นที่ภายในกว้างขวาง MG ZS EV ขับเคลื่อนด้วยระบบมอเตอร์ไฟฟ้า พละกำลังสูงสุด 177 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 km/h อยู่ที่ 8.6 วินาที  และในการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง ขับได้ไกลถึง 403 กิโลเมตร รุ่นนี้รองรับการชาร์จ 2 รูปแบบด้วยกัน ได้แก่ การชาร์จเร็ว (Quick Charge) สามารถชาร์จจาก 30-80 % ภายใน 30 นาที และการชาร์จแบบธรรมดา ผ่าน MG Home Charger 0-100 % ใช้เวลาประมาณ 7 ชั่วโมง 15 นาที

     รถไฟฟ้า MG มาพร้อมการโปรโมตให้ ZS EV เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้งานง่ายและสะดวก ด้วยระบบการชาร์จ 2 รูปแบบ รองรับทั้งแบบ Quick Charge และ Normal Charge พร้อมทั้งสถานี MG Super Charge ที่ติดตั้งแล้วกว่า 120 แห่งทั่วประเทศไทย

ราคารถไฟฟ้า MG ZS EV

  • NEW MG ZS EV D ราคา 949,000 บาท
  • NEW MG ZS EV X ราคา 1,023,000 บาท

 

14. รถยนต์ไฟฟ้า BYD T3 และ M3

     BYD T3 รถตู้ไฟฟ้า เชิงพาณิชย์ ตู้ทึบ ตอบโจทย์การขนส่งในเมือง ช่วยให้คุณประหยัดค่าใช้จ่าย และคุ้มค่ามากยิ่งขึ้นในยุคนี้ อีกทั้ง T3 ยังเป็นรถตู้ที่มีความคล่องตัวสูง ขับขี่ง่าย หาที่จอดสะดวก ชิ้นส่วนการดูแลรักษาน้อยกว่ารถตู้น้ำมันแบบเดิมๆ และมีสมรรถนะเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป รวมถึงการใช้เพื่อการขนส่งสิ่งของต่างๆ ตามต้องการ ระยะทางวิ่งสูงสุด 233 กม. (WLTC) ชาร์จกระแสสลับ AC จาก 0-100% ภายใน 7.6 ชั่วโมง ชาร์จกระแสตรง DC Fast Charging 1.3 ชั่วโมง สามารถรองรับน้ำหนักสินค้าได้กว่า 700 กก. นอกจากนั้น ยังมี BYD M3 รถตู้ไฟฟ้า สำหรับโดยสารทั้งแบบ 5 ที่นั่งและแบบ รถยนต์ไฟฟ้า 7 ที่นั่ง สไตล์ MPV ตอบโจทย์กลุ่มตลาดรถยนต์ไฟฟ้าครอบครัวใหญ่อีกด้วย

ราคารถไฟฟ้า BYD T3 และ M3

  • BYD T3 ราคา 990,000 บาท
  • BYD M3 รถไฟฟ้า 5 ที่นั่งราคา 1,059,000 บาท
  • BYD M3 รถไฟฟ้า 7 ที่นั่งราคา 1,089,000 บาท

 

15. รถไฟฟ้า BYD e6

     บีวายดี e6 รถตู้ไฟฟ้า ในรูปแบบรถ MPV ขนาดคอมแพกต์ หรือคล้ายรถตู้ ตอบโจทย์กับคนที่ชื่นชอบรถอเนกประสงค์ที่มีพื้นที่เก็บสัมภาระและห้องโดยสารกว้างขวาง มาพร้อมระบบหน้าจออินโฟเทนเมนต์แบบสัมผัสขนาด 10 นิ้ว ที่สามารถหมุนใช้ได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน นอกจากนั้นแล้ว เบาะโดยสารจะเป็นแบบ 2 แถว รองรับผู้โดยสารได้ 5 คน (ในรุ่น 5 ที่นั่ง) พร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง รวมถึงระบบกรองอากาศ BYD e6 มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าพละกำลังสูงสุด 94 แรงม้า ทำความเร็วสูงสุด 130 km/h ในการชาร์จหนึ่งครั้งสามารถวิ่งได้ระยะทางสูงสุด 500 กม. (NEDC) สามารถชาร์จไฟได้ทั้งกระแสสลับ AC และกระแสตรง DC

ราคารถไฟฟ้า BYD e6

  • BYD e6 ราคา 1,390,000 บาท

 

16. Nissan Leaf รถยนต์ไฟฟ้า

     รถไฟฟ้า ev ที่มาพร้อมเทคโนโลยีอัจฉริยะ เพื่อการขับขี่ในอนาคตจากนิสสัน (Nissan Intelligent M obility) อาทิ ระบบเบรกมือไฟฟ้า และ ระบบ e-Pedal ที่สามารถเร่งและเบรกได้ในแป้นเดียว โดย Nissan Leaf มาในรูปแบบ รถเก๋งไฟฟ้า ตัวถังแฮตช์แบ็ก 5 ประตู พอเพียงกับการใช้งานทั่วไป Nissan Leaf มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 180 แรงม้า สามารถวิ่งได้ระยะทางสูงสุด 311 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง การชาร์จปกติ 3.6 kW onboard Charger ใช้เวลา 12 ชั่วโมง การชาร์จ Double Speed 6.6 kW onboard Charger ใช้เวลา 6 ชั่วโมง

ราคารถไฟฟ้า EV Nissan Leaf

  • Nissan Leaf ราคา 959,000 บาท

 

17. MINI Cooper SE รถยนต์ไฟฟ้า

     รถยนต์ไฟฟ้า EV รุ่นแรกจากแบรนด์ MINI Cooper โดย MINI Cooper SE  รถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก  คันนี้ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า พละกำลังสูงสุด 184 แรงม้าแบตเตอรี่ lithium-ion ความจุ 32.6 kWh ขับเคลื่อนล้อหน้า วิ่งได้ระยะทางสูงสุด 217 กิโลเมตร ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง (มาตรฐาน NEDC) อัตราเร่ง 0-100 km/h ภายใน 7.3 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 150 km/h เจ้า MINI Cooper SE รองรับการชาร์จได้หลายรูปแบบ ทั้งไฟบ้าน AC และ DC Quick Charge สำหรับการชาร์จเร็ว 10-80% ใช้เวลาประมาณ 28 นาที แต่ด้วยระยะทางที่วิ่งได้น้อยกว่ารถยนต์ไฟฟ้าคู่แข่งในราคาใกล้เคียงกัน ทำให้หลายคนมองว่า MINI Cooper SE คันนี้เหมาะกับการใช้เป็นรถสำรอง หรือใช้ขับในเมืองมากกว่าการขับระยะทางไกลๆ

ราคารถไฟฟ้า EV MINI Cooper SE

  • MINI Cooper SE ราคา 2,290,000 บาท

 

18. Lexus UX 300e รถยนต์ไฟฟ้า

Lexus UX 300e รถยนต์ไฟฟ้า Crossover สุดพรีเมียม ขนาด 5 ที่นั่ง มอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า มีอัตราเร่งจาก 0-100 km/h ภายในเวลา 7.5 วินาที ระยะทางวิ่ง 300 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง (WLTP) แม้ว่าจะใช้ Layout ภายในรถเดียวกับ Toyota C-HR แต่ทาง Lexus เลือกใช้วัสดุคุณภาพสูงและมีความปราณีตมากกว่า นอกจากนั้นแล้ว ภายในห้องโดยสารยังดูโปร่งโล่งมากกว่า C-HR อีกด้วย (แม้ว่าจะใช้แพลตฟอร์มเดียวกัน)

ราคารถไฟฟ้า EV Lexus UX

  • Lexus UX 300e ราคา 3,490,000 บาท

 

19. Jaguar i-PACE รถยนต์ไฟฟ้า EV

     Jaguar i-PACE รถยนต์ไฟฟ้าครอสโอเวอร์ ทรงคูเป้ ขนาด 5 ที่นั่ง มิติตัวถังมีขนาดที่พอดิบพอดี ไม่ใหญ่เทอะทะ สามารถขับขี่ในเมืองได้อย่างคล่องตัว โดย Jaguar i-PACE ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ให้กำลังสูงสุด 400 แรงม้า ขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD อัตราเร่ง 0-100 km/h ภายใน 4.8 วินาที พร้อมแบตเตอรี่ไฟฟ้าความจุ 90 kWh ระยะทางวิ่งสูงสุดต่อการชาร์จ 1 ครั้งอยู่ที่ 470 กิโลเมตร

ราคารถไฟฟ้า EV Jaguar i-PACE

  • i-PACE AWD S ราคา 5,500,000 บาท
  • i-PACE AWD SE ราคา 6,000,000 บาท
  • i-PACE AWD HSE ราคา 6,500,000 บาท

 

20. Audi e-tron GT รถยนต์ไฟฟ้า EV

     รถยนต์ไฟฟ้าจากแบรนด์ Audi ขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ Permanent Excited Synchronous Machine โดย Normal Mode กำลังสูงสุด 476 แรงม้า และ Boost Mode กำลังสูงสุด 530 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 km/h ภายใน 4.5 วินาที  (Normal Mode) และอัตราเร่ง 0-100 km/h ภายใน 4.1 วินาที (Boost Mode)

     Audi e-tron สามารถวิ่งได้ 540 กิโลเมตร (รุ่น e-tron GT) 523 กิโลเมตร (รุ่น e-tron GT Performance) ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง การชาร์จไฟฟ้า AC 3 phase 11 kW ใช้เวลาชาร์จจาก 0% ประมาณ 9 ชั่วโมง ส่วนการชาร์จไฟฟ้า AC 3 phase 22 kW ใช้เวลาชาร์จจาก 0% ประมาณ 4 ชั่วโมง 30 นาที และการชาร์จไฟฟ้า DC 270 kW ใช้เวลาชาร์จจาก 0% ประมาณ 20 นาที

ราคารถไฟฟ้า EV Audi e-tron GT

  • Audi e-tron GT quattro ราคา 6,390,000 บาท
  • Audi e-tron GT quattro Performance ราคา 6,790,000 บาท

 

21. Volvo ไฟฟ้า XC40 Recharge Pure Electric

     Volvo XC40 Recharge Pure Electric มาในรูปแบบรถยนต์ไฟฟ้าอเนกประสงค์ขนาดกระทัดรัด เป็นรถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์หรูที่ราคาอยู่ในเกณฑ์จับต้องได้จริง มาพร้อมขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้า พละกำลังสูงสุด 408 แรงม้า พร้อมแบตเตอรี่ไฟฟ้าความจุ 78 kWh ส่งกำลังผ่านระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ขับขี่ได้เป็นระยะทางสูงสุด 400 กิโลเมตร ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง (มาตรฐาน WLTP) ระบบชาร์จ Wall Box กระแสสลับ AC กำลังชาร์จ 11 kW 0-100% ภายใน 7.1 ชั่วโมง และระบบ Super Charge กระแสตรง DC Quick Charge 0-80% ภายใน 40 นาที

     Volvo ให้มาจัดเต็มทั้ง เครื่องชาร์จ Wall Box พร้อมบริการตรวจสภาพระบบไฟฟ้า และติดตั้ง นอกจากนั้นยังมี Volvo Assistance บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง นาน 5 ปี

ราคารถไฟฟ้า Volvo XC40 Recharge Pure Electric

  • Volvo XC40 Recharge Pure Electric ราคา 2,590,000 บาท

 

22.  Volvo ไฟฟ้า C40 Recharge Pure Electric

     ฝาแฝด Volvo XC40 โดยให้ลุคที่ดูสปอร์ตยิ่งขึ้น เพราะมาในรูปแบบท้ายลาด คล้ายรถคูเป้ รถยนต์ไฟฟ้า Volvo C40 มากับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว พละกำลังสูงสุด 408 แรงม้า พร้อมแบตเตอรี่ 78 kWh ส่งกำลังผ่านระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ขับขี่ได้เป็นระยะทางสูงสุด 420 กิโลเมตร ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง (มาตรฐาน WLTP) ระบบชาร์จไฟฟ้ากระแสสลับ AC ใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมง และระบบชาร์จไฟฟ้ากระแสตรง DC รองรับการชาร์จสูงสุด 150 kW ใช้เวลาประมาณ 40 นาที

ราคารถไฟฟ้า Volvo C40 Recharge Pure Electric

  • Volvo C40 Recharge Pure Electric ราคา 2,750,000 บาท

 

23. รถไฟฟ้า BMW iX3 EV

     รถไฟฟ้า BMW พร้อมราคาคุ้มค่าตัว โดย BMW iX3 สร้างขึ้นมาจาก BMW X3 Platform ซึ่งเป็นรุ่นตัวถังที่ขายดีที่สุด โดย BMW iX3 มาในรูปแบบรถ SUV ไฟฟ้า การออกแบบหรูหราทั้งภายนอกและภายใน BMW iX3 ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 1 ตัว พละกำลังสูงสุด 286 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ Single Speed with fixed ratio อัตราเร่ง 0-100 km/h ภายใน 6.8 วินาที สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 180 km/h (locked) การชาร์จไฟฟ้า AC 3 phase wallbox 11 kW ใช้เวลาชาร์จจาก 0% ประมาณ 7.5 ชั่วโมง การชาร์จ DC 150 kW ใช้เวลาชาร์จจาก 0-80% ประมาณ 34 นาที โดย BMW iX3 วิ่งได้ระยะทางสูงสุด 460 km. ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง (มาตรฐาน WLTP)

ราคารถไฟฟ้า EV BMW iX3

  • BMW iX3 ราคา 3,399,000 บาท

 

24. รถเบนซ์ไฟฟ้า EQS 450+

     Mercedes-Benz eqs450+ รถยนต์ EV รถไฟฟ้าในไทย ราคารถยนต์ไฟฟ้า EV รถเบนซ์ไฟฟ้า

Mercedes-Benz EQS 450+ รถเก๋งไฟฟ้า ซีดานระดับ Luxury จากแบรนด์ดังประเทศเยอรมนี มากับชุดขุมพลังขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous 1 ตัว ให้กำลังสูงสุด 333 แรงม้า อัตราเร่งจาก 0-100 km/h ในเวลา 6.2 วินาที ทำความเร็วสูงสุดได้ 210 km/h พร้อมกับแบตเตอรี่ Lithium-ion ขนาด 107.8 kWh ชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้ง วิ่งได้ไกลถึง 770 กม. (WLTP) การชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ AC จาก 10 – 100% ใช้เวลา 4 ชั่วโมง และการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC จาก 20 – 80% ภายในเวลา 23 นาที

ราคารถไฟฟ้า EV Mercedes-Benz EQS 450+

  • Mercedes-Benz EQS 450+ AMG Premium ราคา 8,570,000 บาท
  • Mercedes-Benz EQS 450+ Edition 1 ราคา 8,870,000 บาท

 

25. รถไฟฟ้า BMW i4

     BMW i4 วางจำหน่ายด้วยกันทั้งหมด 2 รุ่นย่อย ได้แก่ BMW i4 eDrive40 มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 1 ตัว กำลังสูงสุด 340 แรงม้า ขับเคลื่อนล้อคู่หลัง แบตเตอรี่ไฟฟ้าความจุ 83.9 kWh ระยะทางวิ่งสูงสุด 590 กิโลเมตร ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง (WLTP) อัตราเร่ง 0 – 100 km/h ภายใน 5.7 วินาที ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 190 km/h รองรับการชาร์จไฟแบบ AC 11 kW ใช้เวลา 8.25 ชั่วโมง และการชาร์จไฟแบบ DC 205 kW ใช้เวลาเพียง 31 นาที

     อีกรุ่นหนึ่งได้แก่ BMW i4 M50 ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าด้านหน้า 258 แรงม้า และมอเตอร์ไฟฟ้าด้านหลัง 313 แรงม้า กำลังรวมสูงสุด 544 แรงม้า ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ xDrive แบตเตอรี่ไฟฟ้าความจุ 83.9 kWh ระยะทางวิ่งสูงสุด 510 กิโลเมตร ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง (WLTP) อัตราเร่ง 0 – 100 km/h ภายใน 3.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 225 km/h รองรับการชาร์จไฟแบบ AC 11 kW ใช้เวลา 8.25 ชั่วโมง และการชาร์จไฟแบบ DC 205 kW ใช้เวลา 31 นาที

ราคารถไฟฟ้า EV BMW i4

  • BMW i4 eDrive40 M Sport ราคา 4,499,000 บาท
  • BMW i4 M50 ราคา 4,999,000

 

26. โตโยต้าไฟฟ้า Toyota bZ4X

     Toyota bZ4X รถเก๋งไฟฟ้า 100% คันแรกจากแบรนด์โตโยต้า มาในรูปแบบ C-SUV โครงสร้างตัวถังใช้แพลตฟอร์ม e-TNGA ซึ่งพัฒนามาเพื่อรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ Toyota bZ4X ใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว กำลังสูงสุดรวมทั้งระบบ 218 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 337 นิวตันเมตร และแบตเตอรี่ Lithium-ion ความจุ 71.4 kWh มาพร้อมโหมดการขับขี่ X-MODE อัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 6.9 วินาที ระยะทางวิ่งสูงสุดต่อการชาร์จอยู่ที่ 411 กิโลเมตร (มาตรฐาน WLTP) รองรับการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ AC สูงสุด 6.6 kW และการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC สูงสุด 150 kW สามารถใช้ DC Fast Charge อัดประจุจาก 0 – 80% ได้ภายในเวลา 30 นาที

ราคารถไฟฟ้า EV Toyota bZ4X

  • Toyota bZ4X AWD ราคา 1,836,000 บาท

 

     นอกจากลิสต์ 26 รถยนต์ไฟฟ้า ที่เรานำมาฝากทั้งหมดนี้ คาดว่าในปีนี้ 2023 และ ปี 2024 จะมีรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นอื่นๆ เข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยเพิ่มอีกจำนวนไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็น BYD Dolphin, BYD Seal, BYD Tang, Hyundai Ioniq 5, Hyundai Ioniq 6, KIA EV6, NETA S และ ORA Grand Cat เป็นต้น

 

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com

.

.

.

.

_____________________________________

เราคือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

เทอร์โบแท้

✅IHI TURBO 🇯🇵

✅GARRETT 🇺🇸

ซื้อกับเราได้สินค้าแท้100%

คุ้มค่ากว่า ใช้งานได้ในระยะยาว

สบายใจกว่า เทอร์โบแท้รับประกันสินค้ายาวนาน

บริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม

โดยทีมงานมืออาชีพ ผู้มีประสบการณ์มากกว่า 24 ปี”

สั่งอะไหล่กับเรา "ออกใบกำกับภาษี" ได้

พร้อมบริการการดูแลหลังการขายตลอดอายุการใช้งาน

⚙️เข้าชมสินค้าทั้งหมดในเว็บไซต์

คลิก: www.sqdparts.com

⚙️สั่งซื้อทางเพจ

คลิก: m.me/sqdparts

⚙️สั่งซื้อผ่านไลน์

คลิก: https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=sqdparts

คลิกYoutube : https://bit.ly/3IAJstu

คลิกTiktok : https://bit.ly/3bXmLmN

คลิกInstagram : https://bit.ly/3AFxMDx

เขียนโดย sqdparts เมื่อ Mon 09 Oct, 2023
อ่านต่อ
แสดง รายการ
ร้านค้าออนไลน์ และ ขายของออนไลน์ โดย © 2006-2024 Vevo Systems Co., Ltd.