5 จุดสำคัญที่ต้องตรวจเช็กหลังรถจมน้ำ เพื่อลดความเสียหายและอันตราย
เมื่อรถยนต์ต้องเผชิญกับสถานการณ์รถจมน้ำหรือน้ำท่วมอย่างหนัก การตรวจสอบและดำเนินการอย่างรวดเร็วเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับระบบต่างๆ ภายในรถยนต์ได้ บทความนี้ได้รวบรวม 5 จุดสำคัญที่เจ้าของรถควรตรวจเช็กทันทีหลังนำรถขึ้นจากน้ำ เพื่อให้รถกลับมาใช้งานได้อย่างปลอดภัย
1. ระบบไฟฟ้าและแบตเตอรี่
สิ่งแรกที่ควรทำหลังนำรถขึ้นจากน้ำคือการรีบถอดขั้วแบตเตอรี่ออกทันที เพื่อเป็นการตัดโอกาสที่จะเกิดไฟฟ้าลัดวงจร ซึ่งจะช่วยป้องกันความเสียหายร้ายแรงต่อระบบไฟฟ้าได้ จากนั้นต้องตรวจดูบริเวณกล่องฟิวส์และกล่อง ECU หรือสมองกลที่ควบคุมการทำงานของรถยนต์ทั้งหมดอย่างละเอียด โดบให้ “ถอดขั้วลบ (−) ก่อนเสมอ” เพื่อความปลอดภัย และไม่ควรต่อขั้วกลับจนกว่าจะแน่ใจว่ารถแห้งสนิทและช่างเช็คระบบไฟฟ้าแล้ว
หากพบร่องรอยของน้ำหรือความชื้นในบริเวณดังกล่าว ต้องนำรถเข้าให้ช่างผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบทันที เนื่องจากความเสียหายที่เกิดขึ้นกับ ECU อาจส่งผลกระทบต่อระบบสำคัญทั้งหมดภายในรถได้
2. ของเหลวภายในรถทุกชนิด
ของเหลวสำคัญภายในรถยนต์ เช่น น้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ และน้ำมันเบรก เป็นสิ่งที่ไม่ควรมีน้ำปนเข้าไปโดยเด็ดขาด การปนเปื้อนของน้ำสามารถสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงต่อระบบต่างๆ ได้ หากรถยนต์ต้องจมน้ำ ควรทำการเปลี่ยนถ่ายของเหลวเหล่านี้ทั้งหมดทันที
สำหรับน้ำมันเครื่อง หากมีสีขาวขุ่นคล้ายน้ำนม ให้แปลความได้ว่ามีน้ำปนเข้าไปแล้ว ส่วนน้ำมันเกียร์ก็อาจปนเปื้อนได้เช่นกัน ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการเกียร์ลื่นหรือเสียหายได้ ขณะที่น้ำมันเบรกที่ปนความชื้นจะทำให้ประสิทธิภาพการเบรกลดลง ถือเป็นอันตรายอย่างมากต่อความปลอดภัยในการขับขี่
3. เครื่องยนต์และระบบเกียร์
ระบบเครื่องยนต์เป็นส่วนที่ละเอียดอ่อนและต้องได้รับการตรวจสอบโดยช่างผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น โดยเฉพาะบริเวณท่อไอดีและกรองอากาศ ซึ่งเป็นจุดที่น้ำสามารถไหลเข้าสู่เครื่องยนต์ได้ง่ายที่สุด หากน้ำเข้าไปในกระบอกสูบ การพยายามสตาร์ทเครื่องยนต์อาจทำให้ชิ้นส่วนภายในเสียหายหนักกว่าเดิม
เช่นเดียวกับระบบเกียร์ ซึ่งต้องตรวจสอบทั้งภายในและภายนอกอย่างรอบคอบ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าน้ำไม่ได้เข้าไปทำลายส่วนประกอบสำคัญ ซึ่งอาจนำไปสู่ค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมที่สูงได้
4. ภายในห้องโดยสาร
เมื่อน้ำท่วมเข้าสู่ภายในรถ ความชื้นจะนำไปสู่การเกิดเชื้อรา กลิ่นอับ และปัญหาสนิมใต้พื้นได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นจึงควรรีบจัดการภายในห้องโดยสารโดยเร็วที่สุด
- ถอดพรม เบาะ และแผ่นซับเสียงที่เปียกน้ำออก
- ทำความสะอาดและทำให้ชิ้นส่วนทั้งหมดแห้งสนิททันที
- เปิดประตู หน้าต่าง หรือใช้พัดลมช่วยในการระบายความชื้นออกจากรถ
5. ช่วงล่างและระบบเบรก
น้ำท่วมอาจนำพาสิ่งสกปรกและโคลนเข้าไปติดตามระบบเบรกและช่วงล่างของรถยนต์ได้ เช่น บริเวณผ้าเบรก จานเบรก ลูกปืนล้อ หรือเพลาขับ ชิ้นส่วนเหล่านี้จำเป็นต้องได้รับการตรวจสอบอย่างละเอียดจากช่างเทคนิค
ควรให้ช่างตรวจสอบว่ามีสิ่งตกค้าง น้ำเข้า หรือจารบีในส่วนต่างๆ เสื่อมสภาพหรือไม่ หากละเลยอาจทำให้การขับขี่ไม่ปลอดภัยและทำให้ชิ้นส่วนสึกหรอเร็วกว่าปกติ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ควรละเลยอย่างยิ่ง
คำแนะนำเพิ่มเติมสำหรับเจ้าของรถจมน้ำ
สำหรับเจ้าของรถที่ประสบปัญหารถจมน้ำ ควรดำเนินการถ่ายภาพความเสียหายทั้งหมด ทั้งภายในและภายนอกรถยนต์ พร้อมบันทึกระดับน้ำสูงสุดที่ท่วมถึงอย่างชัดเจน เพื่อใช้เป็นหลักฐานประกอบในการเคลมประกันภัยรถยนต์
นอกจากนี้ ควรรีบติดต่อบริษัทประกันภัยทันทีที่สามารถทำได้ เพื่อรับคำแนะนำที่ถูกต้องและนำรถเข้าศูนย์บริการหรืออู่ที่ได้รับการรับรองอย่างถูกต้อง เพื่อให้การซ่อมแซมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและได้มาตรฐาน
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com
.
.
.
.
_____________________________________
เราคือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ
เทอร์โบแท้
✅IHI TURBO 🇯🇵
✅GARRETT 🇺🇸
✅MITSUBISHI TURBOCHARGER 🇯🇵
✅ซื้อกับเราได้สินค้าแท้100%
✅คุ้มค่ากว่า ใช้งานได้ในระยะยาว
✅สบายใจกว่า เทอร์โบแท้รับประกันสินค้ายาวนาน
✅บริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม
“โดยทีมงานมืออาชีพ ผู้มีประสบการณ์มากกว่า 24 ปี”
สั่งอะไหล่กับเรา "ออกใบกำกับภาษี" ได้
พร้อมบริการการดูแลหลังการขายตลอดอายุการใช้งาน
⚙️เข้าชมสินค้าทั้งหมดในเว็บไซต์
คลิก: www.sqdparts.com
⚙️สั่งซื้อทางเพจ
คลิก: m.me/sqdparts
⚙️สั่งซื้อผ่านไลน์
คลิก: https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=sqdparts
คลิกYoutube : https://bit.ly/3IAJstu
คลิกTiktok : https://bit.ly/3bXmLmN
คลิกInstagram : https://bit.ly/3AFxMDx