×
หน้าหลัก > บทความประจำเดือน October 2023
บทความประจำเดือน October 2023
แสดง รายการ

 

"น้ำมันเครื่อง" เป็นส่วนประกอบที่สำคัญเพื่อให้เครื่องยนต์สามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์ โดยน้ำมันเครื่องไม่ได้ถูกนำไปใช้เผาไหม้เหมือนกับน้ำมันเชื้อเพลิง แต่จะถูกนำไปใช้หล่อลื่นชิ้นส่วนต่างๆ ภายในห้องเผาไหม้ หากว่าน้ำมันเครื่องเสื่อมสภาพ หรือน้ำมันขาด ก็จะทำให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรงจนถึงขั้นเครื่องยนต์พังเลยทีเดียว

 

น้ำมันเครื่องทั้งเบนซินและดีเซลมีประโยชน์ 5 ประการ

  1. ช่วยหล่อลื่นชิ้นส่วนต่างๆ ภายในห้องเครื่องยนต์
  2. ช่วยระบายความร้อนภายในห้องเครื่องยนต์
  3. ป้องกันการเกิดสนิม การกัดกร่อน และลดคราบเขม่า
  4. ลดแรงเสียดทานและการสึกหรอจากการเผาไหม้
  5. ช่วยรักษากำลังอัดของเครื่องยนต์

การตรวจเช็กระดับน้ำมันเครื่อง

การวัดระดับน้ำมันเครื่องสามารถทำได้เองเป็นประจำเมื่อต้องการ โดยจำเป็นต้องสตาร์ทเครื่องยนต์ทิ้งไว้ชั่วครู่ (ยกเว้นการเช็กระดับน้ำมันเครื่องหลังจากใช้งาน) จากนั้นรอประมาณ 1-2 นาที ดึงก้านวัดระดับน้ำมันเครื่องออกมาทำความสะอาดด้วยผ้าแห้ง หรือกระดาษทิชชู่อย่างหนา 1 ครั้ง แล้วเสียบก้านน้ำมันเครื่องกลับไปจนสุดเหมือนเดิม

     จากนั้นให้ดึงก้านวัดน้ำมันเครื่องออกมาตรวจสอบ หากระดับน้ำมันอยู่ระหว่างขีด MIN และ MAX แสดงว่าอยู่ในระดับปกติ หากอยู่ต่ำกว่าระดับ MIN แสดงว่าน้ำมันเครื่องพร่อง ควรรีบเติมน้ำมันเครื่องกลับเข้าไปจนพอดี หรือหากน้ำมันเครื่องเกินระดับ MAX จะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องยนต์ลดลง ควรถ่ายน้ำมันออกหรือเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องอีกครั้ง

นอกเหนือจากการตรวจสอบน้ำมันเครื่องดังกล่าวแล้ว ยังมีอีก 4 ข้อที่ต้องหมั่นสังเกต เพื่อให้ทราบว่าถึงเวลาเปลี่ยนน้ำมันเครื่องได้แล้ว ดังนี้

 

1. เมื่อครบตามระยะทาง หรือระยะเวลาที่กำหนด

ระยะการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องขึ้นอยู่กับชนิดของน้ำมันเครื่องที่ใช้ โดยน้ำมันเครื่องแต่ละประเภทมีระยะการเปลี่ยนถ่าย ดังนี้

 

น้ำมันเครื่องธรรมดา - ทุก 5,000 - 7,000 กม.

น้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ - ทุก 7,500 - 8,000 กม.

น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ - ทุก 10,000 - 15,000 กม.

 

หากใช้งานรถน้อย ไม่ค่อยนำรถออกมาใช้ ให้อ้างอิงตามรอบระยะเวลาเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามที่ผู้ผลิตกำหนดไว้ เพราะการที่จอดรถทิ้งไว้นานๆ น้ำมันเครื่องก็จะค่อยๆ เสื่อมคุณภาพลง ซึ่งโดยปกติแล้วรถญี่ปุ่นจำเป็นต้องเปลี่ยนทุก 6 เดือน และรถยุโรปจำเป็นต้องเปลี่ยนทุก 1 ปี

 

2. เสียงเครื่องยนต์ดังผิดปกติ

หากว่าน้ำมันเครื่องขาด หรือเสื่อมสภาพจนความหนืดไม่เป็นไปตามสเปกของเครื่องยนต์ อาจส่งผลให้เกิดเสียงดังผิดปกติขณะใช้งานได้ ซึ่งโดยมากแล้วจะมีลักษณะดังเขกเป็นจังหวะ และจะถี่ขึ้นตามรอบเครื่องยนต์ หากประสบกรณีเช่นนี้ควรรีบเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องทันทีเพื่อป้องกันเครื่องยนต์พัง

3. รถกินน้ำมันมากผิดปกติ

การปล่อยให้น้ำมันเครื่องเสื่อมสภาพจะส่งผลให้เครื่องยนต์กินน้ำมันมากขึ้น เนื่องจากประสิทธิภาพการหล่อลื่นที่ลดลง ทำให้ชิ้นส่วนภายในห้องเผาไหม้เกิดการเสียดสีมากกว่าปกติ

4. น้ำมันเครื่องมีสีดำสนิท หรือมีสีผิดปกติ

โดยปกติแล้วน้ำมันเครื่องจะมีสีเหลืองอำพัน แต่เมื่อผ่านการใช้งานไปสักระยะ สีจะค่อยๆ เข้มขึ้น ซึ่งเกิดจากเขม่าและสิ่งสกปรกจากการเผาไหม้ แต่หากตรวจสอบแล้วพบว่าน้ำมันเครื่องมีสีดำสนิท (ยกเว้นเครื่องยนต์ดีเซลที่น้ำมันเครื่องอาจมีสีดำเป็นปกติ) แสดงว่าถึงเวลาต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่องได้แล้ว

     แต่หากน้ำมันเครื่องเปลี่ยนเป็นสีอื่น เช่น มีสีคล้ายชานม หรือมีความข้นเหนียวมากกว่าปกติ แสดงว่าอาจเกิดจากฝาสูบโก่งเนื่องจากโอเวอร์ฮีต หรือเกิดการรั่วซึมจนทำให้ของเหลวอื่นๆ มีการเจือปนลงในอ่างน้ำมันเครื่อง กรณีเช่นนี้ควรนำรถเข้าอู่เพื่อให้ช่างหาสาเหตุและแก้ไขก่อนจะสายเกินไป

 

การนำรถเข้ารับการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องนอกจากจะช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างสมบูรณ์เสมอ ยังเป็นการตรวจเช็กสภาพเครื่องยนต์โดยช่างผู้เชี่ยวชาญ ลดโอกาสเกิดปัญหาในอนาคตได้อีกทางหนึ่งด้วย

 

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com

.

.

.

.

_____________________________________

เราคือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

เทอร์โบแท้

IHI TURBO 🇯🇵

GARRETT 🇺🇸

MITSUBISHI TURBOCHARGER 🇯🇵

ซื้อกับเราได้สินค้าแท้100%

คุ้มค่ากว่า ใช้งานได้ในระยะยาว

สบายใจกว่า เทอร์โบแท้รับประกันสินค้ายาวนาน

บริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม

โดยทีมงานมืออาชีพ ผู้มีประสบการณ์มากกว่า 24 ปี”

สั่งอะไหล่กับเรา "ออกใบกำกับภาษี" ได้

พร้อมบริการการดูแลหลังการขายตลอดอายุการใช้งาน

⚙️เข้าชมสินค้าทั้งหมดในเว็บไซต์

คลิก: www.sqdparts.com

⚙️สั่งซื้อทางเพจ

คลิก: m.me/sqdparts

⚙️สั่งซื้อผ่านไลน์

คลิก: https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=sqdparts

คลิกYoutube : https://bit.ly/3IAJstu

คลิกTiktok : https://bit.ly/3bXmLmN

คลิกInstagram : https://bit.ly/3AFxMDx

เขียนโดย sqdparts เมื่อ Tue 31 Oct, 2023
อ่านต่อ

     รถยนต์ยุคใหม่ที่ใช้ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์แบบ Push Start ถ้าหากวันหนึ่งแบตเตอรี่รีโมทเกิดหมดขึ้นมา ก็ยังมีระบบสำรองที่ช่วยให้คุณสามารถสตาร์ทเครื่องยนต์ได้ตามปกติด้วยนะ

 

     โดยปกติแล้วเมื่อแบตเตอรี่กุญแจรีโมทเริ่มอ่อน ระบบจะแสดงข้อความเตือนบนหน้าจอในรถเพื่อให้คุณรีบเปลี่ยนแบตเตอรี่โดยเร็ว แต่หากละเลยปล่อยให้แบตเตอรี่หมดเกลี้ยงแล้วล่ะก็ จะทำให้คุณไม่สามารถล็อก-ปลดล็อกประตู รวมถึงสตาร์ทเครื่องยนต์ได้ตามปกติ เนื่องจากตัวรถจะไม่สามารถสื่อสารกับกุญแจได้นั่นเอง แต่หากเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นมาจริงๆ ก็ไม่ต้องตกใจไป เพราะยังมีระบบสำรองที่ช่วยให้คุณสามารถปลดล็อกและสตาร์ทเครื่องยนต์ได้ โดยมีวิธีปฏิบัติง่ายๆ ดังนี้

 

     1. ใช้กุญแจที่ซ่อนอยู่ในตัวรีโมทเพื่อปลดล็อกรถ โดยวิธีการถอดกุญแจจะแตกต่างกันไปตามแต่ละยี่ห้อ จากนั้นใช้กุญแจไขบริเวณมือเปิดประตูเพื่อปลดล็อก ซึ่งระหว่างนี้อาจทำให้สัญญาณกันขโมยดังขึ้นได้

 

     2. ให้นำรีโมทไปแตะบริเวณปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ แล้วจึงกดสตาร์ทเครื่องยนต์ตามปกติ เครื่องยนต์จะติดขึ้น และสัญญาณกันขโมยจะดับไปเอง (ตำแหน่งสำหรับแตะกุญแจของรถบางรุ่นอาจแตกต่างกันออกไป โปรดศึกษาจากคู่มืออีกครั้ง)

     ทางที่ดีเมื่อเดินทางไปถึงจุดหมายแล้ว ควรรีบเปลี่ยนแบตเตอรี่รีโมทโดยเร็ว เพื่อป้องกันอาการ "รีโมทลืมรถ" ซึ่งจะทำให้รีโมทไม่สามารถใช้งานกับรถคันเดิมได้อีก ซึ่งแบตเตอรี่ที่ใช้กับรีโมทส่วนมากมักเป็นถ่านกระดุมที่สามารถหาซื้อได้ทั่วไป และเปลี่ยนด้วยตัวเองได้ไม่ยาก เพียงแต่ต้องเลือกขนาดให้ตรงกับของเดิมเท่านั้น

 

     เพียงเท่านี้รีโมทก็จะกลับมาใช้งานได้ตามปกติด้วยค่าใช้จ่ายไม่กี่สิบบาท ประหยัดเงินกว่าการเข้าศูนย์ที่อาจต้องเสียค่าเปลี่ยนเป็นหลักร้อยหรือหลักพันบาทก็มี

 

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com

.

.

.

.

_____________________________________

เราคือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

เทอร์โบแท้

IHI TURBO 🇯🇵

GARRETT 🇺🇸

MITSUBISHI TURBOCHARGER 🇯🇵

ซื้อกับเราได้สินค้าแท้100%

คุ้มค่ากว่า ใช้งานได้ในระยะยาว

สบายใจกว่า เทอร์โบแท้รับประกันสินค้ายาวนาน

บริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม

โดยทีมงานมืออาชีพ ผู้มีประสบการณ์มากกว่า 24 ปี”

สั่งอะไหล่กับเรา "ออกใบกำกับภาษี" ได้

พร้อมบริการการดูแลหลังการขายตลอดอายุการใช้งาน

⚙️เข้าชมสินค้าทั้งหมดในเว็บไซต์

คลิก: www.sqdparts.com

⚙️สั่งซื้อทางเพจ

คลิก: m.me/sqdparts

⚙️สั่งซื้อผ่านไลน์

คลิก: https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=sqdparts

คลิกYoutube : https://bit.ly/3IAJstu

คลิกTiktok : https://bit.ly/3bXmLmN

คลิกInstagram : https://bit.ly/3AFxMDx

เขียนโดย sqdparts เมื่อ Tue 31 Oct, 2023
อ่านต่อ

     Toyota EPU ต้นแบบกระบะไฟฟ้าขนาดกลางขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วน 100% พร้อมโครงสร้างแบบ Monocoque ถูกเผยโฉมครั้งแรกในโลกที่งาน Japan Mobility Show 2023 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

Toyota EPU เป็นต้นแบบรถกระบะขนาดกลางขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า (BEV) มาพร้อมตัวถังแบบ 4 ประตู Double Cab และโครงสร้างที่สามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่กระบะท้ายได้อย่างหลากหลายตามลักษณะการใช้งาน

 

ตัวถังของ Toyota EPU มีขนาดความยาวเพียง 5,070 มม. (Toyota Hilux Revo Double Cab มีความยาวตลอดคันอยู่ที่ 5,325 มม.) ความกว้าง 1,910 มม. ความสูง 1,710 มม. และความยาวฐานล้อ 3,350 มม. ซึ่งถือว่ามีขนาดใกล้เคียงกับ Ford Meverick ที่พัฒนาขึ้นบนพื้นฐานโครงสร้างแบบโมโนค็อกเช่นกัน พร้อมห้องโดยสารที่สามารถรองรับได้ 5 ที่นั่ง

 

โตโยต้าระบุว่าห้องโดยสารด้านหลังของ EPU ถูกออกแบบให้เชื่อมต่อกับพื้นที่กระบะท้ายเพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลาย สามารถตอบสนองการใช้งานเชิงไลฟ์สไตล์ รวมถึงการทำกิจกรรมนอกบ้านที่กำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบัน

ภายในห้องโดยสารถูกตกแต่งเน้นความทันสมัย โดดเด่นด้วยพวงมาลัยแบบ Yoke คล้ายคันบังคับของเครื่องบิน ติดตั้งหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่และจออินโฟเทนเมนท์ที่จัดวางให้เหลื่อมกัน อีกทั้งยังนำปุ่มเลือกตำแหน่งเกียร์ไปติดตั้งไว้บริเวณส่วนข้างของหน้าจออีกด้วย

 

ปัจจุบันโตโยต้ายังไม่เปิดเผยรายละเอียดทางเทคนิคของ EPU ออกมา เพียงแต่ระบุว่าจะใช้พลังงานไฟฟ้าในการขับเคลื่อน อีกทั้งยังมีการออกแบบให้มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำเป็นพิเศษเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับเลี้ยวและความสบายในการโดยสาร

ขณะเดียวกัน โตโยต้ายังได้เผยโฉม LAND CRUISER Se ที่ได้รับการพัฒนาให้เป็นรถเอสยูวีพลังงานไฟฟ้าล้วน 100% (BEV) และยังถือได้ว่าเป็นเอสยูวีตระกูล Land Cruiser รุ่นแรกที่หันไปใช้ระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบัน

 

LAND CRUISER Se ถูกพัฒนาขึ้นบนโครงสร้างแบบ Monocoque ที่โตโยต้าระบุว่าให้ประสิทธิภาพการบังคับเลี้ยวที่ยอดเยี่ยม ควบคู่ไปกับความมั่นใจขณะขับขี่บนเส้นทางทุรกันดาร ขณะที่ความเงียบของระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าจะช่วยเพิ่มความสบายแก่ผู้โดยสารทั้งการขับขี่ในเมืองและบนเส้นทางแบบ On-road

ส่วนอนาคตรถยนต์ต้นแบบทั้ง 2 รุ่นจะถูกพัฒนาต่อยอดอย่างไรต้องติดตามกันอีกครั้ง

 

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com

.

.

.

.

_____________________________________

เราคือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

เทอร์โบแท้

IHI TURBO 🇯🇵

GARRETT 🇺🇸

MITSUBISHI TURBOCHARGER 🇯🇵

ซื้อกับเราได้สินค้าแท้100%

คุ้มค่ากว่า ใช้งานได้ในระยะยาว

สบายใจกว่า เทอร์โบแท้รับประกันสินค้ายาวนาน

บริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม

โดยทีมงานมืออาชีพ ผู้มีประสบการณ์มากกว่า 24 ปี”

สั่งอะไหล่กับเรา "ออกใบกำกับภาษี" ได้

พร้อมบริการการดูแลหลังการขายตลอดอายุการใช้งาน

⚙️เข้าชมสินค้าทั้งหมดในเว็บไซต์

คลิก: www.sqdparts.com

⚙️สั่งซื้อทางเพจ

คลิก: m.me/sqdparts

⚙️สั่งซื้อผ่านไลน์

คลิก: https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=sqdparts

คลิกYoutube : https://bit.ly/3IAJstu

คลิกTiktok : https://bit.ly/3bXmLmN

คลิกInstagram : https://bit.ly/3AFxMDx

เขียนโดย sqdparts เมื่อ Mon 30 Oct, 2023
อ่านต่อ

     ปัญหาฝ้าที่กระจกรถ เรามักเจอกันอยู่บ่อยๆ ส่งผลให้ขับขี่ยากและเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุง่ายมาก เนื่องจากฝ้าที่กระจกเกิดจากอุณหภูมิภายในและภายนอกรถแตกต่างกัน หากฝั่งไหนมีอุณหภูมิสูงกว่าฝั่งนั้นก็จะเกิดฝ้า

กระจกรถเป็นฝ้า ต้องทำยังไงบ้าง?

 

อุณหภูมิแตกต่าง ก่อเกิดฝ้าบนกระจกรถ

     ฝ้าที่กระจกรถด้านนอก เกิดจากอุณหภูมิภายนอกสูงกว่าภายใน ส่วนฝ้าที่กระจกด้านในก็จะเกิดจากอุณหภูมิภายในรถสูงกว่าภายนอก หากกระจกรถเป็นฝ้า ต้องทำยังไงบ้าง? ไปดูกัน

เทคนิคการแก้ปัญหากระจกรถเป็นฝ้า ได้แก่

  • ปรับอุณหภูมิให้เหมาะสม การปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศภายในรถให้เหมาะสมและสัมพันธ์กับอากาศภายนอก โดยให้ใกล้เคียงกันหรือต่างกันไม่เกิน 1-2 องศาเซลเซียส ก็จะทำขจัดฝ้าให้หมดไปได้
  • ลดกระจกเพื่อปรับอุณหภูมิ นอกจากการปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศในรถแล้ว อย่าลืมลดกระจกลงเล็กน้อยเพื่อให้อากาศจากภายนอกไหลเวียนเข้าสู่ภายในตัวรถด้วย ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการปรับอุณหภูมิภายในและภายนอกให้สัมพันธ์กันนั่นเอง
  • เปิดที่ปัดน้ำฝน การใช้ที่ปัดน้ำฝนเพื่อทำความสะอาดกระจกหน้าและหลัง ก็เป็นการไล่ฝ้ากระจกที่เกิดจากภายนอกได้ดี แต่วิธีนี้สามารถทำความสะอาดได้เฉพาะฝ้าบริเวณกระจกหน้าและกระจกหลังเท่านั้น ส่วนฝ้าบริเวณประตูข้างให้ใช้วิธีเลื่อนกระจกลงจนสุดแล้วเลื่อนกลับขึ้นไปตามเดิมก็จะช่วยลดความหนาของฝ้าลงได้เช่นกัน
  • เปิดระบบไล่ฝ้า เมื่อเกิดฝ้ากระจกขึ้นมาเมื่อไร ให้เรากดเปิดระบบไล่ฝ้าได้เลย โดยเฉพาะฝ้าที่เกิดบริเวณกระจกหลัง เพราะความร้อนที่ระบบปล่อยออกมาตามเส้นลวดที่กระจกหลังของรถจะช่วยลดฝ้าที่เกิดขึ้นได้
  • เปิดโหมดรับอากาศจากภายนอก เครื่องปรับอากาศในรถสามารถปรับไปที่โหมดรับอากาศจากภายนอกเข้าสู่ตัวรถได้ หากเกิดปัญหาฝ้ากระจกขึ้นมาเมื่อไรให้ใช้โหมดนี้เพื่อปรับอุณหภูมิให้เหมาะสม

 

ขอบคุณข้อมูลจาก autospinn.com

.

.

.

.

_____________________________________

เราคือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

เทอร์โบแท้

IHI TURBO 🇯🇵

GARRETT 🇺🇸

ซื้อกับเราได้สินค้าแท้100%

คุ้มค่ากว่า ใช้งานได้ในระยะยาว

สบายใจกว่า เทอร์โบแท้รับประกันสินค้ายาวนาน

บริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม

โดยทีมงานมืออาชีพ ผู้มีประสบการณ์มากกว่า 24 ปี”

สั่งอะไหล่กับเรา "ออกใบกำกับภาษี" ได้

พร้อมบริการการดูแลหลังการขายตลอดอายุการใช้งาน

⚙️เข้าชมสินค้าทั้งหมดในเว็บไซต์

คลิก: www.sqdparts.com

⚙️สั่งซื้อทางเพจ

คลิก: m.me/sqdparts

⚙️สั่งซื้อผ่านไลน์

คลิก: https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=sqdparts

คลิกYoutube : https://bit.ly/3IAJstu

คลิกTiktok : https://bit.ly/3bXmLmN

คลิกInstagram : https://bit.ly/3AFxMDx

เขียนโดย sqdparts เมื่อ Sat 28 Oct, 2023
อ่านต่อ

     แน่นอนว่าสังคมไทยคนส่วนใหญ่จะนับถือศาสนาพุทธกันเกือบ 70% ซึ่งตามความเชื่อของศาสนาพุทธ พระพุทธรูปคือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นเสมือนตัวแทนของพระพุทธองค์ ซึ่งจะช่วยปกปักษ์คุ้มครองให้แคล้วคลาดปลอดภัย ดังนั้นในรถยนต์ส่วนใหญ่ก็จะมีการอัญเชิญพระพุทธรูปไปตั้งไว้เพื่อกราบไหว้บูชา คำถามต่อมา.. แล้วตั้งตรงไหนถึงจะดีล่ะ?

 

วางพระหน้ารถให้ถูกวิธี เสริมสิริมงคล

     เพื่อความเป็นสิริมงคลและความสบายใจตลอดการเดินทาง เจ้าของรถส่วนใหญ่มักจะตั้งพระพุทธรูปองค์เล็กๆ ไว้ที่ตำแหน่งหน้ารถ รวมถึงเครื่องรางของขลังตามแต่ศรัทธาไว้ในมุมต่างๆ ซึ่งตำแหน่งของการวางก็จะมีหลักการที่แตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับประเภทของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นหากจัดวางไม่ถูกต้องก็อาจจะไม่สามารถเห็นถึงประสิทธิ์ผลอย่างชัดเจน 100% ได้

การวางพระหน้ารถที่ถูกวิธีควรวางอย่างไร?

     สิ่งที่หลายคนกำลังสงสัยว่าพระหน้ารถควรหันหน้าเข้าหรือออกถึงจะดีที่สุด คำตอบคือ หันไปในทิศทางเดียวกับคนขับ เพราะความสำคัญของการหันหน้าไปทิศทางเดียวกับคนขับ เชื่อว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะคอยนำทางและคุ้มครองตลอดการเดินทาง อีกทั้งยังเป็นตำแหน่งที่คอยเตือนใจและเตือนสติให้กับคนขับได้เป็นอย่างดี ให้มีสมาธิจดจ่ออยู่กับถนนหนทางอยู่เสมอ พระตั้งหน้ารถในตำแหน่งนี้ เชื่อว่ายังช่วยเป็นพลังงานในเชิงบวก และส่งเสริมความปลอดภัยตลอดการเดินทางอีกด้วย

 

พระตั้งหน้ารถนิยมวางตรงไหนบ้าง?

     ส่วนใหญ่พระตั้งหน้ารถนิยมวางตรงบริเวณแผงคอนโซลหน้ารถ และแขวนหรือติดไว้ที่กระจกมองหลัง บางคนอาจติดไว้ที่กุญแจรถ ซึ่งไม่มีวิธีไหนถูกหรือผิดขึ้นอยู่กับความเชื่อและความสะดวกในการขับรถของแต่ละคนเป็นหลัก ซึ่งการวางพระในตำแหน่งเหล่านั้น มีข้อดีดังนี้

  • ทำให้มองเห็นได้ง่าย เพราะการวางพระพุทธรูปไว้บนแผงคอนโซลหน้ารถ ช่วยให้ผู้ขับขี่มองเห็นพระพุทธรูปได้ง่ายที่สุด และกระจกมองหลังก็เป็นตำแหน่งที่คนขับต้องมองอยู่เป็นประจำขณะขับรถ จึงเป็นอีกหนึ่งตำแหน่งที่นิยมติดหรือแขวนพระพุทธรูปไว้ ซึ่งจะช่วยเป็นเครื่องเตือนใจและเรียกสติผู้ขับขี่ได้ตลอดเวลา โดยไม่สูญเสียสมาธิขณะขับรถ

 

  • ทำให้บรรยากาศภายในรถดูสงบ เพราะการมีพระพุทธรูปภายในรถไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งใดก็ตาม ช่วยสร้างบรรยากาศโดยรวมให้ดูสงบ ช่วยผ่อนคลายหรือลดความเครียดจากการใช้รถใช้ถนนได้เป็นอย่างดี ส่งผลดีต่อทั้งผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร และผู้ใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆ ด้วย

 

การวางพระหน้ารถที่ถูกวิธี ปลอดภัยตลอดการเดินทาง

  • เช็กให้ดีว่าพระตั้งหน้ารถติดไว้อย่างแน่นหนาแล้ว สำหรับพระตั้งหน้ารถในตำแหน่งแผงคอนโซลหน้ารถ จำเป็นต้องเช็กให้ดีและเช็กอยู่ตลอดว่าได้ติดไว้อย่างแน่นหนาแล้ว และควรเลือกตำแหน่งการวางที่เหมาะสม เพื่อไม่ให้เกิดการขยับหรือหลุดออกจากแผงคอนโซล ซึ่งนอกจากจะทำให้เสียสมาธิแล้ว อาจส่งผลต่อความปลอดภัยขณะขับรถ หรืออาจทำให้พระพุทธรูปองค์นั้นได้รับความเสียหายได้

  • ไม่บังทัศนวิสัยของคนขับ ไม่ว่าจะในตำแหน่งแผงคอนโซลหน้ารถหรือกระจกมองหลัง การวางหรือติดพระพุทธรูปจะต้องไม่กีดขวางการมองเห็นถนนหนทาง หรือสภาพแวดล้อมบนท้องถนน ดังนั้น เมื่อนำพระมาวางหรือติดภายในรถเรียบร้อยแล้ว ตรวจสอบให้แน่ใจก่อนขับขี่ว่าจะไม่เป็นอุปสรรคในการมองเห็น ไปจนถึงเรื่องของจำนวนที่ควรมีแต่พอดีก็เพียงพอแล้ว

  • ดูแลรักษาความสะอาดอยู่เสมอ การดูแลทำความสะอาดพระตั้งหน้ารถหรือเครื่องรางของขลังเหล่านั้นให้สะอาดและอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมอยู่เสมอ ถือเป็นการแสดงความเคารพนับถืออย่างหนึ่ง อีกทั้งเพื่อไม่ให้เป็นแหล่งสะสมของฝุ่นหรือสิ่งสกปรก ซึ่งอาจส่งผลต่อสภาพอากาศภายในรถ จนอาจทำให้รู้สึกอึดอัดหรือหายใจไม่สะดวกได้

 

ขอบคุณข้อมูลจาก autospinn.com

.

.

.

.

_____________________________________

เราคือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

เทอร์โบแท้

IHI TURBO 🇯🇵

GARRETT 🇺🇸

ซื้อกับเราได้สินค้าแท้100%

คุ้มค่ากว่า ใช้งานได้ในระยะยาว

สบายใจกว่า เทอร์โบแท้รับประกันสินค้ายาวนาน

บริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม

โดยทีมงานมืออาชีพ ผู้มีประสบการณ์มากกว่า 24 ปี”

สั่งอะไหล่กับเรา "ออกใบกำกับภาษี" ได้

พร้อมบริการการดูแลหลังการขายตลอดอายุการใช้งาน

⚙️เข้าชมสินค้าทั้งหมดในเว็บไซต์

คลิก: www.sqdparts.com

⚙️สั่งซื้อทางเพจ

คลิก: m.me/sqdparts

⚙️สั่งซื้อผ่านไลน์

คลิก: https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=sqdparts

คลิกYoutube : https://bit.ly/3IAJstu

คลิกTiktok : https://bit.ly/3bXmLmN

คลิกInstagram : https://bit.ly/3AFxMDx

เขียนโดย sqdparts เมื่อ Sat 28 Oct, 2023
อ่านต่อ

     ห้างสรรพสินค้าเป็นแหล่งรวมร้านค้าขายปลีกขนาดใหญ่ แน่นอนว่าต้องมีลานจอดรถไว้บริการลูกค้าเพื่อความสะดวก แต่ถ้ารถหายในห้าง ใครต้องรับผิดชอบ มาดูกันว่ากรณีไหนที่ห้างต้องรับผิดชอบค่าเสียหาย

 

รถหายในห้าง ห้างต้องรับผิดชอบหรือไม่

     ไม่ว่าห้างสรรพสินค้าแห่งนั้นจะมีบัตรจอดรถแจกให้กับลูกค้าหรือไม่ คิดค่าบริการในการจอดหรือจอดฟรี หากรถหายในห้าง ทางห้างต้องจ่ายสินไหมทดเเทน (เงินชดเชย กรณีรถหาย) ให้กับลูกค้าที่นำรถเข้ามาจอด

 

     นั่นหมายความว่า ทุกครั้งเวลาที่ลูกค้าขับขี่รถมาห้างสรรพสินค้า เพื่อซื้อสินค้าหรือทานอาหารควรเก็บใบเสร็จหลังชำระสินค้าหรือบริการไว้เป็นหลักฐานด้วยทุกครั้ง เพราะหากรถหายจะได้นำสลิปใบเสร็จมายืนยันได้ว่าคุณคือลูกค้าของห้าง สามารถเก็บสลิปใบเสร็จไว้ยืนยันเป็นหลักฐานฟ้องร้องศาลได้

จอดรถในห้างแต่ไม่ได้ซื้อของ รถหายในห้าง ห้างต้องรับผิดชอบไหม

     บางรายแค่นำรถเข้ามาจอดในห้างสรรพสินค้าโดยที่ไม่ได้ซื้ออะไร หรือแค่นำรถมาจอดทิ้งไว้เเล้วเดินทางไปทำธุระที่อื่นต่อ หากรถหายในห้าง เคสนี้ทางห้างสรรพสินค้าไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบใดๆ เพราะถือว่าเจ้าของรถคันดังกล่าวไม่ได้เป็นลูกค้าที่มาใช้บริการกับทางห้าง แค่นำรถมาจอดทิ้งไว้ ทางห้างไม่ได้รับประโยชน์ใดๆ กับการมาจอดรถ

คำพิพากษาศาลฎีกา กรณีรถหายในห้าง

     ข่าวรถหายมีออกมาบ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ หรือรถมอเตอร์ไซค์ โดยสถานที่ที่รถหาย หนึ่งในนั้น คือ ลานจอดรถในห้างสรรพสินค้า หากรถหายในห้าง ห้างต้องรับผิดชอบหรือไม่ ศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาในหลายๆ คดี ในที่นี้ ขอยกตัวอย่าง คำพิพากษาฎีกาที่ 743/2561

คำพิพากษาฎีกาที่ 743/2561 (จำเลยคือห้างสรรพสินค้า)

คำพิพากษา ระบุความตอนหนึ่งว่า

"การจัดให้มีลานจอดรถสำหรับเป็นที่จอดรถของลูกค้าหรือผู้มาใช้บริการห้างสรรพสินค้าของจำเลยเป็นปัจจัยหนึ่งเพื่อจูงใจให้ลูกค้ามาซื้อสินค้าหรือใช้บริการ จึงเป็นการให้บริการอย่างหนึ่งของจำเลยแก่ลูกค้า จำเลยย่อมต้องมีหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยแก่ทรัพย์สินของลูกค้า ซึ่งรวมถึงรถยนต์ของลูกค้าที่นำมาจอดบริเวณลานจอดรถของห้างสรรพสินค้าจำเลยด้วย

 

แม้จำเลยยินยอมให้บุคคลทั่วไปนำรถยนต์มาจอดที่ลานจอดรถก็ไม่ทำให้จำเลยหลุดพ้นจากหน้าที่ที่จะต้องให้การดูแลรักษาความปลอดภัยแก่ทรัพย์สินของลูกค้า จำเลยจึงมีหน้าที่ที่ต้องดูแลรถกระบะที่ลูกค้าของจำเลยนำมาจอดในลานจอดรถของห้างสรรพสินค้าจำเลย ห้างสรรพสินค้าจำเลยใช้มาตรการในการดูแลรักษาความปลอดภัยให้แก่รถยนต์ของลูกค้าโดยมีพนักงานคอยตรวจสอบดูแลรถยนต์ในขณะที่เข้าหรือออกจากลานจอดรถของห้างสรรพสินค้าจำเลย หากไม่มีบัตรที่มอบให้ในขณะที่นำรถยนต์เข้ามาจอดก็ไม่สามารถนำรถยนต์ออกไปจากลานจอดรถของห้างสรรพสินค้าจำเลยได้ อันเป็นมาตรการในการตรวจสอบที่ค่อนข้างจะรัดกุม

 

แต่จำเลยกลับยกเลิกไปและนำกล้องวงจรปิดมาติดตั้งไว้บริเวณทางเข้าออกลานจอดรถแทนและติดป้ายเตือนไว้ที่ลานจอดรถของห้างสรรพสินค้าจำเลยว่า ลูกค้าต้องดูแลทรัพย์สินของตนเองเท่ากับจำเลยงดเว้นหน้าที่ที่จะต้องดูแลรถยนต์ของลูกค้าโดยลูกค้าต้องเสี่ยงภัยเอง ทั้งการติดตั้งกล้องวงจรปิดเป็นเพียงอุปกรณ์บันทึกภาพรถยนต์เข้าออกไม่สามารถป้องกันการโจรกรรมได้ นับว่าเป็นมาตรการที่ไม่เพียงพอที่จะดูแลรักษาความปลอดภัยให้แก่รถยนต์ของลูกค้า

 

การที่รถกระบะที่ อ. ขับมาจอดที่ลานจอดรถของจำเลยสูญหายไปจึงเกิดจากการงดเว้นในการปฏิบัติหน้าที่ อันเป็นความประมาทเลินเล่อของจำเลย จำเลยต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนในการที่รถหายไป"

สรุป รถหายในห้าง ใครต้องรับผิดชอบ?

     หากคุณเข้าไปใช้บริการ หรือซื้อสินค้าในห้างสรรพสินค้า และนำรถยนต์ส่วนตัวมาจอดที่ลานจอดรถ ห้างต้องให้ความปลอดภัยต่อลูกค้ารวมถึงทรัพย์สินของลูกค้า ซึ่งก็หมายถึงรถยนต์ที่ลูกค้านำมาจอดที่ลาดจอดรถด้วยเช่นกัน หากเกิดการสูญหายของรถ ทางห้างต้องจ่ายสินไหมทดเเทนหรือเงินชดเชยให้กับลูกค้าที่นำรถเข้ามาจอด อย่างไรก็ตาม หากเกิดการฟ้องร้องจากกรณีรถหายในห้าง ศาลต้องดูข้อเท็จจริงในการเข้าใช้พื้นที่เพื่อจอดรถของเจ้าของรถประกอบกันด้วย

รถหายในห้าง ทำไงดี?

  1. โทรแจ้งตำรวจ ผ่านสายด่วนรถหาย เบอร์ 1192
  2. แจ้งความที่สถานีตำรวจ เพื่อลงบันทึกประจำวันเอาไว้ พร้อมหลักฐานเป็นทะเบียนรถที่สูญหาย
  3. แจ้งบริษัทประกันภัยและไฟแนนซ์
  4. ติดต่อบริษัทประกันรถยนต์เพื่อรับเรื่องจ่ายค่าสินไหมทดแทน ในกรณีที่เรามีการทำประกันรถยนต์ไว้ ทางบริษัทประกันภัยรถยนต์จะได้ส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบที่จุดเกิดเหตุ จากนั้นเมื่อตรวจสอบแล้วว่าเกิดเหตุขึ้นจริงทางบริษัทประกันก็จะทำเรื่องจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้
  5. ติดต่อบริษัทไฟแนนซ์ที่ทำเรื่องผ่อนรถด้วยเพื่อแจ้งเรื่องรถหาย จะไม่ต้องชำระค่างวดต่อ แต่ต้องรับผิดชอบในส่วนของเบี้ยปรับและค่าธรรมเนียมต่างๆ ตามข้อกำหนดในสัญญาเช่าซื้อ

กรณีรถหายในห้าง โรงเเรม รีสอร์ท เจ้าของรถต้องฟ้องภายในระยะเวลา 1 ปี นับจากวันที่รถหาย นอกเหนือจากนั้นจะถือว่าอายุความขาด เเละที่ขาดไม่ได้ ลูกค้าหรือเจ้าของรถจะต้องมีสลิปค่าใช้จ่าย ณ สถานที่นั่นเก็บไว้เป็นหลักฐานทุกครั้ง

รถหายในห้าง ประกันคุ้มครองหรือไม่

     รถหายเป็นเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่สามารถเคลมประกันได้ โดยประกันที่คุ้มครองรถหายจะเป็นประกันรถยนต์ชั้น 1 และประกันรถยนต์ชั้น 2 พลัส ขึ้นอยู่กับว่าทางกรมธรรม์ของแต่ละบริษัทว่า จะให้เงินค่าชดเชยเท่าไหร่

 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก autospinn.com

.

.

.

.

_____________________________________

เราคือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

เทอร์โบแท้

IHI TURBO 🇯🇵

GARRETT 🇺🇸

ซื้อกับเราได้สินค้าแท้100%

คุ้มค่ากว่า ใช้งานได้ในระยะยาว

สบายใจกว่า เทอร์โบแท้รับประกันสินค้ายาวนาน

บริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม

โดยทีมงานมืออาชีพ ผู้มีประสบการณ์มากกว่า 24 ปี”

สั่งอะไหล่กับเรา "ออกใบกำกับภาษี" ได้

พร้อมบริการการดูแลหลังการขายตลอดอายุการใช้งาน

⚙️เข้าชมสินค้าทั้งหมดในเว็บไซต์

คลิก: www.sqdparts.com

⚙️สั่งซื้อทางเพจ

คลิก: m.me/sqdparts

⚙️สั่งซื้อผ่านไลน์

คลิก: https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=sqdparts

คลิกYoutube : https://bit.ly/3IAJstu

คลิกTiktok : https://bit.ly/3bXmLmN

คลิกInstagram : https://bit.ly/3AFxMDx

เขียนโดย sqdparts เมื่อ Sat 28 Oct, 2023
อ่านต่อ
แสดง รายการ
ร้านค้าออนไลน์ และ ขายของออนไลน์ โดย © 2006-2024 Vevo Systems Co., Ltd.