×
ผลการค้นหา : รถไฟฟ้า
แสดง รายการ

     ทุกวันนี้รถยนต์ที่คุณใช้งานไม่ว่าจะเป็นรถปกติ, รถไฮบริต และ รถไฟฟ้า จะต้องมีระบบระบายความร้อนด้วยน้ำที่คุณต้องดูน้ำพักหม้อน้ำเพื่อดูว่าระดับยังปกติไหม และถ้าใช้งานอยู่ดีๆ น้ำลดลงไปการหามาเติมด้วยความที่มีหลายแบบหลายสีไปหมด คุณอาจจะเผลอเอาน้ำสีอื่นมาเติมหวังว่าจะผสมเพื่อเกินสีใหม่ แต่รู้หรือไม่สิ่งเหล่านี้ที่ทำอาจจะทำให้รถของคุณพังเร็ว วันนี้ เราจะมาเฉลยว่าน้ำหม้อน้ำแต่ละสีทำอะไร และบอกว่าถ้าเติมผิดจะเกิดอะไรขึ้นรวมถึงการเติมให้ถูกต้องทำอย่างไร

สีของน้ำยาหล่อเย็น บอกอะไรเรา?

ในอดีต สีของน้ำยาหล่อเย็นเคยใช้เป็นตัวบ่งชี้เทคโนโลยีและสารเคมีที่ใช้ แต่ในปัจจุบัน สีไม่ใช่มาตรฐานสากลอีกต่อไป ผู้ผลิตแต่ละรายอาจใช้สีที่แตกต่างกันไปในเทคโนโลยีเดียวกันได้ อย่างไรก็ตาม เรายังสามารถใช้สีเป็นแนวทางเบื้องต้นในการแบ่งกลุ่มเทคโนโลยีหลักๆ ได้ดังนี้

  • สีเขียว (Green): เป็นสีของน้ำยาหล่อเย็นยุคดั้งเดิม มักใช้เทคโนโลยี IAT (Inorganic Additive Technology) ซึ่งมีส่วนผสมของสารอนินทรีย์ เช่น ซิลิเกต (Silicate) และฟอสเฟต (Phosphate) ในการเคลือบเพื่อป้องกันการกัดกร่อน มีอายุการใช้งานสั้นที่สุด คือประมาณ 2 ปี หรือ 40,000 กิโลเมตร เหมาะสำหรับรถยนต์รุ่นเก่าๆ
  • สีชมพู หรือ สีแดง (Pink / Red): เป็นสีที่นิยมใช้ในน้ำยาหล่อเย็นยุคใหม่ที่ใช้เทคโนโลยี OAT (Organic Acid Technology) ซึ่งใช้กรดอินทรีย์เป็นสารยับยั้งการกัดกร่อน ไม่มีส่วนผสมของซิลิเกตและฟอสเฟต ทำให้มีอายุการใช้งานยาวนานมาก (Long Life Coolant) ตั้งแต่ 5 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตรขึ้นไป มักพบในรถยนต์รุ่นใหม่ๆ จากค่ายญี่ปุ่น (เช่น Toyota, Honda) และค่ายอเมริกัน (GM)
  • สีฟ้า สีส้ม หรือ สีเหลือง (Blue / Orange / Yellow): มักเป็นกลุ่มเทคโนโลยี HOAT (Hybrid Organic Acid Technology) ซึ่งเป็นการผสมผสานข้อดีของแบบ IAT และ OAT เข้าด้วยกัน โดยใช้กรดอินทรีย์ร่วมกับสารอนินทรีย์ (เช่น ซิลิเกต) เพื่อให้การป้องกันที่รวดเร็วและมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน มักใช้ในรถยนต์ค่ายยุโรป (เช่น BMW, Mercedes-Benz) และค่ายอเมริกันบางรุ่น (เช่น Ford, Chrysler)

เติมน้ำหม้อผิดสีจะเกิดอะไรขึ้น

หากรู้เรื่องน้ำหม้อน้ำแล้ว แต่ยังฝืนที่จะเต็มผิด เช่นเทคโนโลยีต่างกัน (เช่น เอาสีเขียว IAT ไปผสมกับสีชมพู OAT) สารเคมีที่อยู่ในน้ำยาทั้งสองชนิดจะทำปฏิกิริยาต่อต้านกันเอง ซึ่งจะนำไปสู่ผลลัพธ์เลวร้ายดังนี้

กลายเป็นวุ้นหรือเจล

เรื่่องแรกคือปัญหาที่พบบ่อยที่สุด สารยับยั้งการกัดกร่อนที่ไม่เข้ากันจะทำปฏิกิริยากันและจับตัวเป็นก้อนหนาคล้ายวุ้นหรือเจลเหนียวๆ

เกิดการอุดตัน

หากเติมผิดมักจะมีสิ่งที่สังเกตได้คือ การเกิด วุ้น เจล หรือตะกอนที่เกิดขึ้น จะลอยไปอุดตันตามส่วนต่างๆ ของระบบระบายความร้อน โดยเฉพาะในช่องทางที่แคบ เช่น รังผึ้งหม้อน้ำ (Radiator Core), ท่อทางเดินน้ำ และ ฮีทเตอร์คอร์ (Heater Core) ที่ใช้ทำความร้อนในห้องโดยสาร

ประสิทธิภาพการระบายความร้อนลดลงอย่างรุนแรง

เมื่อระบบอุดตัน น้ำยาหล่อเย็นจะไม่สามารถไหลเวียนเพื่อนำความร้อนออกจากเครื่องยนต์ได้สะดวก ทำให้ เครื่องยนต์ร้อนจัด (Overheating) ซึ่งเป็นอันตรายอย่างยิ่ง

สูญเสียคุณสมบัติป้องกันสนิม

ปฏิกิริยาเคมีจะทำให้สารป้องกันการกัดกร่อนในน้ำยาทั้งสองชนิดเสื่อมสภาพลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ชิ้นส่วนโลหะภายในเครื่องยนต์และหม้อน้ำที่สัมผัสกับน้ำโดยตรง เกิดสนิมและการกัดกร่อนได้ง่ายขึ้น

ชิ้นส่วนสำคัญเสียหาย

  • ปั๊มน้ำ ตะกอนแข็งที่เกิดขึ้นอาจไปทำลายซีลของปั๊มน้ำ ทำให้เกิดการรั่วซึมและปั๊มน้ำพังได้
  • เครื่องยนต์ หากปล่อยให้เครื่องยนต์ร้อนจัดเป็นเวลานาน อาจทำให้เกิดความเสียหายร้ายแรง เช่น ปะเก็นฝาสูบแตก หรือฝาสูบโก่ง ซึ่งมีค่าใช้จ่ายในการซ่อมสูงมาก

ดังนั้นหากเติมผิดถ้ารถยังไม่ติดเครื่องควรถ่ายออก แต่ถ้าเติมออกจากอู่และไม่ได้เช็ค ก่อนออกจากอู่ควรหยุดรถเช็คก่อนว่าน้ำหม้อน้ำผิดปกติหรือไม่ แนะนำให้ถ่ายภาพก่อนที่จะเปลี่ยนสีของน้ำหม้อน้ำเดิมไว้ก่อนดีกว่า

การเติมน้ำหม้อน้ำให้ถูกต้องทำอย่างไร

หากรถของคุณยังอยู่ในระยะประกันหรือสายเข้าศูนย์ตลอดเวลาเรื่องนี้อาจจะไม่ต้องคิดอะไร แต่ถ้าคนที่ไม่อยากเข้าศูนย์เพราะประหยัดเงิน จะต้องทำสิ่งต่างๆ ดังนี้

  • เปิดคู่มือประจำรถ ถือเป็นวิธีที่ดีและแม่นยำที่สุด ในคู่มือจะระบุชนิดหรือมาตรฐาน (Specification) ของน้ำยาหล่อเย็นที่ผู้ผลิตรถยนต์แนะนำไว้อย่างชัดเจน เช่น "Use Toyota Super Long Life Coolant" หรือ "Meets GM Dex-Cool specifications"
  • ดูที่ฉลากผลิตภัณฑ์ เมื่อไปเลือกซื้อ อย่าดูแค่สี! ให้อ่านฉลากข้างขวดอย่างละเอียด มองหาว่าน้ำยาหล่อเย็นนั้นเป็นประเภท IAT, OAT หรือ HOAT และผ่านการรับรองมาตรฐานสำหรับรถยนต์ยี่ห้อใดบ้าง
  • ใช้ของเดิมเป็นเกณฑ์ หากไม่แน่ใจ และน้ำยาหล่อเย็นในรถยังเป็นของเดิมจากโรงงาน ให้ใช้สีเดิมเป็นแนวทางเบื้องต้น แล้วหาซื้อน้ำยาหล่อเย็นที่มี "เทคโนโลยี" เดียวกัน (ซึ่งมักจะเป็นสีเดียวกันสำหรับยี่ห้อนั้นๆ)
  • ปรึกษาศูนย์บริการหรือช่างผู้ชำนาญ หากยังไม่มั่นใจ การสอบถามจากศูนย์บริการของรถยนต์ยี่ห้อนั้นๆ หรืออู่ซ่อมรถที่ไว้ใจได้ คือทางออกที่ปลอดภัยที่สุด

โดยสรุปแล้วการเลือกน้ำยาหล่อเย็นที่ถูกต้อง ควรให้ความสำคัญกับ "เทคโนโลยี (IAT, OAT, HOAT)" และ "มาตรฐานที่ผู้ผลิตรถยนต์แนะนำ" เป็นหลัก โดยใช้สีเป็นเพียงแนวทางเบื้องต้น การดูแลรักษาระบบหล่อเย็นอย่างถูกวิธีจะช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ ป้องกันปัญหารถความร้อนขึ้น และช่วยให้คุณขับขี่ได้อย่างมั่นใจและปลอดภัย

 

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com

.

.

.

.

_____________________________________

เราคือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

เทอร์โบแท้

IHI TURBO 🇯🇵

GARRETT 🇺🇸

MITSUBISHI TURBOCHARGER 🇯🇵

ซื้อกับเราได้สินค้าแท้100%

คุ้มค่ากว่า ใช้งานได้ในระยะยาว

สบายใจกว่า เทอร์โบแท้รับประกันสินค้ายาวนาน

บริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม

โดยทีมงานมืออาชีพ ผู้มีประสบการณ์มากกว่า 24 ปี”

สั่งอะไหล่กับเรา "ออกใบกำกับภาษี" ได้

พร้อมบริการการดูแลหลังการขายตลอดอายุการใช้งาน

⚙️เข้าชมสินค้าทั้งหมดในเว็บไซต์

คลิก: www.sqdparts.com

⚙️สั่งซื้อทางเพจ

คลิก: m.me/sqdparts

⚙️สั่งซื้อผ่านไลน์

คลิก: https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=sqdparts

คลิกYoutube : https://bit.ly/3IAJstu

คลิกTiktok : https://bit.ly/3bXmLmN

คลิกInstagram : https://bit.ly/3AFxMDx

เขียนโดย sqdparts เมื่อ Wed 13 Aug, 2025
อ่านต่อ

     กทพ. ยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษ 3 สายทาง รวมทั้งสิ้น 61 ด่าน เนื่องในวันมาฆบูชา 12 กุมภาพันธ์ 2568 รวมทั้งสิ้น 1 วัน

 

การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ประกาศยกเว้นเก็บค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษ ในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2568 รวม 3 สายทาง ตั้งแต่เวลา 00.01 น. ถึง 24.00 น. จำนวน 1 วัน เนื่องในวันมาฆบูชา ดังนี้

 

  • ทางพิเศษเฉลิมมหานคร (ทางด่วนขั้นที่ 1) จำนวน 20 ด่าน
  • ทางพิเศษศรีรัช (ทางด่วนขั้นที่ 2) จำนวน 31 ด่าน
  • ทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 10 ด่าน

การเว้นค่าผ่านทางดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงคมนาคมที่ปรากฏในสัญญาสัมปทานฉบับแก้ไขใหม่ระหว่าง กทพ. บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BEM) และบริษัททางด่วนกรุงเทพเหนือ จำกัด (NECL) เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางช่วงวันหยุดและช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน

 

     ทั้งนี้ กทพ. ขอความร่วมมือผู้ใช้ทางพิเศษ โปรดชะลอความเร็วเมื่อผ่านด่านฯ​ ที่ยกเว้นค่าผ่านทาง

 

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com

.

.

.

.

_____________________________________

เราคือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

เทอร์โบแท้

IHI TURBO 🇯🇵

GARRETT 🇺🇸

MITSUBISHI TURBOCHARGER 🇯🇵

ซื้อกับเราได้สินค้าแท้100%

คุ้มค่ากว่า ใช้งานได้ในระยะยาว

สบายใจกว่า เทอร์โบแท้รับประกันสินค้ายาวนาน

บริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม

โดยทีมงานมืออาชีพ ผู้มีประสบการณ์มากกว่า 24 ปี”

สั่งอะไหล่กับเรา "ออกใบกำกับภาษี" ได้

พร้อมบริการการดูแลหลังการขายตลอดอายุการใช้งาน

⚙️เข้าชมสินค้าทั้งหมดในเว็บไซต์

คลิก: www.sqdparts.com

⚙️สั่งซื้อทางเพจ

คลิก: m.me/sqdparts

⚙️สั่งซื้อผ่านไลน์

คลิก: https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=sqdparts

คลิกYoutube : https://bit.ly/3IAJstu

คลิกTiktok : https://bit.ly/3bXmLmN

คลิกInstagram : https://bit.ly/3AFxMDx

เขียนโดย sqdparts เมื่อ Tue 11 Feb, 2025
อ่านต่อ

     กทพ. เว้นค่าผ่านทางพิเศษ 5 สายทางช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 พร้อมขยายระยะเวลาส่วนลดค่าผ่านทางด่านอาจณรงค์ 1 (บางนา) จำนวน 25 บาท ต่ออีก 1 ปี

 

การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กระทรวงคมนาคม มอบของขวัญปีใหม่ประชาชน ตามนโยบายของรัฐบาล และกระทรวงคมนาคม ยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษ 8 วัน ดังนี้

  • ทางพิเศษบูรพาวิถี
  • ทางพิเศษกาญจนาภิเษก

เริ่มตั้งแต่เวลา 00.01 น. ของวันพฤหัสบดีที่ 26 ธันวาคม 2567 ถึงเวลา 24.00 น. ของวันพฤหัสบดีที่ 2 มกราคม 2568 รวมทั้งสิ้น 8 วัน

 

กทพ. ร่วมกับ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ทางด่วนกรุงเทพเหนือ จำกัด ยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษ 2 วัน ดังนี้

  • ทางพิเศษเฉลิมมหานคร
  • ทางพิเศษศรีรัช
  • ทางพิเศษอุดรรัถยา

เริ่มตั้งแต่เวลา 00.01 น. ของวันอังคารที่ 31 ธันวาคม 2567 ถึงเวลา 24.00 น. ของวันพุธที่ 1 มกราคม 2568 รวมทั้งสิ้น 2 วัน

 

     นอกจากนี้ กทพ. ได้ขยายเวลาการให้ส่วนลดค่าผ่านทางพิเศษ ที่ด่านอาจณรงค์ 1 (บางนา) จำนวน 25 บาท สำหรับรถทุกประเภท ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 31 ธันวาคม 2568

 

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com

.

.

.

.

_____________________________________

เราคือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

เทอร์โบแท้

IHI TURBO 🇯🇵

GARRETT 🇺🇸

MITSUBISHI TURBOCHARGER 🇯🇵

ซื้อกับเราได้สินค้าแท้100%

คุ้มค่ากว่า ใช้งานได้ในระยะยาว

สบายใจกว่า เทอร์โบแท้รับประกันสินค้ายาวนาน

บริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม

โดยทีมงานมืออาชีพ ผู้มีประสบการณ์มากกว่า 24 ปี”

สั่งอะไหล่กับเรา "ออกใบกำกับภาษี" ได้

พร้อมบริการการดูแลหลังการขายตลอดอายุการใช้งาน

⚙️เข้าชมสินค้าทั้งหมดในเว็บไซต์

คลิก: www.sqdparts.com

⚙️สั่งซื้อทางเพจ

คลิก: m.me/sqdparts

⚙️สั่งซื้อผ่านไลน์

คลิก: https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=sqdparts

คลิกYoutube : https://bit.ly/3IAJstu

คลิกTiktok : https://bit.ly/3bXmLmN

คลิกInstagram : https://bit.ly/3AFxMDx

เขียนโดย sqdparts เมื่อ Sat 28 Dec, 2024
อ่านต่อ

     แม้ว่ารถยนต์ไฟฟ้า (BEV) จะมีมาตรฐานการป้องกันความเสียหายของแบตเตอรี่จากน้ำและฝุ่น (เช่น IP67, IP68 และอื่นๆ) แต่ปัจจุบันกลับมีข่าวรถยนต์ไฟฟ้าได้รับความเสียหายหลังลุยน้ำท่วมอยู่บ่อยครั้ง บางกรณีแค่จอดแช่น้ำท่วมขังเฉยๆ ก็ถึงขั้นพังได้แล้ว ก่อให้เกิดคำถามว่าแท้จริงแล้วนั้น รถยนต์ไฟฟ้าสามารถลุยน้ำได้หรือไม่? บทความนี้ เราจะพาไปหาคำตอบกัน

 

รถยนต์ไฟฟ้า หรือ EV ลุยน้ำได้หรือไม่?

     เชื่อว่าหลายคนคงเคยเห็นคลิปต่างประเทศ ที่รถยนต์ไฟฟ้าสามารถขับลุยน้ำลึกได้อย่างไร้ปัญหา ขณะที่รถยนต์สันดาปกลับจอดตายกันเป็นแถว แต่เมื่อตัดภาพมาที่บ้านเรากลับพบว่ารถยนต์ไฟฟ้าหลายคันเจอปัญหาไม่สามารถใช้งานได้หลังจากขับรถลุยน้ำมา หรือเพียงแค่จอดรถตากฝนไว้หน้าบ้านก็สร้างความเสียหายได้แล้ว

     โดยปกติแล้วรถยนต์สันดาปไม่ว่าจะเบนซินหรือดีเซล จำเป็นต้องใช้อากาศในการเผาไหม้ หากว่ามีน้ำเล็ดลอดเข้าไปยังห้องเผาไหม้แล้วล่ะก็ จะทำให้ระบบเผาไหม้ของเครื่องยนต์ได้รับความเสียหาย เครื่องยนต์ดับกลางอากาศ และอาจร้ายแรงถึงขั้นก้านสูบคดหรือหัก ซึ่งหลายกรณีพบว่ามีค่าใช้จ่ายสูงไม่คุ้มค่ากับการซ่อม จนถึงขั้นแนะนำให้เปลี่ยนเครื่องยนต์ใหม่ไปเลยจะดีกว่า

     ขณะที่รถยนต์ไฟฟ้าไม่มีระบบเผาไหม้เข้ามาเกี่ยวข้อง จึงสามารถขับรถลุยน้ำได้โดยไม่ทำให้รถดับ อย่างไรก็ดี การขับรถยนต์ไฟฟ้าลุยน้ำถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่ปลอดภัย และไม่แนะนำให้ปฏิบัติเว้นแต่มีความจำเป็นจริงๆ เพราะแม้ว่าชิ้นส่วนของรถยนต์ไฟฟ้า โดยเฉพาะแบตเตอรี่จะถูกซีลเป็นอย่างดี และผ่านมาตรฐานการกันน้ำอันเข้มงวด แต่การใช้งานจริงอาจแตกต่างจากการทดลองในห้องแล็บ เพราะรถยนต์ไฟฟ้ายังมีชิ้นส่วนและเซ็นเซอร์อีกมากที่อาจได้รับความเสียหายในระยะยาวได้ จึงไม่ควรขับรถไฟฟ้าลุยน้ำหากไม่จำเป็น

     ทั้งยังเป็นที่น่าสังเกตว่ารถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีน มักพับปัญหาได้มากกว่ารถยนต์ไฟฟ้าจากฝั่งอเมริกันและยุโรป จริงอยู่ที่ยอดขายรถ EV จีนสูงกว่ารถยนต์ไฟฟ้าชาติอื่นๆ หลายเท่าตัวนัก แต่ก็สร้างความน่ากังวลไม่น้อยว่าแท้จริงแล้วรถยนต์ไฟฟ้าจีนเหล่านี้ ได้รับการทดสอบอย่างครอบคลุมดีพอสำหรับการใช้งานในพื้นที่ที่มีสภาพอากาศแตกต่างไปจากประเทศบ้านเกิดอย่างประเทศไทยแล้วหรือยัง?

 

     หากกล่าวโดยสรุปแล้วรถยนต์ทุกประเภทไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าหรือรถยนต์สันดาป ไม่แนะนำให้ขับลุยน้ำเว้นแต่มีความจำเป็นจริงๆ เท่านั้น โดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้าที่มักจะเต็มไปด้วยจุดเชื่อมต่อและเซ็นเซอร์จำนวนมาก ซึ่งอาจสร้างความเสียหายได้ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

 

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com

.

.

.

.

_____________________________________

เราคือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

เทอร์โบแท้

✅IHI TURBO 🇯🇵

✅GARRETT 🇺🇸

MITSUBISHI TURBOCHARGER 🇯🇵

ซื้อกับเราได้สินค้าแท้100%

คุ้มค่ากว่า ใช้งานได้ในระยะยาว

สบายใจกว่า เทอร์โบแท้รับประกันสินค้ายาวนาน

บริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม

โดยทีมงานมืออาชีพ ผู้มีประสบการณ์มากกว่า 24 ปี”

สั่งอะไหล่กับเรา "ออกใบกำกับภาษี" ได้

พร้อมบริการการดูแลหลังการขายตลอดอายุการใช้งาน

⚙️เข้าชมสินค้าทั้งหมดในเว็บไซต์

คลิก: www.sqdparts.com

⚙️สั่งซื้อทางเพจ

คลิก: m.me/sqdparts

⚙️สั่งซื้อผ่านไลน์

คลิก: https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=sqdparts

คลิกYoutube : https://bit.ly/3IAJstu

คลิกTiktok : https://bit.ly/3bXmLmN

คลิกInstagram : https://bit.ly/3AFxMDx

เขียนโดย sqdparts เมื่อ Mon 22 Jul, 2024
อ่านต่อ

     ระยะหลังรถยนต์ไฟฟ้าเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น หนึ่งในเทรนด์ที่ตามมาติดๆ ก็คือ การเปลี่ยนยางที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับรถ EV ซึ่งมีราคาสูงกว่ายางปกติเกือบเท่าตัว แล้วสงสัยไหมว่ารถยนต์ไฟฟ้าจำเป็นต้องใช้ยางเฉพาะสำหรับ EV จริงหรือ? หรือเป็นเพียงแค่การตลาดของผู้ผลิตยางเท่านั้น บทความนี้ เราจะพาไปหาคำตอบกัน

 

ยางรถยนต์ไฟฟ้าต่างจากยางทั่วไปอย่างไร?

แม้ว่ารถยนต์ไฟฟ้าจะมีรูปลักษณ์หน้าตาแทบไม่ต่างไปจากรถยนต์สันดาป แต่คุณสมบัติเฉพาะตัวของรถยนต์ไฟฟ้าจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนยางที่ออกแบบมาสำหรับรถ EV โดยเฉพาะ เพื่อรองรับประสิทธิภาพการทำงานของตัวรถได้อย่างเหมาะสมนั่นเอง

 

1. รองรับน้ำหนักที่มากกว่า

รถยนต์ไฟฟ้ามีน้ำหนักมากกว่ารถยนต์สันดาปอย่างเห็นได้ชัด อันเป็นผลมาจากการติดตั้งชุดแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ ซึ่งอาจมีน้ำหนักตั้งแต่ 500 กก. ไปจนถึง 1 ตัน หรือมากกว่านั้น ยางที่ใช้จึงจำเป็นต้องออกแบบมาเพื่อรองรับน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น เพื่อให้สามารถขับขี่ได้อย่างปลอดภัยทุกย่านความเร็ว

 

2. รองรับแรงบิดที่สูงกว่า

รถยนต์ไฟฟ้าสามารถสร้างแรงบิดสูงสุดจากชุดมอเตอร์ได้ในเวลาเพียงเสี้ยววินาที (Instant Torque) ยางที่ใช้จึงจำเป็นต้องรองรับแรงบิดมหาศาลที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากการทำงานของรถยนต์ไฟฟ้าจะทำให้ดอกยางสึกเร็วขึ้นสูงสุดถึง 20% จึงจำเป็นต้องเติมสารประกอบพิเศษลงไปในเนื้อยาง เพื่อยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานขึ้น

 

3. ลดแรงต้านทานการหมุนได้ดีกว่า

เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้ามีความอ่อนไหวต่อปัจจัยภายนอกหลายประการ ที่อาจส่งผลต่อระยะทางขับขี่ โดยเฉพาะหลักอากาศพลศาสตร์ และแรงเสียดทานที่เกิดขึ้นจากพื้นถนน ยางรถยนต์ไฟฟ้าจึงออกแบบให้มีแรงต้านทานการหมุนต่ำ จะช่วยรักษาระยะทางขับขี่ให้ได้ตามที่ผู้ผลิตเคลมไว้

 

4. เสียงรบกวนต่ำกว่า

เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้าไม่มีกระบวนการเผาไหม้เหมือนกับรถน้ำมันทั่วไป ทำให้รถไฟฟ้ามีการทำงานที่เงียบสนิท ผู้ขับขี่และผู้โดยสารจึงมีโอกาสได้ยินเสียงรบกวนที่เกิดขึ้นได้ง่ายกว่า ดังนั้นยางรถยนต์ไฟฟ้าจึงถูกออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อลดเสียงรบกวนให้น้อยที่สุดนั่นเอง

 

     เห็นไหมครับว่ารถยนต์ไฟฟ้า (EV) มีคุณสมบัติเฉพาะตัวบางประการ จำเป็นต้องใช้ยางสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ เพื่อรีดประสิทธิภาพให้มากที่สุด และคงไว้ซึ่งความปลอดภัยสูงสุดนั่นเอง

 

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com

.

.

.

.

_____________________________________

เราคือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

เทอร์โบแท้

IHI TURBO 🇯🇵

GARRETT 🇺🇸

MITSUBISHI TURBOCHARGER 🇯🇵

ซื้อกับเราได้สินค้าแท้100%

คุ้มค่ากว่า ใช้งานได้ในระยะยาว

สบายใจกว่า เทอร์โบแท้รับประกันสินค้ายาวนาน

บริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม

โดยทีมงานมืออาชีพ ผู้มีประสบการณ์มากกว่า 24 ปี”

สั่งอะไหล่กับเรา "ออกใบกำกับภาษี" ได้

พร้อมบริการการดูแลหลังการขายตลอดอายุการใช้งาน

⚙️เข้าชมสินค้าทั้งหมดในเว็บไซต์

คลิก: www.sqdparts.com

⚙️สั่งซื้อทางเพจ

คลิก: m.me/sqdparts

⚙️สั่งซื้อผ่านไลน์

คลิก: https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=sqdparts

คลิกYoutube : https://bit.ly/3IAJstu

คลิกTiktok : https://bit.ly/3bXmLmN

คลิกInstagram : https://bit.ly/3AFxMDx

เขียนโดย sqdparts เมื่อ Mon 10 Jun, 2024
อ่านต่อ

     ฝนตกลงจากฟ้าเมื่อใด คนใช้รถก็มักต้องเผชิญกับปัญหารถติดอยู่เสมอ ยิ่งถ้าเป็นช่วงเวลาเลิกงานที่ต่างคนต่างก็รีบกลับบ้านพร้อมๆ กันแล้วล่ะก็ แทบอยากจะทิ้งรถเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟฟ้ากันเลยทีเดียว

แต่หากคุณเป็นคนหนึ่งที่เลือกหลีกเลี่ยงรถติดไม่ได้แล้วล่ะก็ เรามีวิธีผ่อนคลายเมื่อต้องอยู่บนรถนานๆ มาฝากกันครับ

 

1. ทานขนมขบเคี้ยวแก้เบื่อ

"ของอร่อยจะเยียวยาทุกอย่าง" ลองหาขนมขบเคี้ยวที่ไม่หนักท้องจนเกินไปนัก ทานเพลินๆ ขณะรถติด จะช่วยลดความเครียดลงได้เป็นอย่างดี หรือหากทราบดีอยู่แล้วว่าเส้นทางกลับบ้านเย็นนี้ติดขัดสาหัสแน่นอน จะเปลี่ยนไปทานอาหารเย็นบนรถเลยก็ได้ แต่แนะนำว่าให้เลือกอาหารที่ทานง่าย ไม่หกเลอะเทอะ จะได้ไม่เป็นอันตรายต่อการขับรถนั่นเอง

2. ฟังเพลง หรือ Podcast ที่ชอบ

เซฟเพลย์ลิสต์ที่ชอบเอาไว้ฟังตอนรถติด ปล่อยจอยไปกับเสียงเพลง หรือจะฟัง Podcast ที่อุดมไปด้วยสาระ ก็จะช่วยให้สมองได้คิดเพลินๆ แถมยังได้ความรู้เพิ่มเติมอีกต่างหาก ส่วนใครที่ชอบเรื่องสยองขวัญ เรื่องผีแล้วล่ะก็ หากดาวน์โหลดเก็บไว้ก่อนออกเดินทาง ก็ช่วยฆ่าเวลาได้ดี แถมยังไม่เปลืองเน็ตมือถืออีกด้วย

3. ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์

ช่วงเวลารถติดถือเป็นช่วงเวลาที่ดีในการจัดการกับสิ่งต่างๆ ที่คุณจะต้องรับผิดชอบในแต่ละวัน เช่น การจดหัวข้อสิ่งที่คุณจะต้องทำในวันพรุ่งนี้ หรือสิ่งที่คุณกำลังทำค้างไว้อยู่ นอกจากจะช่วยให้สมองได้คิดอะไรเพลินๆ แล้วนั้น ยังช่วยให้คุณสามารถบริหารจัดการกับสิ่งรอบตัวได้ดียิ่งขึ้นด้วย

4. หาเพื่อนร่วมทางไปด้วย

จะดีแค่ไหนหากมีเพื่อนที่รู้ใจนั่งรถเมาท์มอยไปด้วยกัน ลองชวนเพื่อนที่อยู่ในเส้นทางผ่านกลับบ้านด้วยกัน พูดคุยเรื่องต่างๆ ด้วยกันเพลินๆ รับรองว่าจะช่วยแก้เบื่อได้ดีทีเดียว หรือหากเพื่อนไม่สะดวกกลับด้วยแล้วล่ะก็ จะเปลี่ยนไปคุยโทรศัพท์กับเพื่อนหรือแฟนเพื่อคลายเครียดก็ได้

5. จำไว้ว่าคุณไม่ได้รถติดคนเดียว

หากคุณรู้สึกหงุดหงิดเพราะเลือกเส้นทางผิด ทำให้ต้องนั่งทนรถติดนานนับชั่วโมงแล้วล่ะก็ ให้พึงระลึกว่าคุณไม่ได้เป็นคนเดียวที่ต้องติดแหง็กอยู่บนท้องถนน ยังมีเพื่อนร่วมทางอีกมากมายที่ต้องเผชิญชะตากรรมเดียวกันกับคุณ แถมหลายคนต้องตากฝนอยู่บนมอเตอร์ไซค์ ขณะที่คุณอยู่ในรถแอร์เย็นสบายๆ วิธีคิดแบบนี้จะช่วยให้คุณรู้สึกผ่อนคลายขึ้นได้ไม่มากก็น้อย

 

     แต่หากคุณไม่อยากเผชิญกับปัญหารถติดสาหัสโดยเฉพาะวันที่มีฝนตกแล้วล่ะก็ จะลองวางแผนล่วงหน้าเพื่อปรับเปลี่ยนเวลาในออกเดินทางก็ได้ หรือหากคุณไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเดินทางกลับถึงบ้านตั้งแต่หัวค่ำแล้วล่ะก็ จะเปลี่ยนไปเดินห้างสรรพสินค้า หรือแวะช็อปปิ้งรอจนกว่ารถจะหายติด ก็เป็นอีกทางเลือกที่ช่วยหลีกเลี่ยงความเครียดบนท้องถนนได้ดีทีเดียวครับ

 

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com

.

.

.

.

_____________________________________

เราคือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

เทอร์โบแท้

IHI TURBO 🇯🇵

GARRETT 🇺🇸

MITSUBISHI TURBOCHARGER 🇯🇵

ซื้อกับเราได้สินค้าแท้100%

คุ้มค่ากว่า ใช้งานได้ในระยะยาว

สบายใจกว่า เทอร์โบแท้รับประกันสินค้ายาวนาน

บริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม

โดยทีมงานมืออาชีพ ผู้มีประสบการณ์มากกว่า 24 ปี”

สั่งอะไหล่กับเรา "ออกใบกำกับภาษี" ได้

พร้อมบริการการดูแลหลังการขายตลอดอายุการใช้งาน

⚙️เข้าชมสินค้าทั้งหมดในเว็บไซต์

คลิก: www.sqdparts.com

⚙️สั่งซื้อทางเพจ

คลิก: m.me/sqdparts

⚙️สั่งซื้อผ่านไลน์

คลิก: https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=sqdparts

คลิกYoutube : https://bit.ly/3IAJstu

คลิกTiktok : https://bit.ly/3bXmLmN

คลิกInstagram : https://bit.ly/3AFxMDx

เขียนโดย sqdparts เมื่อ Tue 21 May, 2024
อ่านต่อ
แสดง รายการ
ร้านค้าออนไลน์ และ ขายของออนไลน์ โดย © 2006-2025 Vevo Systems Co., Ltd.