×
ผลการค้นหา : รถกระบะ
แสดง รายการ

     การขับรถท่องเที่ยวช่วงเทศกาล จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเช็กแรงดันลมยางก่อนออกเดินทางเสมอ เพราะน้ำหนักบรรทุกที่เปลี่ยนแปลงไป มีผลทำให้ค่าลมยางที่เหมาะสมเปลี่ยนไปเช่นกัน

 

ขับรถทางไกล เติมลมยางเท่าไหร่ดี?

โดยปกติแล้วเจ้าของรถควรเติมแรงดันลมยางให้ได้ตามที่ระบุไว้บนสติกเกอร์บริเวณเสาฝั่งผู้ขับขี่ โดยลมยางที่แนะนำจะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับประเภทของรถ ดังนี้

 

รถยนต์ขนาดเล็ก : 25 - 30 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว

รถยนต์ขนาดกลางและใหญ่ : 30 - 35 ปอนด์

รถกระบะ (ไม่บรรทุก) : 35 - 38 ปอนด์

รถตู้บรรทุก : 43 - 55 ปอนด์

 

อย่างไรก็ดี หากมีความจำเป็นต้องบรรทุกผู้โดยสารและสัมภาระเต็มคัน ควรเพิ่มแรงดันลมยางที่ล้อคู่หลังขึ้นอีก 2 - 5 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว (PSI) เพื่อชดเชยกับน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น จะช่วยลดโอกาสเกิดยางระเบิดขณะขับขี่ที่ความเร็วสูงได้

 

     นอกจากนี้ เจ้าของรถยังควรตรวจเช็กแรงดันลมยางอะไหล่เผื่อกรณีฉุกเฉินระหว่างทางด้วย โดยปกติแรงดันลมยางที่แนะนำคือ 40 - 50 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว เนื่องจากการเก็บยางอะไหล่ทิ้งไว้เป็นระยะเวลานาน ลมยางอาจซึมออกทีละน้อย การเติมลมยางมากกว่าปกติจะช่วยให้ยางมีแรงดันที่เหมาะสมเมื่อถึงเวลานำมาใช้งาน

 

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com

.

.

.

.

_____________________________________

เราคือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

เทอร์โบแท้

IHI TURBO 🇯🇵

GARRETT 🇺🇸

MITSUBISHI TURBOCHARGER 🇯🇵

ซื้อกับเราได้สินค้าแท้100%

คุ้มค่ากว่า ใช้งานได้ในระยะยาว

สบายใจกว่า เทอร์โบแท้รับประกันสินค้ายาวนาน

บริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม

โดยทีมงานมืออาชีพ ผู้มีประสบการณ์มากกว่า 24 ปี”

สั่งอะไหล่กับเรา "ออกใบกำกับภาษี" ได้

พร้อมบริการการดูแลหลังการขายตลอดอายุการใช้งาน

⚙️เข้าชมสินค้าทั้งหมดในเว็บไซต์

คลิก: www.sqdparts.com

⚙️สั่งซื้อทางเพจ

คลิก: m.me/sqdparts

⚙️สั่งซื้อผ่านไลน์

คลิก: https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=sqdparts

คลิกYoutube : https://bit.ly/3IAJstu

คลิกTiktok : https://bit.ly/3bXmLmN

คลิกInstagram : https://bit.ly/3AFxMDx

เขียนโดย sqdparts เมื่อ Sat 21 Dec, 2024
อ่านต่อ

     กระบะไฟฟ้าขนาดกลางไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป เพราะก่อนหน้านี้ Isuzu ประกาศเตรียมเปิดตัว D-Max EV ภายในปี 2025 ขณะที่ Toyota ก็มีแผนเปิดตัว Hilux (หรือ Hilux Revo) เวอร์ชันไฟฟ้าล้วนในปี 2026 และล่าสุด Ford ก็ประกาศเตรียมเปิดตัว Ranger EV ในอีก 3 ปีข้างหน้านี้

 

อันที่จริง Ford ไม่ได้ประกาศเตรียมเปิดตัว Ranger EV ชัดๆ เสียทีเดียว หากแต่ระบุว่ามีแผนเปิดตัวรถกระบะขนาดกลางขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าที่พัฒนาขึ้นบนแพล็ตฟอร์มใหม่ภายในปี 2027 นี้ โดยเน้นจับกลุ่มลูกค้าที่มองหาความคุ้มค่า ระยะทางขับขี่ที่มากกว่า อเนกประสงค์กว่า และรองรับการใช้งานได้หลากหลาย

 

จึงมีความเป็นไปได้สูงว่ารถกระบะรุ่นดังกล่าวก็คือ Ranger ที่วางจำหน่ายในปัจจุบัน ขณะที่ "แพล็ตฟอร์มใหม่" ก็เป็นไปได้ว่าอาจจะเป็น Ranger ที่พัฒนาขึ้นบนแพล็ตฟอร์มใหม่ทั้งหมด หรือ Ranger EV อาจถูกพัฒนาขึ้นบนแพล็ตฟอร์มสำหรับระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าโดยเฉพาะก็เป็นได้

 

ก่อนหน้านี้ ฟอร์ตเผยโฉม Ranger PHEV ขุมพลัง Plug-in Hybrid เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว โดยมีกำหนดเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไป ซึ่งจะมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 2.3 EcoBoost ควบคู่กับมอเตอร์และแบตเตอรี่ที่ให้ระยะทางขับขี่ในโหมดไฟฟ้าสูงสุด 45 กม. ทั้งยังมีฟังก์ชัน Pro Power Onboard ที่สามารถจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าภายนอกได้

 

ส่วนความคืบหน้าของ Ford Ranger EV ต้องรอรายละเอียดกันอีกครั้ง

 

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com

.

.

.

.

_____________________________________

เราคือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

เทอร์โบแท้

IHI TURBO 🇯🇵

GARRETT 🇺🇸

MITSUBISHI TURBOCHARGER 🇯🇵

ซื้อกับเราได้สินค้าแท้100%

คุ้มค่ากว่า ใช้งานได้ในระยะยาว

สบายใจกว่า เทอร์โบแท้รับประกันสินค้ายาวนาน

บริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม

โดยทีมงานมืออาชีพ ผู้มีประสบการณ์มากกว่า 24 ปี”

สั่งอะไหล่กับเรา "ออกใบกำกับภาษี" ได้

พร้อมบริการการดูแลหลังการขายตลอดอายุการใช้งาน

⚙️เข้าชมสินค้าทั้งหมดในเว็บไซต์

คลิก: www.sqdparts.com

⚙️สั่งซื้อทางเพจ

คลิก: m.me/sqdparts

⚙️สั่งซื้อผ่านไลน์

คลิก: https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=sqdparts

คลิกYoutube : https://bit.ly/3IAJstu

คลิกTiktok : https://bit.ly/3bXmLmN

คลิกInstagram : https://bit.ly/3AFxMDx

เขียนโดย sqdparts เมื่อ Wed 11 Sep, 2024
อ่านต่อ

      ไม่กี่สัปดาห์ก่อน ผมเพิ่งจะนำประเด็นรถยนต์ยกสูงที่ไม่ใช่รถกระบะมาพูดคุยกัน เพราะทำใจแล้วว่าเส้นทางในกทม. เมื่อฝนตกหนัก ยังไงก็ท่วมครับ แต่จะท่วมนานหรือไม่ก็อยู่ที่การระบายน้ำในแต่ละพื้นที่ ซึ่งหากไล่เรียงดูรถยนต์ไซซ์เล็กที่ไม่ใช่กระบะแต่ขับลุยน้ำท่วมได้ปลอดภัย บอกเลยว่าแทบจะไม่มีเลยในแต่ละโชว์รูม

 

      หรือหากมีก็อาจเป็นรถที่นำมาปรับแต่งด้วยการยกสูงขึ้นมาเอง ซึ่งบางทีมันก็ไม่เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน การแก้ปัญหาด้วยการหารถคันที่ 2 เพื่อขับลุยน้ำในวันที่น้ำท่วมในยุคเศรษฐกิจแบบนี้ ก็คงไม่ใช่เรื่อง รวมไปถึงในแต่ละวันเราไม่อาจรู้ได้เลยว่า วันนี้เส้นทางที่จะขับไปนั้นน้ำจะท่วมหรือไม่

 

      ยิ่งเห็นคลิปเหล่าซูเปอร์คาร์ลุยน้ำก็ยิ่งเสียดายแทน ทำให้สิ่งแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวเลย คือ รถสะเทินน้ำสะเทินบก! ผมคิดไปถึงขั้นนั้นเลยนะครับ (ฮา ๆ) เพราะไหน ๆ จะท่วมแล้วจากรถก็เปลี่ยนเป็นเรือมันเสียเลย อย่างไรก็ดี ในความเป็นจริงหากน้ำท่วมเส้นทาง มันก็คงไม่ได้ท่วมลึกเป็นเมตร หรือจะต้องเปลี่ยนรถเป็นเรือขนาดนั้น

 

      เมื่อ 6 ปีก่อนในงาน “ธรรมศาสตร์วิชาการ” มีการนำเอารถ EV ยี่ห้อหนึ่ง มาดัดแปลงเป็นรถสะเทินน้ำสะเทินบก และทดสอบให้เห็นว่าใช้งานได้จริงมาแล้ว และในงบประมาณการดัดแปลงไม่เกิน 3 แสนบาท แน่นอนครับมันคือผลงานวิชาการที่ต้องปรบมือให้ แต่อย่างที่บอกไป ผมเชื่อว่าคนกรุงต้องการรถที่ขับลุยน้ำมากกว่า

 

      ฉะนั้น “ออปชัน” อะไรที่ค่ายรถที่ทำตลาดในบ้านเราควรจะพิจารณาเพิ่มเติมเข้าไปบ้าง ความเห็นส่วนตัวของผมหากให้คิดแบบรวดเร็วเลย คือ รถทุกยี่ห้อ ไม่ว่าจะเป็นซูเปอร์คาร์ รถสปอร์ต รถเก๋งซีดานปกติ รวมไปถึงรถที่มีช่วงล่างสูงไล่ระดับขึ้นไปอย่าง SUV, PPV ไปจนถึงรถกระบะ ควรมีระบบช่วงล่างยกสูงอัตโนมัติ!

 

      แน่นอนครับมันคือเรื่องใหญ่แน่นอนหากมีออปชันนี้เพิ่มเข้ามาในรถแต่ละรุ่น และตามมาซึ่งราคาที่สูงลิ่วแน่ ๆ อย่างไรก็ดีมันก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้นะครับ เพราะจะว่าไปรถในยุคปัจจุบันบางรุ่น ก็มีระบบที่ว่านี้ติดตั้งมาแล้ว เพียงแต่ว่าจุดประสงค์มันไม่ได้ออกแบบมาเพื่อให้ขับหนีน้ำท่วมโดยเฉพาะ

 

      รถยุโรปหลาย ๆ รุ่นปัจจุบันใช้โช้กอัปแบบถุงลมที่สามารถปรับระดับความสูงต่ำได้เพื่อสมรรถนะในการขับขี่ บางรุ่นสามารถลดระดับความสูงลงมาได้แทบจะติดพื้นถนนเพื่อเพิ่มดาวน์ฟอร์ซขณะที่รถขับด้วยความเร็ว และสามารถยกช่วงล่างให้สูงขึ้นได้เล็กน้อยหากเจอเส้นทางที่น้ำท่วมไม่ลึกมาก

 

      ที่สำคัญระบบช่วงล่างแบบถุงลมนี้มันก็อยู่ในรถบรรทุกหรือรถโดยสารขนาดใหญ่มานานแล้ว ฉะนั้น คงไม่ใช่ออปชันที่เกินความเป็นจริงหากจะมีใครนำมาติดตั้งในรถยนต์ทั่วไป และยกรถดับช่วงล่างให้สูงพอที่จะหนีน้ำได้ เพราะในการขับลุยน้ำ เราไม่ต้องการเรื่องความเร็ว เราขอแค่ให้ขับผ่านให้ไปให้ได้เท่านั้นเองครับ

 

      ออปชันที่ผมฟุ้งมานี้ อาจะเป็นช่วงล่างแบบถุงลม หรือระบบไฮโดรลิกแบบที่ผมเคยเห็นในรถยี่ห้อ “ซีตรอง” เมื่อหลายปีก่อนก็ได้ครับ คือจะทำอย่างไรก็ได้ให้มันสามารถติดตั้งในรถทุกระดับ ไม่ว่าคุณจะขับรถสูงรถเตี้ยก็รอดปลอดภัยเมื่อเจอน้ำท่วม โดยที่ใช้รถแค่คันเดียวไม่ต้องไปหาซื้อรถคันที่ 2 ให้วุ่นวาย

 

      งานนี้ผมคิดว่าหากค่ายรถไม่ว่าจะเป็นรถแบบใช้เชื้อเพลิง หรือค่ายรถ EV หากมีออปชันกดปุ่มยกสูงติดรถมาด้วย และทำราคาไม่แพงเวอร์จนเกินไป รับรองตอบโจทย์แน่นอน เพราะปัญหาน้ำท่วม อีกร้อยปีก็คงยังแก้กันไม่ได้ ว่าไหมล่ะครับ

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com

.

.

.

.

_____________________________________

เราคือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

เทอร์โบแท้

IHI TURBO 🇯🇵

GARRETT 🇺🇸

MITSUBISHI TURBOCHARGER 🇯🇵

ซื้อกับเราได้สินค้าแท้100%

คุ้มค่ากว่า ใช้งานได้ในระยะยาว

สบายใจกว่า เทอร์โบแท้รับประกันสินค้ายาวนาน

บริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม

โดยทีมงานมืออาชีพ ผู้มีประสบการณ์มากกว่า 24 ปี”

สั่งอะไหล่กับเรา "ออกใบกำกับภาษี" ได้

พร้อมบริการการดูแลหลังการขายตลอดอายุการใช้งาน

⚙️เข้าชมสินค้าทั้งหมดในเว็บไซต์

คลิก: www.sqdparts.com

⚙️สั่งซื้อทางเพจ

คลิก: m.me/sqdparts

⚙️สั่งซื้อผ่านไลน์

คลิก: https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=sqdparts

คลิกYoutube : https://bit.ly/3IAJstu

คลิกTiktok : https://bit.ly/3bXmLmN

คลิกInstagram : https://bit.ly/3AFxMDx

เขียนโดย sqdparts เมื่อ Fri 17 May, 2024
อ่านต่อ

     หลายคนทราบดีอยู่แล้วว่าตัวเลขบริเวณแก้มยางบ่งบอกถึงขนาดของยางแต่ละเส้นที่แตกต่างกันออกไป แต่เคยสงสัยหรือไม่ว่าทำไมตัวเลขที่แสดงถึงขนาดความกว้างของหน้ายาง ถึงลงท้ายด้วยเลข 5 เสมอ บทความนี้ เรามีคำตอบมาฝากกัน

 

เลขแก้มยางคืออะไร?

     ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจรหัสบนแก้มยางกันก่อนดีกว่า โดยรหัสดังกล่าวจะเป็นชุดตัวเลขที่บ่งบอกถึงขนาดยางแต่ละเส้น จะได้เลือกใส่ให้ตรงกับสเปกของรถแต่ละรุ่น ยกตัวอย่างเช่น "225 / 45 R17"

  • 225 คือ ความกว้างหน้าตัดของยาง มีหน่วยเป็น มม.
  • 45 คือ ซีรี่ย์ขนาดแก้มยาง โดยเป็นค่าความสัมพันธ์ระหว่างความสูงแก้มยางและความกว้างของยาง (ในที่นี้หมายถึง ความสูงแก้มยางคิดเป็น 45% ของความกว้างยาง)
  • R คือ โครงสร้างยางแบบเรเดีบล Radial
  • 17 คือ ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของล้อ

ทำไมขนาดความกว้างยางต้องลงท้ายด้วยเลข 5 เสมอ?

     หากใครเคยเลือกซื้อยางรถยนต์จะพบว่า ยางรถยนต์ทุกขนาดจะมีความกว้างของยางลงท้ายด้วยเลข 5 เสมอ (เช่น 195, 205, 215,....) โดยเราไม่มีทางพบเห็นยางรถยนต์ที่มีขนาดความกว้างลงท้ายด้วยเลข 0 ได้เลย

     นั่นเป็นเพราะหน่วยงานที่เรียกว่า ETRTO หรือ European Tyre & Rim Technical Organization ตั้งอยู่ในกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม ซึ่งก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1964 มีหน้าที่กำหนดรูปแบบมาตรฐานของยางสำหรับวางจำหน่ายในยุโรป กำหนดให้ยางที่ใช้สำหรับรถยนต์นั่ง (Passenger Car), รถกระบะ/รถบรรทุกขนาดเล็ก (Light Truck) และรถเพื่อการพาณิชย์ (Commercial Vehicle) จะต้องมีขนาดความกว้างหน้าตัดยางลงท้ายด้วยเลข 5 เพื่อลดความสับสนกับยางสำหรับรถจักรยานยนต์ (Motorcycle) และรถเพื่อการเกษตร (Agricultural Vehicle) ที่กำหนดให้ลงท้ายด้วยเลข 0 นั่นเอง

     นั่นจึงเป็นสาเหตุว่ายางรถยนต์ทุกเส้นบนโลกจะมีขนาดความกว้างลงท้ายด้วยเลข 5 เสมอ ต่างกับยางรถจักรยานยนต์ที่จะลงท้ายด้วยเลข 0 แทน

เกร็ดความรู้: แม้ว่าสหรัฐอเมริกาและประเทศในกลุ่มสหราชอาณาจักร จะใช้ระบบการวัดแบบอิมพีเรียล (Imperial Units) ที่มีหน่วยเป็นนิ้ว, ไมล์, ฟุต และยาร์ด แต่หากพูดถึงขนาดของยางรถยนต์ พวกเขาเลือกที่จะใช้หน่วยเป็นมิลลิเมตรเหมือนกับประเทศอื่นๆ ทั่วโลก

 

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com

.

.

.

.

_____________________________________

เราคือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

เทอร์โบแท้

IHI TURBO 🇯🇵

GARRETT 🇺🇸

MITSUBISHI TURBOCHARGER 🇯🇵

ซื้อกับเราได้สินค้าแท้100%

คุ้มค่ากว่า ใช้งานได้ในระยะยาว

สบายใจกว่า เทอร์โบแท้รับประกันสินค้ายาวนาน

บริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม

โดยทีมงานมืออาชีพ ผู้มีประสบการณ์มากกว่า 24 ปี”

สั่งอะไหล่กับเรา "ออกใบกำกับภาษี" ได้

พร้อมบริการการดูแลหลังการขายตลอดอายุการใช้งาน

⚙️เข้าชมสินค้าทั้งหมดในเว็บไซต์

คลิก: www.sqdparts.com

⚙️สั่งซื้อทางเพจ

คลิก: m.me/sqdparts

⚙️สั่งซื้อผ่านไลน์

คลิก: https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=sqdparts

คลิกYoutube : https://bit.ly/3IAJstu

คลิกTiktok : https://bit.ly/3bXmLmN

คลิกInstagram : https://bit.ly/3AFxMDx

เขียนโดย sqdparts เมื่อ Sun 05 May, 2024
อ่านต่อ

     รถกระบะถือเป็นรถยอดนิยมคู่คนไทยมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะตามต่างจังหวัดที่นิยมรถกระบะมากกว่ารถเก๋งและเอสยูวี บทความนี้ เราจะขอแนะนำ 3 วิธีสร้างรายได้สำหรับผู้ที่มี "รถกระบะ" ยิ่งขยันมากเท่าไหร่ยิ่งมีเงินเพิ่มแน่นอน

 

4 อาชีพสร้างรายได้ด้วย "รถกระบะ"

อาชีพที่ 1 รับจ้างขนของ

อาชีพรับจ้างขนของเป็นอาชีพที่ดูเผินๆ อาจไม่หวือหวา แต่มีดีมานต์จากลูกค้ามากกว่าที่หลายคนคิด โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการย้ายหอ ย้ายบ้าน หรือแม้กระทั่งการย้ายสิ่งของขนาดใหญ่ที่ไม่สามารถใส่รถเก๋งหรือเอสยูวีได้ เช่น โซฟา, ตู้เย็น, ตู้วางของ ฯลฯ

     รถกระบะจึงกลายเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าเหล่านี้ เนื่องจากมีความสะดวกคล่องตัวมากกว่ารถบรรทุก 4 ล้อ หรือ 6 ล้อ แถมยังไม่ติดเวลาวิ่งเหมือนกับรถขนาดใหญ่อีกด้วย

     วิธีการก็เพียงนำรถไปจอดไว้ในที่ที่มีผู้พบเห็นได้ง่าย ขึ้นป้ายรับจ้างพร้อมเบอร์โทรศัพท์ติดต่อ เพียงเท่านี้ก็มีลูกค้าติดต่อเข้ามาได้แบบไม่ยากเย็น

อาชีพที่ 2 ขายผลไม้ - ต้นไม้

สำหรับผู้ที่ต้องการขายของด้วยรถกระบะแต่ไม่รู้ว่าจะขายอะไรแล้วล่ะก็ การรับซื้อผลไม้ตามฤดูกาลจากสวน หรือตลาดค้าส่ง แล้วนำมาเปิดท้ายขายปลีกตามหมู่บ้านหรือชุมชนต่างๆ ก็เป็นอีกอาชีพที่น่าสนใจไม่น้อย หรือหากใครมีทักษะในการดูแลต้นไม้แล้วล่ะก็ การเปิดท้ายขายต้นไม้ ดอกไม้ ดิน ปุ๋ย ฯลฯ ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจเช่นกัน แถมยังรับจ็อบจัดสวนให้ลูกค้าได้อีกต่างหาก

อาชีพที่ 3 รถแห่ประชาสัมพันธ์

รถแห่ประชาสัมพันธ์ รถแห่ป้ายโฆษณา รถแห่กระจายเสียง เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่มีความต้องการสูงกว่าที่หลายคนคิด ซึ่งโดยส่วนมากมักเป็นการประชาสัมพันธ์งานวัด, งานคอนเสิร์ต, ขายคอนโดมิเนียม รวมถึงกิจกรรมของภาครัฐในพื้นที่ชุมชนต่างๆ เช่น การหาเสียงเลือกตั้ง, แจ้งหยุดจ่ายน้ำ-ไฟ, รณรงค์ฉีดวัคซีน ฯลฯ

อาชีพที่ 4 Food Truck

ฟู้ดทรัคเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่หลายคนคิดอยากจะทำ โดยเฉพาะผู้ที่มีทักษะการทำอาหารขาย เนื่องจากใช้พื้นที่ไม่มาก จัดเก็บร้านสะดวก ไม่ต้องยึดติดกับการเซ้งที่เหมือนกับร้านทั่วไป เหมาะสำหรับการเปิดขายอาหารตามตลาดนัดและอีเวนต์ต่างๆ อีกทั้งปัจจุบันยังมีแฟรนไชส์ธุรกิจ Food Truck สำเร็จรูปที่ช่วยให้ดำเนินธุรกิจได้ง่ายและรวดเร็วขึ้นด้วย

     เห็นไหมครับว่ารถกระบะมีประโยชน์มากกว่าที่หลายคนคิด หากว่าคุณมีเวลาว่างนอกเหนือจากงานประจำ อยากจะใช้เวลาให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้นแล้วล่ะก็ รถกระบะถือว่าตอบโจทย์ตรงนี้ได้ดีทีเดียวล่ะครับ

 

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com

.

.

.

.

_____________________________________

เราคือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

เทอร์โบแท้

IHI TURBO 🇯🇵

GARRETT 🇺🇸

MITSUBISHI TURBOCHARGER 🇯🇵

ซื้อกับเราได้สินค้าแท้100%

คุ้มค่ากว่า ใช้งานได้ในระยะยาว

สบายใจกว่า เทอร์โบแท้รับประกันสินค้ายาวนาน

บริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม

โดยทีมงานมืออาชีพ ผู้มีประสบการณ์มากกว่า 24 ปี”

สั่งอะไหล่กับเรา "ออกใบกำกับภาษี" ได้

พร้อมบริการการดูแลหลังการขายตลอดอายุการใช้งาน

⚙️เข้าชมสินค้าทั้งหมดในเว็บไซต์

คลิก: www.sqdparts.com

⚙️สั่งซื้อทางเพจ

คลิก: m.me/sqdparts

⚙️สั่งซื้อผ่านไลน์

คลิก: https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=sqdparts

คลิกYoutube : https://bit.ly/3IAJstu

คลิกTiktok : https://bit.ly/3bXmLmN

คลิกInstagram : https://bit.ly/3AFxMDx

เขียนโดย sqdparts เมื่อ Wed 24 Apr, 2024
อ่านต่อ

     การเติมลมยางรถเก๋งทั่วไป ควรเติมเท่าไหรจึงจะเหมาะสมที่สุด?

 

     ลมยางรถยนต์เป็นสิ่งเล็กๆ ที่ไม่ควรมองข้ามโดยเด็ดขาด เพราะแรงดันลมยางที่อ่อนหรือแข็ง ส่งผลต่อสมรรถนะการขับขี่อย่างรู้สึกได้ และยังมีผลต่อความปลอดภัยขณะขับขี่ด้วยความเร็วสูงอีกด้วย

     แรงดันลมยางที่เหมาะสมสำหรับรถเก๋งทั่วไป ล้อหน้าและล้อหลังควรมีแรงดันลมยางอยู่ที่ 30-32 PSI (ปอนด์ต่อตารางนิ้ว) สำหรับการใช้งานปกติ แต่หากต้องบรรทุกผู้โดยสารเต็มอัตรา 5 ที่นั่ง พร้อมสัมภาระท้ายรถ ควรเพิ่มแรงดันล้อหน้าเป็น 33-35 PSI และล้อหลังควรเพิ่มเป็น 37-39 PSI เพื่อรับกับน้ำหนักบรรทุกที่เพิ่มขึ้นมา

 

     ส่วนรถกระบะควรเติมลมยางมากกว่ารถเก๋งปกติ โดยหากไม่มีสิ่งของบรรทุกควรมีแรงดันอยู่ที่ 36-38 PSI และล้อหลังอยู่ที่ 40-42 PSI หากมีน้ำหนักบรรทุกด้านท้ายควรเพิ่มลมยางล้อหลังขึ้นเป็น 49-51 PSI เพื่อป้องกันรถยางระเบิดหากขับขี่ด้วยความเร็วสูง

     ทั้งนี้ หากเติมลมยางมากจนเกินพอดี จะลดประสิทธิภาพการเกาะถนนของยาง และทำให้ช่วงล่างแข็งกระด้างมากขึ้น แต่หากเติมลมยางน้อยเกินไป หรือปล่อยให้ยางอ่อน จะเสี่ยงต่อยางระเบิดขณะขับขี่ด้วยความเร็วสูงได้ครับ

 

     ทางที่ดีควรหมั่นเช็คลมยางอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง และสังเกตอาการรั่วซึมอยู่เสมอเพื่อความปลอดภัยครับ

 

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com

.

.

.

.

_____________________________________

เราคือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

เทอร์โบแท้

IHI TURBO 🇯🇵

GARRETT 🇺🇸

MITSUBISHI TURBOCHARGER 🇯🇵

ซื้อกับเราได้สินค้าแท้100%

คุ้มค่ากว่า ใช้งานได้ในระยะยาว

สบายใจกว่า เทอร์โบแท้รับประกันสินค้ายาวนาน

บริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม

โดยทีมงานมืออาชีพ ผู้มีประสบการณ์มากกว่า 24 ปี”

สั่งอะไหล่กับเรา "ออกใบกำกับภาษี" ได้

พร้อมบริการการดูแลหลังการขายตลอดอายุการใช้งาน

⚙️เข้าชมสินค้าทั้งหมดในเว็บไซต์

คลิก: www.sqdparts.com

⚙️สั่งซื้อทางเพจ

คลิก: m.me/sqdparts

⚙️สั่งซื้อผ่านไลน์

คลิก: https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=sqdparts

คลิกYoutube : https://bit.ly/3IAJstu

คลิกTiktok : https://bit.ly/3bXmLmN

คลิกInstagram : https://bit.ly/3AFxMDx

เขียนโดย sqdparts เมื่อ Mon 11 Mar, 2024
อ่านต่อ
แสดง รายการ
ร้านค้าออนไลน์ และ ขายของออนไลน์ โดย © 2006-2025 Vevo Systems Co., Ltd.