×
หน้าหลัก > บทความประจำเดือน September 2023
บทความประจำเดือน September 2023
แสดง รายการ

    เคยสงสัยหรือไม่ว่าทำไมเวลาที่ติดฟิล์มกรองแสงรถยนต์ใหม่ๆ ช่างจะต้องยัดทิชชู่ไว้บริเวณขอบกระจกด้วย แถมยังต้องคาทิ้งไว้ 3-7 วันเลยทีเดียว บทความนี้ เรามีคำตอบมาฝากกัน

 

    การยัดทิชชู่บริเวณขอบกระจกถือเป็นขั้นตอนสำคัญหลังจากการติดฟิล์มกรองแสงรถยนต์ เนื่องจากกระจกของรถแต่ละรุ่นมีความโค้งที่แตกต่างกัน ขณะที่ฟิล์มกรองแสงเองก็จะถูกม้วนเป็นแท่งมาจากโรงงานเพื่อความสะดวกในการขนส่ง

 

    ด้วยเหตุนี้ ภายหลังจากการติดตั้งฟิล์มกรองแสงเข้ากับกระจกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ฟิล์มจะยังไม่ยึดติดกับกระจกสนิทเท่าที่ควร อาจทำให้ฟิล์มเกิดการกระดกได้ ส่งผลให้ฟิล์มมีอายุการใช้งานสั้น ช่างจึงใช้วิธียัดกระดาษทิชชู่เข้าไปบริเวณขอบกระจกเพื่อป้องกันฟิล์มไม่ให้กระดกขึ้นมา

 

    ส่วนการนำทิชชู่ออกก็ต้องมั่นใจว่ากาวที่ยึดฟิล์มติดกับกระจกแห้งดีเสียก่อน โดยส่วนมากจะใช้ระยะเวลาประมาณ 3-7 วันขึ้นอยู่คุณภาพของกาวและความหนาของเนื้อฟิล์ม รวมถึงสภาพอากาศในช่วงเวลาก็ส่งผลโดยตรงด้วยเช่นกัน หากเป็นช่วงฤดูร้อนมีแดดจัด กาวก็จะแห้งเร็วกว่าช่วงฤดูฝนที่มีความชื้นสูง

 

    เมื่อทราบเช่นนี้แล้วก็อย่าเพิ่งรีบดึงกระดาษทิชชู่ออกทันทีหลังติดฟิล์มเสร็จ เพื่อจะได้ยืดอายุการใช้งานของฟิล์มได้อีกยาวนานครับ

 

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com

.

.

.

.

_____________________________________

เราคือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

เทอร์โบแท้

IHI TURBO 🇯🇵

GARRETT 🇺🇸

ซื้อกับเราได้สินค้าแท้100%

คุ้มค่ากว่า ใช้งานได้ในระยะยาว

สบายใจกว่า เทอร์โบแท้รับประกันสินค้ายาวนาน

บริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม

โดยทีมงานมืออาชีพ ผู้มีประสบการณ์มากกว่า 24 ปี”

สั่งอะไหล่กับเรา "ออกใบกำกับภาษี" ได้

พร้อมบริการการดูแลหลังการขายตลอดอายุการใช้งาน

⚙️เข้าชมสินค้าทั้งหมดในเว็บไซต์

คลิก: www.sqdparts.com

⚙️สั่งซื้อทางเพจ

คลิก: m.me/sqdparts

⚙️สั่งซื้อผ่านไลน์

คลิก: https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=sqdparts

คลิกYoutube : https://bit.ly/3IAJstu

คลิกTiktok : https://bit.ly/3bXmLmN

คลิกInstagram : https://bit.ly/3AFxMDx

เขียนโดย sqdparts เมื่อ Fri 29 Sep, 2023
อ่านต่อ

      ช่วงหน้าฝนแบบนี้ นอกจากคนกรุงจะต้องเผชิญกับรถติดแสนสาหัสแล้ว บางพื้นที่ยังอาจมี 'น้ำรอระบาย' ให้ผู้ใช้รถได้ระทึกกันอีกต่างหาก

 

      โดยปกติแล้ว หากเกิดความเสียหายกับรถยนต์อันเนื่องมาจากการขับผ่านพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขัง รถยนต์ที่ทำประกันภัยประเภท 1 สามารถเรียกค่าสินไหมทดแทนได้ตามปกติ ทั้งกรณี 1.เสียหายสิ้นเชิง (Total Loss) และ 2.เสียหายบางส่วน (Partial Loss) ซึ่งมีการเคลมเหมือนกับความเสียหายจากอุบัติเหตุโดยทั่วไป

 

      ทั้งนี้ การเรียกค่าเสียหายจากบริษัทประกันฯ สามารถทำได้ในกรณี เกิดน้ำท่วมฉับพลันบนเส้นทาง เช่น คันกั้นน้ำแตก ฯลฯ จำเป็นต้องขับออกไปให้เร็วที่สุด หรือจอดรถไว้ในที่จอดรถ เช่น ในบ้าน, ใต้อาคาร ฯลฯ แล้วเกิดน้ำท่วมขัง ไม่สามารถนำรถออกได้ทัน ซึ่ง 2 กรณีนี้ถือว่าครอบคลุมความเสียหายที่บริษัทประกันต้องรับผิดชอบอย่างชัดเจน

      แต่ หากเป็นการขับรถลุยน้ำทั้งๆ ที่เห็นว่าด้านหน้ามีน้ำท่วมสูง แบบนี้อาจถูกตีความว่าเป็นการขับลุยน้ำโดยเจตนา ซึ่งมีผลทำให้ไม่สามารถเคลมประกันได้ ดังนั้น หากมีความจำเป็นต้องขับรถลุยน้ำ เพื่อเดินทางกลับบ้าน หรือไปยังจุดหมายใดๆ จนเป็นสาเหตุให้เกิดความเสียหายต่อรถ (โดยเฉพาะเครื่องยนต์) ผู้ขับขี่จะต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าไม่ได้เจตนา มิเช่นนั้นอาจถูกปฏิเสธการเคลมได้นะครับ

 

      ทางที่ดี หากสามารถเลี่ยงใช้เส้นทางที่มีน้ำท่วมขังได้ถือว่าดีที่สุด แต่หากเลี่ยงไม่ได้ ก็ควรใช้เลนที่มีระดับน้ำต่ำที่สุด รวมถึงใช้ความเร็วให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดคลื่นจนทำให้น้ำถูกดูดเข้าไปในห้องเครื่อง เพราะหากจู่ๆ เครื่องยนต์เกิดดับขณะลุยน้ำท่วมสูงนั้น บอกได้เลยว่าคุณเจอ 'งานช้าง' เข้าให้แล้วล่ะ!

 

      อย่าลืมนะครับว่า ความเสียหายจากการลุยน้ำท่วมนั้น ประกันชั้น 1 อาจเคลมไม่ได้เสมอไป

 

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com

.

.

.

.

_____________________________________

เราคือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

เทอร์โบแท้

IHI TURBO 🇯🇵

GARRETT 🇺🇸

ซื้อกับเราได้สินค้าแท้100%

คุ้มค่ากว่า ใช้งานได้ในระยะยาว

สบายใจกว่า เทอร์โบแท้รับประกันสินค้ายาวนาน

บริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม

โดยทีมงานมืออาชีพ ผู้มีประสบการณ์มากกว่า 24 ปี”

สั่งอะไหล่กับเรา "ออกใบกำกับภาษี" ได้

พร้อมบริการการดูแลหลังการขายตลอดอายุการใช้งาน

⚙️เข้าชมสินค้าทั้งหมดในเว็บไซต์

คลิก: www.sqdparts.com

⚙️สั่งซื้อทางเพจ

คลิก: m.me/sqdparts

⚙️สั่งซื้อผ่านไลน์

คลิก: https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=sqdparts

คลิกYoutube : https://bit.ly/3IAJstu

คลิกTiktok : https://bit.ly/3bXmLmN

คลิกInstagram : https://bit.ly/3AFxMDx

เขียนโดย sqdparts เมื่อ Fri 29 Sep, 2023
อ่านต่อ

     ใช่ว่าทุกคนจะแฮปปี้กับรถคันใหม่ที่เพิ่งซื้อมาเสมอไป บางคนกัดฟันซื้อรถคันใหญ่แล้วมารู้ตัวทีหลังว่าขับในเมืองไม่สะดวก บางคนซื้อรถคันเล็กเกินไปจนกลายเป็นว่าผู้ใหญ่นั่งไม่สบาย แต่สุดท้ายแล้วรถยังติดไฟแนนซ์เหลือค่างวดอีกหลายปี แบบนี้จะสามารถเทิร์นเพื่อเปลี่ยนเป็นคันใหม่ได้หรือไม่? เราจะพาไปหาคำตอบกัน

 

รถติดไฟแนนซ์ เจ้าของเป็นเพียง "ผู้ครอบครอง"

     ก่อนอื่นต้องเข้าใจว่ารถที่ยังติดผ่อนชำระอยู่กับธนาคารหรือไฟแนนซ์นั้น ผู้เช่าซื้อเป็นเพียง "ผู้ครอบครอง" ที่ทำได้แค่เพียงใช้ประโยชน์จากรถที่เช่าซื้อเท่านั้น ส่วน "ผู้ถือกรรมสิทธิ์" ที่แท้จริงยังคงเป็นธนาคารหรือไฟแนนซ์ ดังนั้นการนำรถที่ยังติดไฟแนนซ์ไปซื้อ-ขายโดยพลการ จึงถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย นำไปสู่ความผิดทั้งทางแพ่งและทางอาญาได้

 

ขายรถติดไฟแนนซ์สามารถทำได้ แต่ต้องมีวิธีการ

     การขายรถทั้งที่ยังติดไฟแนนซ์อยู่สามารถทำได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพียงแต่จะมีวิธีการแตกต่างไปจากการขายรถที่ปลอดภาระแล้วสักเล็กน้อย

 

     ก่อนอื่นแนะนำว่าให้โทรเข้าไปยัง Call Center ของไฟแนนซ์ที่ใช้บริการอยู่เพื่อสอบถามยอดปิดบัญชีทั้งหมด โดยการปิดบัญชีล่วงหน้าจะได้รับส่วนลดดอกเบี้ยตามสัดส่วนขึ้นอยู่กับระยะเวลาการผ่อนชำระที่ผ่านมา เมื่อได้ยอดปิดบัญชีแล้วก็จะสามารถเลือกวิธีการขายต่อได้อย่างเหมาะสม ไม่ขาดทุนมากจนเกินไป

 

     ทั้งนี้ ไฟแนนซ์บางแห่งกำหนดว่าผู้เช่าซื้อจะต้องชำระค่างวดมากกว่า 12 เดือน หรือ 1 ปีเสียก่อน จึงจะสามารถปิดบัญชีได้

 

3 วิธีขายรถที่ยังติดไฟแนนซ์

     หลังจากที่ทราบยอดปิดบัญชีแล้ว คุณสามารถเลือกวิธีการที่เหมาะสมในการขายต่อได้ 3 วิธี ดังนี้

 

1. เทิร์นกับโชว์รูมหรือเต็นท์โดยตรง

     วิธีนี้เป็นวิธีที่สะดวกที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะโดยคุณสามารถนำรถไปเทิร์นกับโชว์รูมหรือเต๊นท์ที่ต้องการซื้อคันใหม่ได้โดยตรง พร้อมทั้งเจรจาต่อรองว่าต้องเพิ่มส่วนต่างเท่าไหร่เพื่อเปลี่ยนเป็นรถคันใหม่ หากคุณรับข้อเสนอได้ ทางโชว์รูมหรือเต๊นท์ก็จะดำเนินการปิดบัญชีรถคันเดิมให้ แต่โดยมากแล้ววิธีนี้จะค่อนข้างเสียเปรียบ เนื่องจากจะถูกกดราคาโดยโชว์รูมหรือเต๊นท์ ทำให้ราคาขายไม่เป็นไปอย่างที่ตั้งใจไว้

 

2. เปลี่ยนสัญญา - ขายดาวน์ - ยกให้ผ่อนต่อฟรี

     อีกหนึ่งวิธีที่นิยมใช้ในปัจจุบัน คือ การเปลี่ยนสัญญาเพื่อให้ผู้อื่นนำรถไปผ่อนต่อ โดยหากภาระหนี้คงเหลือต่ำกว่าราคาตลาด ณ ขณะนั้น แนะนำว่าให้ใช้วิธีขายดาวน์เพื่อให้ได้มาซึ่งส่วนต่างตามราคาตลาด ยกตัวอย่างเช่น หากราคาตลาดของรถรุ่นนั้นอยู่ที่ 450,000 บาท แต่มีภาระหนี้คงเหลือรวมแล้วเหลือ 300,000 บาท ก็สามารถเรียกส่วนต่างประมาณ 150,000 บาทเพื่อเป็นเงินดาวน์จากผู้ซื้อได้

 

     แต่หากภาระหนี้คงเหลือเท่ากับหรือมากกว่าราคาตลาด จำเป็นต้องใช้วิธีเปลี่ยนสัญญาเพื่อให้ผู้ซื้อไปชำระค่างวดที่เหลือโดยไม่ได้ส่วนต่างกลับมา พูดง่ายๆ คือ เปลี่ยนสัญญายกรถให้ผู้ซื้อไปดำเนินการผ่อนต่อแบบฟรีๆ นั่นเอง เมื่อภาระหนี้ก้อนนี้จบไป ก็สามารถเปลี่ยนไปซื้อคันใหม่ได้แล้ว

 

3. ขายเงินสด

     วิธีนี้มีลักษณะคล้ายกับการเปลี่ยนสัญญา เพียงแต่ถ้าผู้ซื้อมีความพร้อมในการจ่ายเงินสดทั้งก้อนก็สามารถทำได้เช่นกัน โดยผู้ขายจำเป็นต้องติดต่อกับไฟแนนซ์เพื่อแจ้งความประสงค์ในการขายพร้อมกับการปิดบัญชี จากนั้นทำสัญญาซื้อขายให้เรียบร้อย และปฏิบัติตามคำแนะนำของไฟแนนซ์ต่อไป

 

     การปฏิบัติเช่นนี้จะช่วยเพิ่มความสบายใจกับทางฝ่ายผู้ซื้อ เพราะทางผู้ซื้อเองก็มั่นใจได้ว่ามีการปิดบัญชีสินเชื่อจริง แทนที่จะทำการซื้อ-ขายแล้วปล่อยให้ผู้ขายไปดำเนินการปิดบัญชีเองในภายหลัง ซึ่งอาจเกิดปัญหาตามมาได้

 

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com

.

.

.

.

_____________________________________

เราคือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

เทอร์โบแท้

IHI TURBO 🇯🇵

GARRETT 🇺🇸

ซื้อกับเราได้สินค้าแท้100%

คุ้มค่ากว่า ใช้งานได้ในระยะยาว

สบายใจกว่า เทอร์โบแท้รับประกันสินค้ายาวนาน

บริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม

โดยทีมงานมืออาชีพ ผู้มีประสบการณ์มากกว่า 24 ปี”

สั่งอะไหล่กับเรา "ออกใบกำกับภาษี" ได้

พร้อมบริการการดูแลหลังการขายตลอดอายุการใช้งาน

⚙️เข้าชมสินค้าทั้งหมดในเว็บไซต์

คลิก: www.sqdparts.com

⚙️สั่งซื้อทางเพจ

คลิก: m.me/sqdparts

⚙️สั่งซื้อผ่านไลน์

คลิก: https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=sqdparts

คลิกYoutube : https://bit.ly/3IAJstu

คลิกTiktok : https://bit.ly/3bXmLmN

คลิกInstagram : https://bit.ly/3AFxMDx

เขียนโดย sqdparts เมื่อ Fri 29 Sep, 2023
อ่านต่อ

     หลายคนมีความเชื่อว่าเวลาที่ออกรถคันใหม่ จะต้องขับรถ "เหยียบมะนาว" เป็นอันดับแรกก่อนขับออกจากโชว์รูม ความเชื่อดังกล่าวมีที่มาอย่างไร เราจะพาไปรู้จักเคล็ดการเหยียบมะนาวที่แท้จริงกัน

 

ทำไมต้อง "เหยียบมะนาว" เมื่อออกรถใหม่?

     อันที่จริงแล้วเคล็ดการเหยียบมะนาวเมื่อออกรถใหม่ เพิ่งเกิดขึ้นได้ไม่นานนี้เอง โดยเป็นความเชื่อที่เล่าต่อกันมาว่า หากขับรถเหยียบลูกมะนาวก่อนจะขับออกจากโชว์รูมนั้น จะช่วยให้ล้อยางยึดเกาะถนนได้ดี ไม่ลื่นไหล ช่วยชำระล้างสิ่งไม่ดีออกจากรถ สามารถควบคุมรถได้อย่างสะดวก ช่วยให้ขับขี่ปลอดภัยตลอดการครอบครองรถคันนั้น

วิธีขับรถเหยียบมะนาวเมื่อออกรถใหม่

     หากใครอยากทำตามเคล็ดเหยียบมะนาวก่อนขับรถออกจากโชว์รูม ก็สามารถเลือก 1 ใน 3 วิธี ดังนี้

 

     วิธีที่ 1 นำลูกมะนาววางไว้บริเวณใต้ล้อรถทั้ง 4 ข้าง จากนั้นขับรถเดินหน้าเหยียบลูกมะนาวให้แตก

     วิธีที่ 2 ผ่ามะนาวครึ่งซีกโดยไม่ต้องให้ขาดออกจากกัน จากนั้นนำไปวางไว้ใต้ล้อรถทั้ง 4 ข้าง ขับรถเดินหน้าเหยียบลูกมะนาวให้แตก

     วิธีที่ 3 ผ่ามะนาวแล้วบีบน้ำไปยังล้อและยางรถยนต์

 

     อย่างไรก็ดี เคล็ดดังกล่าวเป็นเพียงความเชื่อส่วนบุคคลเท่านั้น หากใครจะลองทำตามก็ไม่เสียหาย หรือใครไม่สะดวกทำก็ไม่เป็นไร เพราะท้ายที่สุดแล้วการปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด ไม่ประมาทเลินเล่อ มีสติในการขับรถอยู่ตลอดเวลา ล้วนแต่เป็นหัวใจหลักในการขับรถอย่างปลอดภัยครับ

 

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com

.

.

.

.

_____________________________________

เราคือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

เทอร์โบแท้

IHI TURBO 🇯🇵

GARRETT 🇺🇸

ซื้อกับเราได้สินค้าแท้100%

คุ้มค่ากว่า ใช้งานได้ในระยะยาว

สบายใจกว่า เทอร์โบแท้รับประกันสินค้ายาวนาน

บริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม

โดยทีมงานมืออาชีพ ผู้มีประสบการณ์มากกว่า 24 ปี”

สั่งอะไหล่กับเรา "ออกใบกำกับภาษี" ได้

พร้อมบริการการดูแลหลังการขายตลอดอายุการใช้งาน

⚙️เข้าชมสินค้าทั้งหมดในเว็บไซต์

คลิก: www.sqdparts.com

⚙️สั่งซื้อทางเพจ

คลิก: m.me/sqdparts

⚙️สั่งซื้อผ่านไลน์

คลิก: https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=sqdparts

คลิกYoutube : https://bit.ly/3IAJstu

คลิกTiktok : https://bit.ly/3bXmLmN

คลิกInstagram : https://bit.ly/3AFxMDx

เขียนโดย sqdparts เมื่อ Fri 29 Sep, 2023
อ่านต่อ

     เคยสงสัยหรือไม่ว่าทำไมรถกระบะแทบทุกคันในบ้านเราล้วนแต่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล ขณะที่รถเก๋งกลับนิยมเครื่องยนต์เบนซินมากกว่า บทความนี้ เราจะพาไปหาคำตอบกัน

เหตุผลที่รถกระบะต้องใช้เครื่องยนต์ดีเซล

     สาเหตุที่รถกระบะเหมาะสมกับเครื่องยนต์ดีเซลมากกว่า จำแนกออกเป็น 4 เหตุผลได้ดังนี้

     1. แรงบิดสูงกว่า - เครื่องยนต์ดีเซลให้แรงบิดสูงกว่าเครื่องยนต์เบนซินอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะในรอบเครื่องยนต์ต่ำ จึงสามารถบรรทุกของหนักได้โดยไม่ส่งผลกระทบต่ออัตราเร่งมากเหมือนกับเครื่องยนต์เบนซิน พูดง่ายๆ คือ เครื่องยนต์ดีเซลให้พละกำลังดีกว่าแม้ว่าจะบรรทุกของหนักก็ตาม

     2. ประหยัดน้ำมันมากกว่า - ธรรมชาติของเครื่องยนต์ดีเซลจะมีอัตราสิ้นเปลืองต่ำกว่าเครื่องยนต์เบนซินภายใต้เงื่อนไขแบบเดียวกัน (เช่น ขนาดตัวถัง, น้ำหนักตัวรถ, ขนาดล้อ ฯลฯ) รถกระบะเครื่องยนต์ดีเซลจึงช่วยเซฟค่าน้ำมันได้มากกว่าเมื่อคิดเป็นค่าใช้จ่ายต่อกิโลเมตร

     นอกจากนี้ น้ำมันดีเซลยังมีราคาถูกกว่าเบนซินอย่างเห็นได้ชัด โดยราคา ณ ปัจจุบัน (วันที่ 20 ก.ย. 66) น้ำมัน Gasohol 95 มีราคาลิตรละ 40.45 บาท ขณะที่น้ำมันดีเซล B7 มีราคาจำหน่ายเพียงลิตรละ 29.94 บาท ทั้งยังเป็นน้ำมันชนิดหลักที่ใช้ในภาคอุตสาหกรรมขนส่ง ส่งผลให้รัฐบาลมักเลือกที่จะอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซลมากกว่าเบนซิน เพื่อป้องกันการปรับขึ้นของราคาสินค้าอุปโภคบริโภคที่จะส่งผลกระทบต่อประชาชนนั่นเอง

     3. ค่าบำรุงรักษาต่ำกว่า - หากมองในระยะยาวเครื่องยนต์ดีเซลจะมีค่าบำรุงรักษาต่ำกว่าเครื่องยนต์เบนซิน เนื่องจากเครื่องยนต์ดีเซลถูกออกแบบให้มีความแข็งแรงทนทานรองรับแรงอัดได้สูง มีจุดซ่อมจุดเสียน้อยกว่า การบำรุงรักษาจึงทำได้ง่ายกว่า และมีค่าใช้จ่ายต่ำกว่าเครื่องยนต์เบนซินในระยะยาว

     4. พละกำลังเหมาะกับตัวถังมากกว่า - รถกระบะถูกออกแบบให้มีขนาดตัวถังที่ค่อนข้างใหญ่ เพื่อรองรับการใช้งานได้อย่างอเนกประสงค์ ส่งผลให้ตัวรถมีน้ำหนักมากขึ้นตามไปด้วย หากใช้เครื่องยนต์เบนซินที่มีแรงบิดน้อย จะทำให้รถอืดและกินน้ำมันมาก รถกระบะที่ใช้เครื่องยนต์เบนซินส่วนใหญ่จึงนิยมติดตั้งก๊าซ LPG เพื่อชดเชยกับอัตราสิ้นเปลือง ซึ่งระยะยาวอาจส่งผลให้เครื่องยนต์โทรมมากกว่าปกติ โดยเฉพาะรถที่ใช้งานหนัก วิ่งต่อเนื่องข้ามจังหวัดเป็นระยะทางไกล จึงไม่น่าแปลกใจที่รถกระบะส่วนใหญ่จึงเลือกใช้เครื่องยนต์ดีเซลแทน

 

     อย่างไรก็ดี เครื่องยนต์ดีเซลก็มีข้อเสียบางอย่างที่ทำให้ผู้ใช้รถเก๋งไม่นิยมเลือกเครื่องยนต์ดีเซล เช่น เสียงเครื่องยนต์ดังกว่า, ราคาค่าตัวสูงกว่า รวมถึงการปล่อยมลพิษที่มากกว่าเช่นกัน

 

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com

.

.

.

.

_____________________________________

เราคือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

เทอร์โบแท้

IHI TURBO 🇯🇵

GARRETT 🇺🇸

ซื้อกับเราได้สินค้าแท้100%

คุ้มค่ากว่า ใช้งานได้ในระยะยาว

สบายใจกว่า เทอร์โบแท้รับประกันสินค้ายาวนาน

บริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม

โดยทีมงานมืออาชีพ ผู้มีประสบการณ์มากกว่า 24 ปี”

สั่งอะไหล่กับเรา "ออกใบกำกับภาษี" ได้

พร้อมบริการการดูแลหลังการขายตลอดอายุการใช้งาน

⚙️เข้าชมสินค้าทั้งหมดในเว็บไซต์

คลิก: www.sqdparts.com

⚙️สั่งซื้อทางเพจ

คลิก: m.me/sqdparts

⚙️สั่งซื้อผ่านไลน์

คลิก: https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=sqdparts

คลิกYoutube : https://bit.ly/3IAJstu

คลิกTiktok : https://bit.ly/3bXmLmN

คลิกInstagram : https://bit.ly/3AFxMDx

เขียนโดย sqdparts เมื่อ Fri 29 Sep, 2023
อ่านต่อ

     แม้ว่าจะผ่านพ้นช่วงเวลาวิกฤตของโรคระบาด COVID-19 ไปแล้ว แต่หลายคนยังคงได้รับผลกระทบด้านเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง พนักงานประจำบางส่วนถูกปรับลดเงินเดือน เจ้าของกิจการหลายรายก็มีรายได้ลดลง ส่งผลให้รายได้เริ่มไม่สอดคล้องกับรายจ่าย และมีคนจำนวนไม่น้อยที่ยังคงเป็นหนี้รถยนต์ ซึ่งถือเป็นหนี้ก่อนใหญ่ที่ต้องรับผิดชอบเช่นกัน

 

     บทความนี้ เราจึงขอกล่าวถึง 3 สัญญาณเตือนอันตรายที่บ่งบอกว่าคุณเริ่มที่จะผ่อนรถไม่ไหว เพื่อจะได้ปรับตัวให้ทันต่อสภาพการณ์ในปัจจุบัน หลีกเลี่ยงการเกิดหนี้เสียและการถูกยึดรถที่อาจเกิดขึ้นได้ จะมีอะไรบ้างไปดูกัน

 

1. มีรถแต่ไม่นำมาใช้งาน

     จุดประสงค์หลักของการมีรถยนต์ก็เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางของตนเอง แต่การครอบครองรถยนต์หนึ่งคันก็ตามมาด้วยค่าใช้จ่ายมากมาย ไม่ว่าจะเป็นค่าน้ำมัน, ค่าซ่อมบำรุง, ค่าจอดรถ, ค่าประกันภัย และอื่นๆ

 

     จึงทำให้เจ้าของรถหลายคนที่มีปัญหาสภาพคล่องทางการเงิน เลือกที่จะจอดรถไว้ที่บ้าน และใช้ทางเลือกอื่นในการเดินทาง เช่น หันไปใช้จักรยานยนต์ที่กินน้ำมันน้อยกว่า หรือเดินทางด้วยรถสาธารณะที่มีค่าใช้จ่ายถูกกว่าแทน เหล่านี้อาจถือเป็นสัญญาณเตือนว่าคุณเริ่มมีโอกาสผ่อนรถไม่ไหวแล้ว

 

2. เริ่มจ่ายค่างวดล่าช้า

     การจ่ายค่างวดล่าช้าเกินกว่าที่ไฟแนนซ์กำหนด ถือเป็นสัญญาณเตือนสำคัญที่หลายคนกำลังเผชิญอยู่ หากเป็นการจ่ายล่าช้าเพียงไม่กี่วันอันนี้ไม่มีปัญหา แต่หากค้างชำระเกินกว่า 1 เดือนขึ้นไปอันนี้แสดงว่าปัญหาเริ่มเกิดแล้ว เพราะจะเกิดความลำบากในการกลับมาชำระให้ตรงเวลา (พูดง่ายๆ คือ ค่างวด 1 เดือนยังชำระไม่ไหว จะให้ชำระพร้อมกัน 2 หรือ 3 เดือนยิ่งยากขึ้นไปอีก) และซ้ำร้ายยังต้องเจอกับค่าทวงถามที่เกิดขึ้นในแต่ละเดือนอีกด้วย

 

3. กู้เงินเพื่อจ่ายค่างวด

     มีคนจำนวนไม่น้อยเลือกที่จะใช้วิธีกู้เงินเพื่อนำมาชำระค่างวดรถ แม้ว่าจะช่วยรักษาเครดิตเอาไว้ได้ แต่ก็เป็นเพียงระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น เพราะสุดท้ายแล้วก็ต้องเผชิญกับหนี้ก้อนใหม่ที่งอกขึ้นมา ในขณะที่ค่างวดรถก็ต้องชำระอย่างต่อเนื่องเช่นเดิม กลายเป็นว่ามีหนี้ซ้ำซ้อนขึ้นไปอีก จะกลับตัวก็ลำบาก จะเดินหน้าต่อไปก็เหนื่อยเพิ่มขึ้นกว่าเดิม แบบนี้ถือว่าสถานะทางการเงินเข้าขั้นเปราะบางแบบสุดๆ

 

     หากว่าตกอยู่ในสถานการณ์ดังกล่าวแล้วล่ะก็ อาจเตรียมตัวหาทางออกเพื่อป้องกันการเกิดหนี้เสียในอนาคต ซึ่งปัจจุบันไฟแนนซ์ส่วนใหญ่เปิดรับการปรับปรุงโครงสร้างหนี้เพื่อลดยอดผ่อนลง หรือจะเลือกใช้วิธีเปลี่ยนสัญญาส่งต่อให้ผู้อื่นก็ได้เช่นกัน

 

ขอบคุณข้อมูลจาก sanook.com

.

.

.

.

_____________________________________

เราคือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

เทอร์โบแท้

✅IHI TURBO 🇯🇵

✅GARRETT 🇺🇸

ซื้อกับเราได้สินค้าแท้100%

คุ้มค่ากว่า ใช้งานได้ในระยะยาว

สบายใจกว่า เทอร์โบแท้รับประกันสินค้ายาวนาน

บริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม

โดยทีมงานมืออาชีพ ผู้มีประสบการณ์มากกว่า 24 ปี”

สั่งอะไหล่กับเรา "ออกใบกำกับภาษี" ได้

พร้อมบริการการดูแลหลังการขายตลอดอายุการใช้งาน

⚙️เข้าชมสินค้าทั้งหมดในเว็บไซต์

คลิก: www.sqdparts.com

⚙️สั่งซื้อทางเพจ

คลิก: m.me/sqdparts

⚙️สั่งซื้อผ่านไลน์

คลิก: https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=sqdparts

คลิกYoutube : https://bit.ly/3IAJstu

คลิกTiktok : https://bit.ly/3bXmLmN

คลิกInstagram : https://bit.ly/3AFxMDx

เขียนโดย sqdparts เมื่อ Wed 20 Sep, 2023
อ่านต่อ
แสดง รายการ
ร้านค้าออนไลน์ และ ขายของออนไลน์ โดย © 2006-2024 Vevo Systems Co., Ltd.